ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

"เรียนในสิ่งที่รักเถอะลูก" คนเก่งไม่จำเป็นต้องเรียนหมอ!

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 11:39 น. 09 มิ.ย 58

หาดใหญ่ใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์        

กลายเป็นกระแสที่ชาวเน็ตแห่แชร์กันอย่างล้นหลาม สำหรับภาพการจดเลกเชอร์วิชาชีวะของสาวน้อยผู้คว้าคะแนนแอดมิชชั่นอันดับหนึ่งของประเทศ และได้คะแนนสูงสุดของคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "ปรางค์-ศิรดา ไตรตรึงษ์ทัศนา" นักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ทว่า ล่าสุดมีการพูดถึงคำสอนของพ่อน้องปรางค์ถึงเหตุผลที่ให้ลูกเรียนในสิ่งที่ชอบมากกว่าการเรียนแพทย์ศาสตร์ที่หลายคนคาดหวัง

[attach=1]
       
        บนโลกออนไลน์มีการพูดถึงกรณีที่คุณพ่อของน้องปรางค์ออกมาแสดงความคิดเห็นในเฟซบุค "Ittaporn Kanacharoen" ถึงคำตอบที่ชาวเน็ตตั้งคำถามขึ้นว่าทำไมน้องปราค์ถึงเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ มากกว่าการเรียนแพทยศาสตร์ ทั้งที่จบสายวิทย์-คณิตมาจากมัธยมปลาย ซึ่งคุณพ่อของน้องปรางค์ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า "ลูกสาวเหมาะกับการเรียนแพทย์มาก แต่เขาไม่ชอบ คิดว่าหากลูกได้เรียนในสิ่งที่รักที่ชอบ จะมีจะจนก็คงมีความสุข และความภูมิใจกับความสำเร็จจะตามมาเอง"

        "ลูกสาวบอกว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์อย่างเดียว อาชีพอื่นก็ทำได้ แค่เขาไม่ยอมไปสอบแพทย์ ก็เท่ากับไม่ไปสอบกันที่คนอื่นๆที่อยากเรียนแพทย์ ถึงสอบได้เขาก็ไม่เรียน หากเขาเรียนนิเทศน์ เขาสามารถทำสื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่คนทั่วไป ปรับทัศนคติ หรือค่านิยมไปในทางที่ถูกต้องได้เช่นกัน"
       
        หลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียล ชาวเน็ตต่างพากันแสดงความยินดีและร่วมกันชื่นชมถึงวิธีการคิดและมุมมองการสอนลูกที่ถึงแม้อยากให้ลูกเรียนหมอก็ตาม แต่สุดท้ายคุณพ่อน้องปรางค์ย่อมให้ลูกเลือกเรียนในสิ่งที่ถนัดและตามความสนใจของตัวเด็กเอง "ชื่นชมคุณพ่อ คุณแม่ ทีสอนลูกได้ดีขนาดนี้ และให้ลูกได้เรียนในสิ่งที่ลูกชอบ ไม่ใช่พ่อแม่ชอบ คนเก่งเรียนอะไรก็สามารถออกมาพัฒนาด้านไหนก็ได้"
       
         ในขณะเดียวกันทางเฟซบุคแฟนเพจ "สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย" ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านแฟนเพจดังกล่าว ถึงกรณีการเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ของนักเรียนที่ได้คะแนนสอบแอดมิชชั่นอันดับหนึ่ง รวมถึงแสดงความชื่นชมกับหลักคำสอนของพ่อแม่ผู้ปกครองที่เข้าใจความต้องการของลูก พร้อมระบุข้อความว่า..

        "จะมีอะไรที่ดีไปกว่า การรู้จักตัวเอง และมีโอกาส เลือกทางเดินชีวิต-ของตัวเอง ด้วยตัวเอง วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังค้นหาอัตลักษณ์ (identity) หรือความเป็นตัวของตัวเอง เราจะรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถนัดสิ่งไหน ก็ต่อเมื่อได้ทำกิจกรรมหลายอย่างๆ ได้พบเห็นอะไรที่หลากหลาย"
       
        "ระบบการศึกษาของไทยทุกวันนี้ไม่ได้สนับสนุนสิ่งที่กล่าวไปเท่าไหร่นัก ยัดทะนานวิชาการให้เด็กตั้งแต่ยังตัวเล็กตัวน้อย ค่านิยมของสังคม ที่ว่าคนเก่งต้องเรียนหมอ เรียนวิศวะ และค่านิยมส่วนตัวของผู้ปกครองที่อยากให้ลูกทำงานอะไร ก็มีส่วนทำให้เด็กๆ ยิ่งติดอยู่ในวังวนนี้ สุดท้ายเราได้ผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักตัวเอง ไม่มีความสุขอย่างที่ควรจะมีมาจำนวนไม่น้อย บางคนเรียนเก่งก็จริง แต่ปรับตัวไม่เป็น ไม่มีวุฒิภาวะ เพราะอยู่แต่กับตำราและการชี้นำของทางบ้านมาตลอด"
       
        ทีมงาน Life on Campus ต้องขอชื่นชมในวิธีการสอนและมุมมองการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ส่งเสริมให้ลูกเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบมากกว่าจะบังคับให้เด็กเรียนในสิ่งที่ไม่ถนัด เรียกได้ว่าเป็นพ่อแม่ต้นแบบที่สังคมไทยควรให้การนับถือเลยก็ว่าได้

        ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน