ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ลุยงานห้างฯ ฝ่าภัยน้ำท่วม 'จุ้มจิ้ม' ทายาทห้างฯ ดังหาดใหญ่

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 14:15 น. 23 ธ.ค 53

ทีมงานบ้านเรา

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน    


      
เป็นลูกสาวเจ้าของห้างใครว่าสบาย หลายคนอาจจะมองว่าเป็นคุณหนู ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ขอบอกว่าเมื่อได้คุยกับทายาทคนสวยของ "ศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์" หาดใหญ่ จุ้มจิ้ม-วรนันท์ จันทรัศมี ทำให้เปลี่ยนความคิดไปเลย แม้ภายนอกเธอจะดูเป็นคุณหนู แต่เมื่อได้คุย และได้รู้จักตัวตนของเธอแล้ว ทำให้รู้ว่า เป็นทายาทเจ้าของห้างก็ไม่ใช่จะสบายกว่าคนอื่น
       
       'จุ้มจิ้ม' เป็นลูกสาวคนโตของ เนตร จันทรัศมี เจ้าของศูนย์การค้า 'ไดอาน่าคอมเพล็กซ์ หาดใหญ่' หลัง จากเรียบจบคณะเศรษฐศาสตร์ มหาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ1) เธอเข้ามาดูแลงานในห้างอย่างเต็มตัว ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ ดูแลในส่วนมาร์เกตติ้ง, จัดแคมเปญ-โปรโมชันต่างๆ รวมถึงมองหาโปรดักต์ใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสันภายในห้างเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ห้างของเธอ และทำงานที่เธอควบคู่ไปด้วย คืองานแสดง เธอมีผลงานละครมาแล้ว 3 เรื่อง สกุลกา, น้องใหม่ร้ายบริสุทธ์, สงครามนางฟ้า นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นพิธีกรทางช่อง True Movie Hits และกำลังมีผลงานละคร "หอ หึ หึ" ที่เตรียมออนแอร์ทางช่อง 3

       

       สาวสวยคนนี้นอกจะเป็นคนเก่งแล้ว เธอยังเป็นคนที่มีมุมมองในการใช้ชีวิตแตกต่างจากสาวๆ วัยเดียวกัน เธอมีความรับผิดชอบ แม้ว่าเธอจะทำงาน 2 อย่างทั้งดูแลห้าง และเป็นนักแสดง แต่เธอก็จัดสรรเวลาในการทำงานได้อย่างลงตัว และล่าสุดกับเหตุการณ์ที่เหมือนเป็นการทดสอบเธอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมาทำให้ห้างของเธอได้รับผลกระทบไม่ใช่น้อยๆ สูญเสีญไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่ง เธอยืนหยัด และต่อสู้ร่วมกับครอบครัวอย่างเข้มแข็ง และมองว่าปัญหาทุกอย่างเป็นสิ่งที่ท้าทาย ทำให้เธอมองเห็นข้อบกพร่อง และทำให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
       
       'น้ำท่วม' เสียหายกว่า 10 ล้าน
       
       เธอเล่าถึงสถานการณ์ของศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์ หาดใหญ่ ล่าสุดที่เพิ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ ซึ่งขนาดห้างของเธอมีมาตรการป้องกันดีแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติรุนแรงครั้งนี้ รวมแล้วเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
       
       "จิ้มอยู่ในเหตุการณ์เลยค่ะ พักอยู่ชั้น 7 บนห้าง คือฝนตกหนักมากติดต่อกันประมาณ 3 คืน ตอนแรกเทศบาลก็เตือนธงเหลืองก่อน ห้างก็ต้องปิดเร็ว 6 โมงเย็น ให้พนักงานกลับไปก่อนเพื่อความปลอดภัย จนกระทั่งตอนดึกเขาก็เปลี่ยนจากธงเหลืองเป็นธงแดง ตื่นเช้ามาอีกวันน้ำก็ท่วมแล้ว ชั้นใต้ดินท่วมหมดเลย ระดับน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
       
       ก็ไม่ได้ตั้งตัวเลย ตกใจมาก แต่ก็พยายามขอความช่วยเหลือ เพราะว่าไม่ได้ตุนอาหารไว้ โชคดีที่ระดับน้ำลดเร็ว มีเครื่องปั่นไฟ ก็ยังดูข่าวได้ ติดต่อกับโลกภายนอกได้ ยังไม่ลำบากมาก มีคนอีกมากที่ลำบากกว่าเรา เราอยู่ในที่สูง ที่แห้ง ติดอยู่ประมาณ 2 วัน อยู่กับพ่อแม่ น้องชาย ผู้จัดการไฟฟ้า รปภ พนักงานบางคนที่กลับไม่ได้ก็อยู่ ประมาณ 20 คน ในห้างทั้งห้าง แต่ความเสียหายก็มาก เสียหายหมด
       
       ตอนนั้นที่ห้างก็มีมาตรการป้องกัน คุณพ่อให้วิศวกรทำกำแพงกั้นน้ำ ไม่ให้น้ำลงไปชั้นใต้ดิน โดยเอาแผงเหล็กกับกระสอบทรายมากั้นตรงทางเข้าชั้นใต้ดินไว้เแล้ว ตอนแรกที่คำนวณกันคิดว่าน่าจะกันได้ ก็เลยค่อนข้างจะเบาใจว่าเราไม่น่าจะกระทบ แต่ปรากฎว่าน้ำเชี่ยวมากจนแผงที่ทำไว้พัง ทำให้ชั้นใต้ดินเสียหายทั้งหมด ตั้งแต่พื้นจดเพดาน มีท็อปซูปเปอร์มาร์เกต แล้วก็ลานกิจกรรมใหญ่ ซึ่งเพิ่งรีโนเวตไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมานี่เอง ฟูดคอร์ต ลานโทรศัพมือถือ ลานโบว์ลิ่ง 22 เลน ชั้น 1 ก็กระทบ ความสูงประมาณระดับเข่า มีสินค้าบางส่วนที่เสียหาย

       

       วันที่น้ำท่วมจิ้มกับแม่ก็ลง มายกของขึ้นให้พ้นน้ำ ลงมาเก็บของกันกับ รปภ อีก 3-4 คน จนถึงวันนี้ชั้นใต้ดินก็ยังไม่ได้เปิด ตอนนี้ก็ประเมินความเสียหายกันอยู่ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน"
       
       เรียนรู้งานในห้างฯ ตั้งแต่เด็ก
       
       ด้วยความเกิดและโตมากับห้าง ตอนเด็กคุณพ่อของเธอก็จะสอนให้เธอเรียนรู้งานในห้าง โดยเริ่มจากให้ห่อของขวัญให้ลูกค้า ติดโบ เอาของใส่ถุง พอโตขึ้นมาหน่อยก็ให้เธอเป็นแคชเชียร์กดคิดเงิน ซึ่งทำให้เธอซึมซับงานในห้างมาตลอดชีวิต
       
       "พอเรียนมหาวิทยาลัย พ่อก็แบ่งพื้นที่หนึ่งในห้างให้เราลองบริหารดู ให้พื้นที่เปล่าๆ มา แล้วให้เราลองคิดดูว่าจะเอาพื้นที่ตรงนี้ไปทำอะไร แต่มาทำงานเต็มตัว เหมือนพนักงานทั่วไปก็ประมาณ 6 เดือน

       

       จิ้มเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ เพราะคิดว่าจะได้ช่วยธุรกิจที่บ้าน แต่พอเรียนไปเรียนมา ก็คิดว่าถ้าเกิดจะให้ตรงกว่า เรียนจบแล้วนำความรู้ที่ได้มาใช้ได้ ควรเรียนบริหาร มนุษศาสตร์การบัญชีจะตรงกว่า แต่ เศรษฐศาสตร์ถึงจะไม่ตรงแบบก็อบปี้มาใช้ได้เลย แต่ก็สอนแนวคิดได้ สอนกรอบความคิดให้เรารู้จักลำดับความคิดว่า อะไรสำคัญก่อน หลัง รู้จักจัดสรรทรัพยากรที่เรามีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
       
       จิ้มสอบติดธรรมศาสตร์ตั้งแต่ขั้นสอบตรง คือไม่ต้องไปเอนทรานซ์ เรียนได้เกียรตินิยม ตอนเด็กจิ้มเรียนได้ที่ 1 ใน 3 ของห้องมาตลอด จิ้มบอกว่าต้องยกความดีให้แก่พ่อแม่ที่ปลูกฝังเธอมาตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง
       
       "จิ้มว่าการเลี้ยงดูของพ่อแม่มีส่วนสำคัญมากๆ ตั้งแต่อยู่ในท้องเลย พ่อแม่ให้ฟังเพลงโมสาร์ตมาตั้งแต่อยู่ในท้อง ฟังเพลงคลาสสิกมาตั้งแต่เด็ก เวลาไปที่ไหนพ่อก็พยายามสอน สอดแทรกทุกสิ่งทุกอย่าง ไป เที่ยวต่างประเทศ เจอต้นมะพร้าว เจออะไรพ่อก็จะสอนภาษาอังกฤษตลอด จนกระทั่งโตขึ้นมาหน่อย พ่อก็จะตัดข่าวมาให้อ่าน เอาข่าวมาเล่าให้ฟัง คนอื่นอาจจะเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน พ่อจิ้มจะเล่าข่าว เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ"
       
       จัดสรรเวลาทำงานอย่างลงตัว
       
       ด้วยความที่เรียนเศรษฐศาสตร์มา เธอก็ได้นำเอาหลักของการจัดสรรมาประยุกต์ใช้กับตนเอง ในเรื่องของการบริหารเวลา ที่เธอต้องทำควบคู่ทั้ง 2 งาน คืองานในวงการบันเทิง และดูแลห้าง
       
       "จิ้มจะให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารเวลา ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน อย่างจิ้มทำงาน 2 วงการพร้อมกัน ธุรกิจด้วย วงการบันเทิงด้วย บริหารเวลาอย่างไรให้ทุกอย่างสมดุล และ ก็ไม่เสียอันใดอันหนึ่งไป เราต้องจัดลำดับความสำคัญ ต้องดูว่าอย่างธุรกิจ การมีทีมงานที่ดีก็ช่วยได้เยอะ อย่างเราเป็นคนคิดไอเดีย วางระบบ รู้จักกระจายงานให้เพื่อนร่วมงาน เราก็มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่เราชอบ
       
       เราก็ต้องรู้ว่าเรามี 7 วัน ใน 1 อาทิตย์ เรารักที่จะเล่นละครเราก็ให้ละครไป 4 วัน อี ก 3 วันเราก็ให้ห้าง ต้อง บาลานซ์กันอย่างน้อย 50/50 เวลาถ่ายละครก็ไม่ใช่ทิ้งงานห้างไปเลย เดี๋ยวนี้เทคโนโลยี ก็เอาโน้ตบุ๊ก เอาไอแพดมาทำงานก็ลิงก์กับออฟฟิศได้ เรื่องธุรกิจด้วยความที่เราเป็นเจ้าของด้วยก็ต้องดูหลายด้าน เราก็แบ่งได้อีกว่า วันจันทร์เราดูเรื่องการเงิน วันอังคารดูเรื่องการตลาด วันพุธดูยอดขาย วันพฤหัสฯ ดูงบประมาณ วันศุกร์ดูเรื่องสินค้า การคิดอะไรใหม่ๆ มาปรับปรุงห้างเราตลอดเวลา ก็ต้องแบ่งอย่างนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้วางอย่างนี้ได้เป๊ะๆ ถ้าวันไหนมีปัญหาให้เข้ามาจัดการ เราก็ต้องยืดหยุ่นได้"
       
       ถึงแม้จะทำงานเต็มที่ทั้ง 7 วัน แต่สาวจิ้มบอกว่า เหนื่อยแต่ก็สนุก เพราะได้คิดไอเดียใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอด แล้วยิ่งทำงานสำเร็จ เธอก็ยิ่งมีความสุข
       
       "ยิ่งทำงานเยอะๆ อย่างนี้มันก็มีปัญหาให้แก้ตลอดเวลา มีคอมเพลนจากลูกค้า พนักงานคนนี้พูดจาไม่เข้าหู ทำไมวันนี้แอร์ร้อน ในเรื่องของพนักงานเอง คนนี้ทำไม่ได้อย่างนี้ คนนี้ทำไม่ได้อย่างที่เราคาดหวัง คนนั้นมีปัญหากัน คุยกันไม่รู้เรื่อง มี ปัญหาให้เข้ามาแก้ตลอด แต่ด้วยปัญหาที่เข้ามา มันยังไม่เท่ากับสิ่งดีๆ และความสุขที่เราได้รับ จิ้มมองว่าปัญหาเป็นสิ่งที่ท้าทายให้เราเก่งขึ้นไปอีก ก็พยายามมองอย่างนั้น ถ้าความทุกข์มันยังไม่มีน้ำหนักเท่ากับความสุข เท่ากับความตื่นเต้นที่เราได้รับ ก็ทำให้เราอยู่ไปได้
       
      สัญญาใจที่ให้แก่คุณพ่อ
       
       งานในวงการแม้ว่าจะเป็นงานที่เธอรัก และมีความสุข แต่เธอก็ไม่สามารถรับงานได้อย่างเต็มที่เหมือนคนอื่นๆ เพราะเธอมีสัญญาใจที่ให้ไว้กับคุณพ่อว่าจะไม่ทิ้งงานของห้าง
       
       "งานในวงการบันเทิง จิ้มรับงานละครได้ที่ละเรื่อง เพราะต้องดูแลงานของห้างด้วย และจิ้มมีข้อจำกัดอีกเรื่องคือ จิ้มมีสัญญาใจกับคุณพ่อไว้แล้ว ทำให้บทบาทที่รับได้ค่อนข้างจำกัด คือคุณพ่อจะเข้มงวดบางเรื่อง ให้เล่นละครได้ ถ่ายแบบได้ แต่ห้ามโป๊ เลิฟ ซีนรุนแรงไม่เอา ถ้าไม่อยากให้เขาหัวใจวายนะ บางมุมเข้มงวดกับเรื่องการแต่งตัว เรื่องการวางตัว ท่านจะปลูกผังเรื่องความเป็นกุลสตรีที่อย่างทิ้งความเป็นไทย อย่าทำอะไรที่หลุดกรอบของความเป็นไทยที่ดีงาม และ เรื่องของความเป็นระเบียบ สอนว่าเราเป็นคนคุมห้าง ถ้าตัวเราไม่มีระเบียบแล้วห้างของเราจะเป็นระเบียบได้ยังไง ธุรกิจของเราสะท้อนภาพของตัวเรา การใช้ของให้คุ้มค่า ยาสีฟันซื้อมาแล้วต้องบีบให้หมดหลอด น้ำหนึ่งขวดก็ดื่มให้หมด ใช้ให้คุ้มค่าที่สุด
       
       กับคุณพ่อเราปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนุ่ม ๆ เรื่องปัญหาหัวใจ เรื่องส่วนตัว หรือเรื่องอะไรก็ตาม ท่านจะให้คำปรึกษาแบบไม่เหมือนคนรุ่นเก่า ท่านจะเป็นสคนไม่บังคับ แต่จะให้คำปรึกษาเหมือนคุยกับเพื่อนวัยเดียวกัน ว่าให้เราลองอย่างอย่างนั้นสิ แล้วท่านเป็นคนโอเพนมาก ไม่ละทิ้งเรื่องศิลปะ วัฒนธรรมไทย ศาสนา ไม่ทิ้ง จิ้มก็รู้สึกภูมิใจจังที่คนนี้เป็นพ่อเรา"
       


      ความสุขหาได้ง่ายๆ
       
       พอถามถึงเรื่องไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของสาวสวย ทายาทห้างดังแบบเธอ ปรากฎว่าคำตอบที่ได้รับกลับไม่ใช่การไปเดินชอปปิ้ง ซื้อของแบรนด์เนม หรือการไปพักผ่อนสปา แบบที่สาวๆ ส่วนใหญ่นิยมกัน ความสุขของเธอเป็นอะไรที่เรียบง่าย และตรงกับความเป็นตัวของเธอเอง เธอชอบนวดแผนไทยโบราณ ชอบเดินห้าง แต่เดินเพื่อศึกษาข้อมูลนำมาปรับใช้กับห้างตัวเอง
       
       "เป็นผู้หญิงที่ติดนวดแผนไทยมาก นวดแผนไทยมันเจ็บ แต่รู้สึกมีความสุข ต่อให้เจ็บก็รู้สึก อึ๊ย..มันต้องอย่างนี้แหละ ก็ชอบอยู่ดี จิ้มชอบมือหนักๆ ด้วย ซาดิสต์ เอ๊ย..ไม่ใช่ (หัวเราะ) ติดไปเฮลท์แลนด์มาก อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ที่จะไปนวดไทย จิ้มว่ามันเป็นวิธีการผ่อนคลายที่สุดยอดของจิ้มแล้ว จนพี่ที่นวดเขาถามเลยว่าอายุแค่นี้นวดแล้วเหรอ ส่วนใหญ่ผู้หญิงชอบไปสปา แต่วิธีรีแลกซ์ของจิ้มจะชอบไปนวดกับชอบไปสวนสนุก 2 อย่าง ชอบไปสวนสนุกทุกที่ในโลก ในไทยไปดรีมเวิลด์ก็ได้ อย่างที่พัทยาจะมีบ้านผีสิง ริบลี่ อะไรที่เป็นสวนสนุกจะรู้สึกสนุก มีความสุข ลืมความเครียดไปเลย ดิสนีย์แลนด์ ยูนิเวอร์แซล ทุกที่ในโลกที่มีสวนสนุกเจ๋งๆ จะขอไปให้หมด จิ้มขอสวนสนุกเลย ชอบมาก
       
       เวลาว่างชอบเดินห้าง แต่ไม่ได้ด้วยจุดประสงค์เหมือนผู้หญิงทั่วไปนะ เพราะเราทำธุรกิจห้าง เราก็ชอบไปเดินทุกห้าง ทุกที่ในโลกนี้ ตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่ ว่าห้างเขามีอะไร เขามีอะไรให้เรานำไปปรับใช้ได้ไหม ห้างใหญ่ๆ เขามีอะไรนะ มีความเคลื่อนไหวยังไง มันจะมีความสุขทุกครั้ง แล้วเราก็ชอบจินตนาการว่าห้างเราจะปรับใช้อย่างนี้ๆ ดีไหม หรือจะทำยังไงให้ดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นจะเจอจิ้มได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
       
       ความสุขของจิ้มทุกวันนี้จาก ใจจริงเลย คือการทำให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจ ยิ้มได้ แล้วรู้สึกว่าท่านหายเหนื่อยเพราะเรา มันเป็นอะไรที่เป็นความสุขสุดยอดที่สุดแล้ว เมื่อก่อนอาจจะมีความ รู้สึกว่าโลเล ว่าจะช่วยงานดีหรือไม่ดี เราจะทำได้หรือเปล่าเหมือนคุณพ่อก็เริ่มจะถอดใจว่าจะฝากธุรกิจไว้กับเราดี หรือเปล่า ท่านก็เคยพูดนะ ตอนนั้นเราก็อึ้ง ก็ช็อก เสียใจมาก ก็เลยเป็นจุดเปลี่ยนว่าเราโตแล้วนะ"
       
      สาวหน้าหวาน แต่ชอบลุย
       
       เห็นเธอหน้าหวานๆ แต่งตัวสวยๆ แบบนี้ แต่เธอบอกว่าจริงๆ แล้วนิสัยเธอจะออกเป็นแนวผู้ชายหน่อย ชอบลุย ชอบความท้ายทาย และเป็นคนไฮเปอร์ แอ็กทีฟ อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องหากิจกรรมทำตลอด
       
       "เป็นสาวไฮเปอร์ แอ็กทีฟ เป็นเด็กไม่ชอบอยู่ว่างๆ ต้องหาอะไรมาทำจนได้ คน มองว่าเป็นคุณหนู แต่จริงๆ แล้วเป็นคนลุยนะ เป็นคนสบายๆ ไม่ติดแบรนด์ จะให้กินชายสี่หมี่เกี๊ยว เดินจตุจักร ซื้อเสื้อตัวละ 99 ก็ได้ เป็นคนที่ยืดหยุ่น ไม่มีอะไรตายตัว ว่าชั้นเป็นคนแบบนี้ มีเส้นทางแบบนี้ จิ้มเป็นคนยืดหยุ่น และเปิดรับ ก็จะปรับตัวไปได้ แต่ข้อเสียก็มีคือ ไม่ค่อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนเท่าไหร่ ไม่ใช่คนอยู่บ้านทำกับข้าว ร้อยมาลัย ซักผ้ารีดผ้า อันนี้ไม่ เป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไหร่ เป็นคนที่ซื้อของอะไรกลับบ้านมาก็มาวางๆ ไว้ แล้วก็ไปทำอย่างอื่น เป็นคนเบื่อง่ายนิดหนึ่ง หมายถึงว่าเวลาทำอะไรอยู่ ถ้ามีอันใหม่มาน่าสนใจตื่นเต้น ก็อาจจะทิ้งอันเก่าไว้ แล้วหันไปทำใหม่
       
       แล้วก็ชอบความท้าทาย แต่ก็ยังมีความเป็นผู้หญิงอยู่ มีความรักสวยรักงามอยู่ ชอบแฟชั่น ชอบแต่งตัว ชอบดูแลตัวเอง ก็แบบผสมกัน เรียกว่าเป็นคนที่มีหลากหลายสไตล์ในตัวเอง เป็นคนเปิดรับอะไรใหม่ๆ ชอบความท้าทายตลอดเวลา และก็เป็นคนไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไหร่"
       


      'จุ้มจิ้ม' ชื่อนี้มีแต่คนล้อ
       
       ได้ยินชื่อเธอครั้งแรกก็รู้สึกว่าเป็นชื่อที่แปลก ไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้บ่อยๆ นัก ซึ่งเธอก็เล่าว่าชื่อของเธอก็ทำให้โดนเพื่อนล้อตั้งแต่เด็ก จนถึงทุกวันนี้ เวลาไปกองถ่ายหลายคนก็ยังล้อชื่อเธออยู่
       
       "คุณพ่อคิดเอาไว้แล้วว่าชื่อลูกยังไงก็ต้องเป็นอะไรที่แปลก จำได้ง่าย ไม่ซ้ำใคร เอาง่ายๆ ไม่ได้ ไปๆมาๆ ก็ไม่รู้ว่าออกมาเป็นจุ้มจิ้มได้ไง เหมือนตอนท้อง พ่อก็จิ้มท้องแม่ไปเรื่อยๆ ก็จุ้มจิ้มๆ ก็เลยคงเป็นที่มา ชื่อจุ้มจิ้มแล้วกัน ทุกวันนี้ โตป่านนี้แล้วก็ยังโดนล้อ ไปกองถ่ายเจอคนใหม่ๆ ก็ยังโดนล้อ แล้วคนเรียกชื่อถูกก็ยากมาก โดยเฉพาะถ้ามีเพื่อนฝรั่ง โอโหเรียกไม่ได้เลย ก็เลยให้เขาเรียกว่า เจเจ เวลาแชตบีบีกับเพื่อนก็จะใช้ชื่อเจเจ กลายเป็นชื่อที่ 2 ไปแล้ว มันจะเป็นจุ๋มจิ๋ม จิ้มจุ่ม ล้อกันไป เราก็โอ๊... ชิน ตอนเด็กก็น้อยใจนะ ร้องไห้ ฟ้องแม่ ตอนหลังก็กลายเป็นชิน และตลกไปกับมันแล้ว แล้วก็ดีที่ทำให้คนจำได้ง่ายด้วย"


       
      ความคิดโตเร็วเกินวัย
       
       เท่าที่ได้คุย รู้สึกว่าเธอมีความเป็นผู้ใหญ่ และมีความคิดอ่านในการมองโลก และการใช้ชีวิตอย่างดี มีความอิสระ ภายใต้กรอบอันดีงานที่เธอ และครอบครัววางเอาไว้
       
       "จิ้มอาจจะโตเร็วหน่อย เริ่มทำงานตั้งแต่ตอนเข้ามหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นก็จะเรื่องของความรับผิดชอบ การวางตัวให้เขากับคนอื่น อาจจะทำให้โตกว่า เวลาเจอเพื่อนน้อยมาก ก็พยายามคุยกันผ่านบีบี ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กไป บางคนอาจจะติดเพื่อนรักสนุก ค้นหาตัวเองอยู่ แต่เป้าหมายในชีวิตจิ้มอาจจะมาเร็วนิดหนึ่ง ทำให้เราค่อนข้างโต แล้ว ตอนนี้ก็เหมือนเรากำลังบ้างาน ทำให้อาการติดเพื่อน อาการอยากแฮงก์เอาปาร์ตี้ ลดลง พอเหนื่อยจากการทำงานก็มีบางอารมณ์ที่รู้สึกอยากอยู่คนเดียว ผ่อนคลาย นั่งคิดอะไรเพลินๆ นั่งสมาธิคนเดียว ด้วยอายุเท่านี้ ก็อาจจะดูเราโตเร็วไปนิดหนึ่ง"

       

       ชอบผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกเย็น
       
       ส่วนเรื่องของหัวใจ ด้วยความทำงานเต็มตลอดทั้ง 7 วัน และกำลังสนุกกับงานจนถึงเรียกได้ว่าบ้างาน เธอจึงไม่มีเวลาสร้างความสัมพันกับหนุ่มๆ แต่สำหรับหนุ่มๆ ที่คิดจะขายขนมจีบให้เธอ เธอบอกว่าเธอชอบผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะชีวิตเธอเจอเรื่องวุ่นวายมาตลอดทุกวันแล้ว
       
       "เรื่องหนุ่มๆ ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ เรียกว่าช่วงนี้โลกส่วนตัวอาจจะสูง เวลาที่มีทั้งหมด ทำงานเกือบหมดเลย 7 วัน ก็เลยไม่มีเวลาไปสร้างความสัมพันธ์กับใคร เพราะการเป็นแฟนกันมันต้องมีดูหนัง ใช้ชีวิตไปไหนมาไหนด้วยกัน สักระยะถึงจะรู้ว่าใช่ ไม่ใช่ แต่ตอนนี้อาจจะไม่มีเวลาให้ไปศึกษา แต่ก็มีคนคุยๆ มีคนเข้ามา แต่เหมือนยังไม่เจอคนที่ใช่ ถึงขนาดใช้คำว่าแฟน
       
       ตอนเด็ก มีสเปก ชอบผู้ชายตัวขาว ปากแดง หัวตั้ง ขับรถมารับเรา แต่ตอนนี้พลิกเลย อยากได้คนอยู่ด้วยแล้วเป็นธรรมชาติ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกเย็น เพราะชีวิตเราวุ่นวายติดต่อคน แล้วพอขึ้นรถปุ๊บ ก็หมดแล้ว เป็นคนที่จะนึกถึงอยากเจอเขาจังเลย อยู่ด้วยแล้วเย็น เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องมานั่งเก๊กหล่อสวย ยอมรับที่เราเป็นเรา และเป็นคนที่นั่งคุยกัน 2 คนแล้วไม่รู้จักเบื่อ ต่อยอดความคิด อยู่ด้วยแล้วสนุก กลมกลืนกับชีวิตเรา เข้ากับไลฟสไตล์เราได้อย่างเป็นธรรมชาติ"
       
      มูลนิธิที่อยากหาคนมาช่วยดูแล
       
       นอกจากจะสวย เก่ง แล้ว เธอยังใจดีอีกด้วย เธอบอกว่าครอบครัวเธอมีมูลนิธิ บัณฑิต สายสวาท จันทรัศมี ซึ่งตอนนี้กำลังขาดคนที่จะมาดูแลในเรื่องของการจัดสรรเงินทุน ถ้ามีใครสนใจอยากช่วยเหลือก็ติดต่อเข้ามาทางห้างของเธอได้เลย
       
       "คุณย่าของจิ้ม ท่านจัดตั้งมูลนิธิ บัณฑิต สายสวาท จันทรัศมี มีเงินทุนเอาไว้เป็นทุนการศึกษาเด็กที่เรียนดี แต่ขาดโอกาส ก็จะส่งเสียเขาทุกปี ใครสตาร์ทตอนไหน ก็จะส่งเสียเขาจนจบมหาวิทยาลัย ถ้าเขาเรียนจบแล้ว เขาอยากมาทำงานกับบริษัทเรา ก็ยินดีรับ หรือจะไปทำอย่างอื่นที่เขาชอบก็ได้ แต่ตอนหลังคนดูแลกองทุนเขาไม่อยู่แล้ว เราก็เลยมามองให้ใกล้ตัวขึ้น เป็นการช่วยเหลือลูกของพนักงาน เพราะบางคนลำบากมาก มีหนี้สิน มีลูกหลายคน ก็เลยเริ่มมีการให้ทุนการศึกษาลูกของพนักงาน
       
       แต่เราก็คุยกันกับครอบครัวนะคะว่าอยากให้มีการช่วยเหลือขยายวงกว้างไปกว่านี้ แต่ว่าเราเองก็มีอยู่ 3-4 คนในครอบครัว ก็ ขอถือโอกาสนี้ช่วยกระจายข่าวให้ด้วยว่า ถ้ามีใครหรือหน่วยงานไหนที่สนใจจะช่วยมาปิ๊งไอเดียให้เราหน่อย ว่าอยากจะให้เราเข้าไปช่วย เรามีเงินทุนตรงนี้อยู่ในมือก็ติดต่อเข้ามาได้เลย"
       


เป็นดรัมเมเยอร์งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 60



ละคร น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์



ครอบครัวจันทรัศมี

       
       รายงานข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์
       
       
       ภายโดย วรงค์กรณ์ ดินไทย
       
       (ภาพประกอบจาก HI5 จุ้มจิ้ม)
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ขอรวย ไม่สวยก็ได้


กิมหยง

กระต่ายนี้ เธอมาแน่ "องค์หญิงไดอาน่า - องค์หญิงของเมืองหาดใหญ่"
สร้าง & ฟื้นฟู

กิมหยง

ความเห็น 3 และ 4 มีคำชี้แจงเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ

24 ชั่วโมงจะลบทิ้งนะครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

Vectra


สะก็อต

คนที่รวยและสวยมากด้วยความสามารถอย่างพี่จิ้มหายาก

ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่จิ้มต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆให้ผ่านไปได้

แล้วก้อพัฒนาห้างไดอาน่าให้มีความทันสมัยและน่าเที่ยวกว่าเดิม

เพื่อเป็นสีสันของเมืองหาดใหญ่อีกห้างนึงนะครับ

กระทู้ที่3

กระต่ายนี้ เธอมาแน่ "องค์หญิงไดอาน่า - องค์หญิงของเมืองหาดใหญ่"  ขยายความหน่อย
โดยเฉพาะ  องค์หญิงของเมืองหาดใหญ่

J-Dai


กิมหยง

อ๋อ องค์หญิงไดอาน่า ไง

ประเด็นนี้ได้นำมาทายช่วงปลายปีที่แล้วก่อนน้ำท่วมครับ
พอน้ำท่วมเปลี่ยนบอร์ดใหม่ เลยไม่ได้มาต่อความ

มาดูอีกที astv ไปสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว

ส่วนตัวชอบและชื่นชมครับ
สร้าง & ฟื้นฟู