ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มือปืนโหดลงจากรถกระบะเเล้วกระโดดถีบคู่อริจนล้มลงก่อนยิงหัวซ้ำดับหน้าร้านขายของชำ

เริ่มโดย JaY_SoniC, 11:39 น. 07 ก.ค 58

JaY_SoniC

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 6 ก.ค. 58 เกิดเหตุยิงกันตายที่หน้าร้านขายของชำ เลขที่ 749/21 ตั้งอยู่ริม ถ.กาญจนวานิช เขต ทต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจาก พ.ต.อ.วิชชภัณฑ์ จันทราภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.ทุ่งลุง และ ร.ต.ท.สุนพร ยิ่งคง ร้อยเวร นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบร่างของ นายเลอสรรค์ ช่วงสุวรรณ อายุ 19 ปี หรือ โอ๊ต ชาว ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่หน้าร้านขายของชำ โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ในลักษณะจ่อยิง และพบมีดปลายแหลม ซึ่งเป็นของผู้ตายตกอยู่ข้างๆ ในขณะที่พ่อและแม่ของผู้ตายต่างร่ำไห้เมื่อเห็นศพของลูกชายถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเลอสรรค์ พร้อมเพื่อนอีก 3 คน ได้มานั่งกินกาแฟกันที่หน้าร้านที่เกิดเหตุ จากนั้น นายเลอสรรค์ ได้ขอตัวกลับก่อน แต่ระหว่างที่กำลังเดินไปที่รถจักรยานยนต์ได้มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีเขียว ย้อนศรมาบน ถ.กาญจนวนิช มาจอดที่หน้าร้าน แล้วคนขับได้ลงมาจากรถ และวิ่งเข้ามากระโดดถีบ นายเลอสรรค์ จนล้มล้มลง ก่อนที่จะชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงที่ศีรษะ 1 นัด แม้ นายเลอสรรค์ จะพยายามชักอาวุธปืนออกมาป้องกันตัว แต่ก็ไม่ทัน ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งไปขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป

ทั้งนี้จากการสอบสวนพยานแวดล้อมเจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายรายนี้แล้ว โดยพบว่าเป็นคู่อริที่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งขณะเกิดเหตุน่าจะขับรถผ่านมา และเห็น นายเลอสรรค์ นั่งอยู่กับเพื่อน จึงรอโอกาสที่เหยื่อเดินออกจากร้าน และไม่ทันตั้งตัว ชิงลงมือก่อเหตุยิงจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
/////

คนไทยเก่าๆ

ผมเป็นคนไทยแท้ๆ(มีบัตรปชช.)อยากจะบอกว่าประเทศเราภายนอกดูดีทัดเทียมอารยะประเทศ เทคโนโลยีก้าวทันคนอื่น สถานศึึกษาเยอะแยะ วัดวาอารามมีเป็นหมื่น แต่ถ้าให้จัดว่าประเทศไทยอยู่ในหมวดหมู่ใด
ต้องจัดในหมวดหมู่ เมืองเถื่อนครับ คดีอาชญากรรมปล้นฆ่า ยาเสพติด ฉ้อโกง ฉกชิง วิ่งราวฯลฯ มีทุกพื้นที่ ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด มีทุกวันหรือทุกขั่วโมงก็ว่าได้ มากซะจนนักข่าวไม่สามารถไปเก็บข่าวมาออกอากาศได้ครบถ้วน เท่าที่ได้ยินได้เห็นในจอทีวี นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคดีเท่านั้น