ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

31 พ.ค.วันงดสูบบุหรี่โลก สคร.12 สงขลา ย้ำบุหรี่ทำร้ายร่างกาย ชวนหนุนกฎหมายบุหรี่

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 16:26 น. 29 พ.ค 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

31 พ.ค. วันงดสูบบุหรี่โลก สคร.12 สงขลา ย้ำบุหรี่ทำร้ายร่างกาย ชวนคนไทยหนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่

วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็น วันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งในปี 2558 นี้รณรงค์ภายใต้แนวคิด "หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย" (Stop illicit trade of tobacco products)  เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่สูบบุหรี่อยู่เลิกสูบ และให้รัฐบาล ชุมชน และประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญ

ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า บุหรี่เป็นสิ่งเสพติดมีฤทธิ์ผสมของสารพิษที่เป็นตัวการสำคัญของโรคร้ายแรงเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะสารก่อมะเร็งซึ่งควันบุหรี่ก่อให้เกิดโทษต่อทั้งผู้สูบเองและผู้สูดดม หรือที่เรียกว่า ควันบุหรี่มือสอง อาจจะป่วยด้วยโรค หลอดลมอักเสบ และปอดบวม หญิงตั้งครรภ์และทารกที่ได้รับควันบุหรี่มือสองอย่างต่อเนื่อง จะมีโอกาสเกิดครรภ์เป็นพิษ จะทำให้น้ำหนักครรภ์เพิ่มน้อยกว่าปกติ อาจส่งผลกระทบให้เกิดภาวะรกเกาะต่ำ และรกรอกตัวก่อนกำหนดมากขึ้น ลูกอาจจะมีน้ำหนักและความยาวน้อยกว่าปกติ พัฒนาการทางสมองช้า อาจจะมีความผิดปกติทางระบบประสาท แท้ง คลอดก่อนกำหนด ผู้ใหญ่ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็งที่ลำคอและเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งอื่นๆ มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีนักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้นปีละกว่า 200,000 คน ทำให้รัฐต้องเสียงบประมาณรักษาผู้ป่วยจากบุหรี่ปีละกว่า 52,000 ล้านบาท

สำหรับผู้ตั้งใจที่จะเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องยาก ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจของแต่ละคนรวมถึงโอกาสและระยะเวลาซึ่งทุกคนสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากบุหรี่และป้องกันผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวเอง และคนที่คุณรักจากพิษภัยของบุหรี่ คือ การลด ละ เลิก บุหรี่ แล้วหันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพ และร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปลอดควันบุหรี่

ดร.นายแพทย์สุวิช กล่าวเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. ... จะช่วยสกัดการสูบบุหรี่ของเยาวชนได้ เพราะหลายปีที่ผ่านมาการสูบบุหรี่ของสังคมโดยรวมลดลง แต่สำหรับเยาวชนกลับเพิ่มขึ้น ฉะนั้นต้องสกัดนักสูบหน้าใหม่ เพราะนักสูบหน้าใหม่ไม่มีกำลังซื้อ สำหรับรายละเอียด พรบ. นี้ กำหนดไม่ให้มีการขายแยกมวน ห้ามขายแบ่งซอง กำหนดสถานที่ห้ามสูบบุหรี่บางสถานที่ เช่น สถานทีราชการ สถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา สถานีขนส่งทุกประเภท รถโดยสารสาธารณะ และผู้ซื้อจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี รวมทั้งปรังปรุงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยาสูบ ให้คลอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า มอระกู่ มอระกู่ไฟฟ้า เป็นต้น หากมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการจะช่วยลดจำนวนเยาวชนไทยที่ติดบุหรี่ได้ปีละ 100,000 ราย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่สามารถสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1422 สายด่วน กรมควบคุมโรค


ข่าวโดย อรรฆวรรณ สุขคล้าย นักประชาสัมพันธ์
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา