นำเหยื่อค้ามนุษย์ชี้ตัวผู้ต้องหาส่วนโรฮิงญาที่หลบหนี 11 คน ตามตัวกลับได้หมดเเล้ว

[JaY_SoniC]

ความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ที่ จ.สงขลา ล่าสุดวันที่ 11 มิ.ย. 58 พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ. 9 หัวหน้าชุดสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา และ คณะพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ รวมทั้งทนายความ ได้นำพยาน ซึ่งเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ชาวบังคลาเทศ 15 คน ชาวโรฮิงญา 18 คน และ พยานคนไทย 1 คนไปชี้ตัวผู้ต้องหาค้ามนุษย์ 17 คน ที่เรือนจำจังหวัดนาทวี ซึ่งเหยื่อกลุ่มนี้ถูกขบวนการค้ามนุษย์กักตัวอยู่บนแคมป์เขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งทั้งหมดสามารถชี้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 17 คน ได้อย่างแม่นยำ

ทั้งนี้ในจำนวนเหยื่อค้ามนุษย์ที่เจ้าหน้าที่นำไปชี้ตัวผู้ต้องหามี 3 ราย ที่ตกอยู่ในสภาพที่ขาลีบไม่มีเรี่ยวแรง และต้องใช้วอคเกอร์ช่วยพยุงตัว เนื่องจากถูกกักตัวให้นั่งๆนอนๆอยู่ภายในแคมป์บนเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ เป็นเวลานานตั้งแต่ 6 เดือน 1 ปี และ 2 ปี แม้จะจ่ายเงินให้ขบวนการค้ามนุษย์ไปแล้วคนละ 80,000-100,000 บาท เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 แต่ก็ไม่ได้ถูกส่งตัวไป เนื่องจากบางคนถูกแก๊งค้ามนุษย์ระบุว่ายังไม่ได้จ่ายเงิน และบางคนแก๊งค้ามนุษย์รับเงินไปแล้ว แต่ขัดแย้งกันเอง

ส่วนความคืบหน้าในด้านคดีนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 89 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 55 คน เหลืออีก 34 คน ที่ยังคงหลบหนี ซึ่งชุดสืบสวนยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม  สำหรับผู้ต้องหา 2 คน ล่าสุดที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ที่ จ.พังงา ทั้ง นายฮาซอล ชาวบังคลาเทศ และ นายอับดุลฮาเมด ชาวเมียนม่า ซึ่งทำหน้าที่นำพาชาวโรฮิงญาเข้าไทย ขณะนี้ได้ถูกส่งตัวมาควบคุมที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร ภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ แล้ว และเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดี 13 ข้อหา เหมือนกับผู้ต้องหาในคดีนี้ทุกคน

ขณะที่ความคืบหน้ากรณีชาวโรฮิงญาที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หลบหนีออกจากสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จำนวน11 คน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา และติดตามกลับมาได้แล้ว 6 คน ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวชาวโรฮิงญาอีก 5 คน ที่เหลือกลับมาได้แล้ว หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเดินวนเวียนอยู่ในป่าสวนยางบริเวณเทือกเขาแก้ว หมู่ 11 บ้านนิคม ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ในสภาพที่อิดโรย และออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลับมาดูแลยังสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการมนุษย์ โดยทราบว่า ทั้ง 5 คน ต้องการที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 แต่ไม่ทราบเส้นทาง และต้องเดินวนเวียนพลัดหลงอยู่ในป่านานถึง 4 วัน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการดูแลชาวโรฮิงญากว่า 100 คน ที่อยู่ในสถานคุ้มครองแห่งนี้ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เพื่อป้องกันการหลบหนี เนื่องจากบางส่วนอยู่ในสภาพที่เริ่มอึดอัด และต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 โดยเร็วที่สุด
/////