ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มูลค่าพ่อราคา 3.5แสน .. อ่านแล้วน้ำตาคลอ

เริ่มโดย sunny_pepo, 09:11 น. 13 ต.ค 54

sunny_pepo

นึกถึงวันที่เอาเงิน 1 แสนบาท ไปคืน... ขอบคุณมากครับ คุณลุง..อย่าเสียใจไปเลยครับ

.....................ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติด กัน มีคุณลุงคนหนึ่ง เป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆ ทั้ง 3 คน ต่างก็แต่งงาน มีครอบครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด ..ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียว มาเกือบ 10 ปี

..........เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก ..มีโรคประจำตัวตาม ประสาคนแก่ คือเบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ...

ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วย เหลือ ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุรต่างๆ และถ้า ป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูกๆ ของแกให้.. ..............................ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส

แต่ !!! เรารู้ว่า คุณลุงเหงา !!!!..... บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะ ท่านเสียไป หลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่...

..........ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้ ...ลุงก็ดีใจ ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่ ...

แล้ว!!!.................

ท่านก็ได้แต่ รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ ......จนน้ำตาไหล ท่านได้แต่เฝ้ารอ นั่งมองแต่ ประตูหน้าบ้าน รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้างในช่วงเทศกาล ................................... หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ...เจอเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาข้างกายของคนที่เรียกลุงว่าพ่อ

..........เราก็ได้แค่ ปลอบ ว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่าๆ...

............ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อย เป็นพิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และ คุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง.......ลุงจะคัดลูกสวยๆ เก็บใส่กล่อง ดูแลเป็นพิเศษ...เก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ .......หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุง รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน

หลายปี ????? มานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้ด้วยใจรัก แม้แต่ครั้งเดียว

........คุณลุงมีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ ...5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่ สุดก็มีผู้สนใจ และก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท ...

........เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ...คิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่า จะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน ...

..........วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไป โอนเงินให้ลูก เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร...คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท ...

..........เมื่อกลับมา...จอดรถส่งลุง หน้าบ้าน...ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาท ยื่นส่งให้ บอกว่า..เอานี่ "ลุงให้" เรารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว ลุงบอกว่า "เอาไปเถอะ" !!!!

...........ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเรา ต้องรับโทรศัพท์ และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับ รถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบ แทนบ้างเลย พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ สารพัด............ รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ......เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง

..........กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ...แต่ลุงไม่รับคืน และยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริงๆ....

...........อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็ก และคนกลางมาเยี่ยม และทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า...เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรา รีบเข้าไปในบ้าน หยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง...

..........ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้แล้วเดินออกมา ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป ...................สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว

คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ..ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้... ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท...

..........เราบอก ว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น..

..........อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโตเมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ.. พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนา หลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก..

..........พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่อง เป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆ...เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหมเดี๋ยวกลับไป พี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้.............. ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร

..........เราปฏิเสธไป..........

..........วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่า วาง แผนไว้แล้ว อีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่...เราสังเกตุเห็นแววตาอันสด ใสของคุณลุง บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด.......ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว...

..........ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า ...เดือนแล้วเดือนเล่า..ปีแล้วปีเล่า

และ

สุดท้าย........ ลุง ..... ลุง..... ลุง..... ลุง
น่าจะอดทนรออีกนิด ..อีกนิดเดียวเองครับลุง ความสุขที่ลุงเฝ้าฝันใฝ่หามาตลิดจากลูกชายที่ลุงรักส ุดหัวใจ..

............ในห้อง ไอซียู เรากับพี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้.......ช่วงเวลาสุดท้ายของชีว ิต คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ...ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ
...

.....................ชายชราที่เกิดมาเพื่อรอคอย ความอบอุ่นจากบุตร จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับมา.......................

*** หลังงานศพ เสร็จสิ้น..........................ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้

บอกว่า - พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง................................................

จ่าหน้าว่า... คืนเงิน เดือนที่ 1-2-3...ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ

.....................ซอง สุดท้าย มีข้อความ...ว่า

-------------------------------

ถึง...
......หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ...ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญา .....
...ขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆเรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด...
.................................................................
...................ป้ามารอลุงแล้ว...ลุงต้องไปก่อน.

-------------------------------

.............อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด...เราสังเกตุเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงใช้ขีดฆ่า เพื่อนับวันรอลูกๆ ...ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน ....

--- เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้.....ขายบ้านด่วน !!!!! ---

.................เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด ..นึกถึงภาพคนแก่ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลข บนปฏิทินด้วยอาการมือสั่นเทา ... แต่ใจแอบยิ้มเฝ้าฝันวันลูกชายที่รักกลับมาใกล้กาย.....

.................ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้มันซ่อนความห่วงหาอาลัย ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ..ซ่อนความเจ็บปวด ร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ ชีวิต อยู่อย่างโดดเดียว เพียงลำพัง มานานกว่า 10 ปี ...

.................ความรู้สึกทั้งหมด คงซึมซับอยู่ในปลายปากกาที่ขีดเขียน ลงไปในแต่ละครั้ง ในบางครั้งเรารอคนที่เรารักเพียง 1 วัน 1 ชั่วโมง 1 นาที ยังทนแทบไม่ได้ อยากเจอ ใจจะขาด ส่วนลุงที่รอมาจาก 365 วัน เป็น 730 วัน เป็น 1095 วัน เป็น 1460 วัน จนวันสุดท้ายของลมหายใจ สภาพจิตใจคงย่ำแย่ เกินกว่าใครคนใดจะรู้ได้ แต่ทำไมทุกครั้งที่เราเจอลุงยังยิ้มได้ตลอดเวลา

.................เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก...ตลอดไป...

*** .............ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ..ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น
........ ชั่วนิรันดร์.......

...............รักคุณลุงครับ

.... อ่านแล้ว น้ำตาไหล คิดถึงพ่อ ...

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :sakid.com
"เสี้ยวหนึ่งของชีวิต อุทิศเพื่อสังคม"

ผ่านมาอ่าน

อ่านแล้วน้ำตาไหล
คนเป็นพ่อแม่คงเป็นอย่างนี้ทุกคนมั้ง
ยิ่งสมัยนี้ ลูกมักจะไปทำงาน กทม.กัน
ที่บ้านจึงมักจะเหลือแต่คนแก่ทึ่รอคอยลูกหลานมาเยี่ยม

พ่อแม่คือชีวิตของเรา

ใครที่ไม่ดูแลหรือเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า  คนนั้นจะไม่มีความเจริญในหน้าที่การงานและครอบครัว  เห็นมาเยอะแล้วครับ

Nur ainee Buasom

ซึ้งมากค่ะ นึกถึงพ่อแม่ ที่อยู่คนละจังหวัดกันมาก

ยงยุทธ

อยากให้รถทุกคันมีประกัน http://www.kawna.com/70074

ha_hnueng

อ่านแล้ว
     น้ำตา พาลพา จะไหล...   ส.แย่จัง
ยังไม่สายสำหรับ บางคนครับ  ส.สู้ๆ
@@ "ความคิดชั่ววูบ"พาพานให้กระทำความชั่ว "ความคิดชั่วแล่น"พานพาให้กระทำความดี แต่จะกระทำชั่วหรือดีนั้นไซร้ขึ้นอยู่กับ"ความคิดชั่วขณะ" @@

nangnol

ละครของของโลกมนุษย์จบด้วยความเศร้าหมอง.......สวัสดี

คนค้าแก้ว

ซึ้งครับ คิดถึงพ่อแม่ปีหนึ่งได้ไปเยี่ยมแค่หนเดียว ถึงจะโทรคุยบ่อยแต่ก็.....
ไม่ต้องบินสูงอย่างใครเขา จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ

Tawadchai Singkaew

ก็...ดีครับ ไม่ซึ้งเท่าไหร่ แต่ก็มีสาระครับ ดูแลกันมั่งครับ พ่อแม่อ่ะ

ถนนแปลกแยก

อ้างจาก: nangnol เมื่อ 11:50 น.  16 ต.ค 54
ละครของของโลกมนุษย์จบด้วยความเศร้าหมอง.......สวัสดี
...คุณมีจิตใจที่ดีงาม ส.ตากุลิบกุลิบ

ถนนแปลกแยก

อ้างจาก: คนค้าแก้ว เมื่อ 16:09 น.  16 ต.ค 54
ซึ้งครับ คิดถึงพ่อแม่ปีหนึ่งได้ไปเยี่ยมแค่หนเดียว ถึงจะโทรคุยบ่อยแต่ก็.....
...คุณมีจิตใจที่ดีงาม ส.ตากุลิบกุลิบ

ถนนแปลกแยก

อ้างจาก: Tawadchai Singkaew เมื่อ 20:53 น.  17 ต.ค 54
ก็...ดีครับ ไม่ซึ้งเท่าไหร่ แต่ก็มีสาระครับ ดูแลกันมั่งครับ พ่อแม่อ่ะ
...คุณจริงใจดีครับ ส-โห ส-โห ส-โห ส-โห

JGT_CK5

 ส.ยกน้ิวให้ สุดยอดเลยครับ อ่านแล้วซึ้งมากเลยได้แง่คิดมาก  โชคดีที่เรายังมีพ่อแม่ที่อยู่ใกล้ และเรายังคอยดูแล ท่านอยู่เสมอ  ส.ยกน้ิวให้

หนุ่มเหลือน้อย

หลายคนคงจะประสบกับสภาพเช่นนั้น  แม้แต่ตัวเราเองก็กำลังเดินไปสู่จุดนั้น........กงกรรม   กงเกวียน....

........

อืม..ทั้งซึ้ง ทั้งสงสาร  เข้าใจดีกับการรอคอย..... ส.แย่จัง ส.แย่จัง ส.แย่จัง ส.แย่จัง ส.แย่จัง

หลากำนัน

 ส.ยกน้ิวให้  ซึ้งครับ แต่วันนี้เราไม่มีพ่อให้ดูแลแล้ว   ส.ร้อง

ก.ไก่ทอด

 อ่านแล้วนิ่งไปพักใหญ่เลยครับ สงสารลุงมากเลยต่อไปเราจะเป็นแบบนี้หรือไม่แต่ถ้าเป็นก็ต้องยอมครับ....จากก.ไก่ทอด
พรุ่งนี้ก็ทอด วันนี้ก็ทอด มะลือก็ทอด อนาคตก็ยังทอด  ร้าน ก.ไก่ทอด      

กุ้งแดง


Phung gold

ไม่รักกันมั่งเฮ้อ พ่อแม่น่านนนนนนนน

แม้เราจะไม่พบกัน

ในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ขอให้หวลคิดถึงเค้าให้มากๆครับ ถ้าเค้าไม่อยู่แล้วเราจะมานั่งนึกเสียใจย้อนหลังไม่ได้ว่าทำไมเราจึงไม่ดูแลเค้าเป็นอย่างดีเหมือนกับที่เค้าดูแลเราตั้งแรกแรกเกิดถึงปัจจุบัน...ปัจจุบันถึงแม้แม่ผมไม่ได้อยู่แล้วผมก็ยังนึกถึงอยู่เสมอ และมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ผมจะไม่ทำให้แม่เลย ถ้าหากย้อนเวลาหรือรู้อนาคตได้ผมจะทำดีกับพ่อและแม่ให้ดีที่สุดเพมือนที่ผมทำกับพ่ออยู่ปัจจุบันครับ... ส.ร้อง

MadMeng@gurUFOrd

อ่านเรื่องนี้ แล้วทำให้นึกถึง บ้านที่เพิ่งซื้อให้แม่ยาย ที่ปัตตานี

แม่ยายผม เช่าบ้านหลังนึง มายาวนานมากแล้ว ร่วมๆ สิบห้าปี
ค่าเช่าเดือนละแปดร้อย อีกห้าปีขึ้นมาเป็นพันนึง อีกห้าปีขึ้นมาเป็นพันห้า

วันนั้น เมื่อสองปีที่แล้ว ผมก็ไปที่บ้านแม่ยาย ตามปรกติ สังเกตเห็นแม่ยายซึมเศร้า
เลยถามไป และ ได้รับคำตอบว่า ยายฉิม(นามสมมุติ/เจ้าของบ้านเช่านี้) จะขายบ้านแล้ว
ให้หาที่อยู่ใหม่ เพราะลูกลูกสามคน บอกให้ขาย และไม่แน่ใจว่าเจ้าของใหม่จะให้เช่าอีกหรือเปล่า?

เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ปี2547 ลูกลูกย้ายครอบครัว แยกกันไป
คนโตไปอยู่กะสามี ที่ในตัวเมืองกระบี่ / คนรองไปอยู่กะสามี ที่ยะลา / คนเล็กอยู่ที่ปัตตานี

จากค่าเช่าเดือนละ1,500บาท ต้องให้คนเล็กโอนแบ่งให้อีก2คนทุกเดือน เดือนละ500บาท
ทางลูกลูก ขี้เกียจรับเบี้ยหัวแตก เลยมารบเร้า(ในช่วงวันปีใหม่ ที่มาเยี่ยมบ้าน) ให้ขายซะ

ยายฉิมคิดอยู่นานแล้ว ก็ให้คนเล็กมาบอกแม่ยายของกระผม เพราะยายฉิมไม่กล้ามาบอกเอง
กลัวเดี๋ยวกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะเกรงใจกันด้วย อยู่กันมานาน ไม่เคยต้องทวงแม้แต่เดือนเดียว

แม่ยายเล่าให้ฟังเสร็จ ผมเลยบอกแม่ยาย ให้ไปถามยายฉิม ว่า ต้องการขายเท่าไหร่?
แม่ยายผมเดินไปถาม ครู่ใหญ่ ก็กลับมาตอบว่า 360,000บาท นะ (แพงจังนะลูก)

ผมพิจารณาสักพักแล้ว บ้านห้องแถว ชั้นเดียว กว้าง~4x20เมตร อยู่เกือบสุดซอยลึก
เลยบอกคุณแม่ยายว่า กลับไปต่อรองสักคำ 300,000ไหวป่าว? ถ้าได้เดี๋ยวจะหาตังค์มาซื้อให้

แม่ยายผมก็ดีมาก รีบเดินกลับไปถามยายฉิมอีกที สักพักใหญ่ แม่ยายก็กลับมาบอกว่า
ยายฉิมโทรแจ้งถามลูกลูก และคนที่อยู่ด้วยแล้ว โอเคเลย แต่ขอเงินสดนะ ไม่ให้ผ่อน

เดือดร้อนผมสิครับ วิ่งติดต่อธนาคาร ในตัวเมืองปัตตานี หลายแห่ง แต่ไม่มีใครรับเลย
เอามาเข้ารายการที่หาดใหญ่ก็ไม่มีใครรับอีก ดิ้นรนอยู่นาน จนได้เงินสดมาครบๆ สามแสนบาท

แล้วนัดวันที่จะซื้อ-ขาย โดยนัดกันที่กรมที่ดิน ที่ปัตตานี โดยตกลงว่า ค่าโอนคนละครึ่ง
เมื่อถึงวันก็ไปจัดทำรายการ ท่ามกลางความร้อนใจของคนที่อยู่กระบี่ และ ยะลา

พอวันที่โอนเสร็จสรรพ ก็กลับมาที่บ้านแม่ยายผม แล้วเอาเงินสดออกมาดู
โดยติดแหนบมาสามปึก ปึกละแสน ลูกลูกสามคนช่วยกันนับ จนครบ

แล้วเนื้อที่ซักล้างของหลังบ้าน มีโฉนดด้วย ขนาด~4x2เมตร แนบท้ายอยู่
ทางลูกๆ ของยายฉิมเสนอขายด้วย อีก60,000บาท แต่ยายฉิมไม่ยอมขาย

บอกว่า แถมให้ไปก็แล้วกัน ลูกลูกเริ่มไม่ยอมอีก และ เริ่มอิดออด (ผมก็ไม่ยอมจ่ายเพิ่มแล้ว)
คนโต ที่อยู่กระบี่ เลยรีบขอตัวกลับก่อน เพราะต้องเดินทางอีกไกล(ตอนนั้นเพิ่งบ่ายโมงเองนะ)
คนที่สอง ที่อยู่ยะลาก็บอกทางกลับ น่ากลัว+อันตราย เลยรีบขอตัวกลับด้วย แต่มีสำทับไว้ว่า

ให้คนที่สามตกลงกะเจ้าของใหม่ หากได้อีก60,000 อย่าลืมโอนให้ด้วยนะ แล้วต่างคนต่างแยกย้าย
ยายฉิมได้แต่นั่งน้ำตาซึม ขอโทษขอโพยแม่ยายผม ว่า ไม่คิดว่าลูกลูกจะเป็นอย่างนี้

ส่วนเรื่องค่าโอน ที่ให้ผมออกให้ก่อนในตอนแรกแล้วค่อยมาหักคืน ก็ไม่ยอมคืน ไม่ยอมให้
แล้วแต่ละคนก็ไม่ยอมจ่ายคืนผมเลย กอดเงินสดค่าบ้านแน่น แล้วแยกย้าย ทันที

ตอนนี้ไม่มีเหลือสมบัติให้ขายแล้ว เพราะแบ่งให้ไปหมดแล้ว เหลือแต่บ้านที่อาศัยเอง
ขนาดสมบัติชิ้นสุดท้าย เอาไว้เก็บค่าเช่ากิน เหลือก็ทำบุญทำทาน มันยังมาแย่งกันอีก

ตอนแรกแต่ละคนบอกว่าให้ขายเถอะ เดี๋ยวจะรับไปเลี้ยงดูเอง แต่ก็เปล่าเลย
พอได้เงินกันครบครบ ก็เผ่นแน่บทันที ไม่มีใครพูดเรื่องจะเลี้ยงดูยายฉิมเลย

ทุกวันนี้ หากเวลาไปไหน แม่ยายผมก็จะมีของฝากให้ยายฉิมเสมอๆ
ยายฉิมแก่มากแล้ว ก็มีแต่ลูกสาวคนเล็กดูแลอยู่ ที่ปัตตานี นั่นเอง
รับอุดEGR + Ground Wire + Volt stabilizer รถทุกชนิด // ชมผลงานได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ

https://www.facebook.com/profile.php?id=100000851301866

samrit

กงกรรมกงเกวียน...

เคยได้ยินคนแก่ๆ พูด..ทำกับพ่อแม่เราอย่างไร  ลูกของเราก็จะทำกับเราแบบนั้น...

แล้วก็เห็นคนใกล้ๆ ตัว เป็นแบบนี้จริงๆ ก็หลายๆ คน...



คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็จะพบแต่สิ่งที่ดีๆ...