ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดหน้ากาก ตัวการทำให้บ้านเมื่อง "ล่มจม"

เริ่มโดย Mr.No, 16:19 น. 17 ต.ค 54

Mr.No

สุดท้ายวันนี้ก็เป็นที่แน่นอนว่า นิคมอุตสาหกรรม นวนคร ก็ไม่รอด..สุดท้ายกำลังจะกลายเป็น "อดีต นิคม" ไปอีกแห่งแล้ว

และก็เช่นเดิมที่นายก ไร้เดียงสา อ่อนประสบการณ์แบบที่ ยังแยก หญ้าแพรก กับ หญ้าแฝก ไม่ออก ก็ต้องออกมามุกเดิมคือ "ขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถรักษานิคมแห่งนี้ไว้ได้"

วันนี้ ความเสียหายประเทศ ต้องใช้คำว่า "ล่มจม" ได้อย่างเต็มปากแล้ว แต่ที่น่าเจ็บใจมากกว่า ก็คือ ก๊วนกลุ่มเสื้อแดงเหล่านี้ยังคงทำหน้าที่ทำลายชาติบ้านเมืองต่อไปได้อย่าง น่าตาเฉย!

กลุ่มสันหลังหวะ..ที่กลัว ผีปฎิวัติ จะกลับมา ก็ทำหน้าที่ เผยแพร่ลัทธิอุบาทว์ ล้างสมองคนไทยต่อไป กับ การเปิดหมู่บ้านแดง..อำเภอแดง, จังหวัดแดง เพื่อเป้าหมายประเทศแดง โดยไม่สนใจว่า บ้านเมืองจะยากแค้นแสนลำเข็ญหลังน้ำลดนี้สักเพียงใด..

ที่เจ็บปวดที่สุดก็เมื่อ มีกระทู้จากพวกไพร่...(ไม่หยาบหรอกครับ) โพสกันในหมู่พวกเดียว โดยพยายามยัดเยียดข้อหาน้ำท่วมครั้งนี้ ว่า ทหารไม่เต็มใจจะช่วยรัฐบาลบ้าง..สุดท้ายเล่นของสูงแบบนิสัยเดิม คือโยนความผิดไปในเชิงกระทู้ที่ตั้งชื่อว่า

"อุทุกภัยจากใบสั่ง" เนื้อหาส่อไปในทางให้คิดเอาว่ามีบุคคลอยู่เบื้องหลังการสั่งการมิให้มีการปล่อยน้ำลงมา จากเขื่อนต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขื่อนภูมิพล จนสุดท้ายเมื่อน้ำเต็มเขื่อนจึงปล่อยลงมาให้ท่วมภาคเหนือ และไล่ลงมาจนมากลายเป็นหายนะ....

อย่างในกระทู้ http://gimyong.com/talung/index.php/topic,39047.msg208206/topicseen.html#msg208206  นี่ก็คือตัวอย่างที่ไพร่แดง กำลังเริ่มใช้วิธีที่ถนัดแบบเดิม คือกล่าวหา..ใส่ร้าย..และกรอกหู  อีกครั้ง

แต่ข้อเท็จจริงที่ผมจะนำเสนอนี้ อาจทำให้หลายคนได้คิดเช่นกันว่า แท้ที่จริงแล้ว ... ใครหรือไอ้หน้าไหน กันแน่ที่มันทำให้ชาติต้องย่ำแย่ ได้ถึงขนาดนี้
....................................
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

ต่อ..

[attach=1]

ผมอยากให้ดูกราฟอันแรก แสดงถึงปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่ตกตั้งแต่ปี 2009 มาจนถึง 2011 จะพบว่า ปริมาณน้ำฝนอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยสูงขึ้น แต่ก็ยังถือว่าไม่มากจนผิดปกติ

[attach=2]

[attach=3]

กราฟแสดงปริมาณน้ำที่เก็บในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิต์ โดยเฉพาะในเขื่อนภูมิพลจะพบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนนั้นถูกกักไว้จนกระทั่งถึงผนังเขื่อน (สูงสุด) จนอันตราย (คล้าย ๆ กับเขื่อนสิริกิต์)

เมื่อพิจารณาจากกราฟแสดงปริมาณฝน และกราฟแสดงระดับการกักน้ำของเขื่อน จึงมีคำถามไปหยุดลงที่ว่า เหตุใดกรมชลประทานจึงไม่สั่งระบายน้ำออก แต่คำตอบกลับถูกบิดเบือนและเบี่ยงประเด็นไปโจมตีเป้าหมายอื่น แทนที่จะยอมรับว่า ความวิบัติทั้งมวลนั้นล้วนมาจาก รัฐบาลไร้สมอง..และนักการเมืองกร่างและเห็นแก่ตัวแท้ๆ

เพราะเมื่อดูปริมาณน้ำฝนในรอบตั้งแต่เดือน คือมิถุนายน – กันยายน ก็เห็นได้แล้วว่าปีนี้ ฝนมาเร็วกว่ากำหนดกว่าทุกปี ซึ่งเป็นธรรมดาที่เมื่อปริมาณฝนมีมากและมาเร็วกว่าที่คิด การเก็บกักน้ำและการระบายน้ำก็ต้องทำให้เร็วขึ้นซึ่งอย่างช้าก็ควรจะเริ่มภายในเดือนสิงหาคม ...

แต่การที่ไม่ยอมระบายน้ำออกมานั้น ก็เป็นเหตุผลง่าย ๆ จากรัฐบาลก็คือ แต่ละพื้นที่เช่น นาข้าว ในจังหวัดต่าง ๆ จะต้องมีหลักประกันว่าสามารถมีผลผลิตเพื่อนำไปเข้าระบบจำนำข้าวอย่างที่รัฐบาลคุยไว้ จึงคิดว่าให้รอไปหน่อยจนผลผลิตข้าวได้

แต่การประเมินที่ผิดพลาด (เพราะคิดแต่ การเมือง) มันมาสายเอาเมื่อปริมาณน้ำในเขื่อนนั้นสูงจนถึงระดับสูงสุดจนเขื่อนจะแตกจึงต้องยอมระบายน้ำออก แต่การระบายน้ำออกนี้ เมื่อดูจากกราฟก็จะเห็นชัดว่า ปริมาณไหลออกพรวดเดียวมันสร้างความหายนะให้แก่บ้านเมืองได้เพียงใด....

กรมชลฯ ควรเร่งทำการระบายน้ำออกตั้งแต่เดือนสิงหาคมมาแล้ว แต่ใครหรือรัฐมนตรีหน้าไหนกันแน่ที่ไปสั่งห้ามระบายน้ำออกจากเขื่อน!!  หรือจะเป็นคนที่ออกมาบอกว่าตัวเองประเมินสถานการณ์น้ำผิดพลาดคนนั้น!

ที่น่าสมเพชก็คือ  เมื่อน้ำที่ถูกปล่อยออกมา ต้องมาปะทะกับน้ำทางภาคกลางจนวุ่นวาย แต่ประเทศชาติยังต้องรับวิบากกรรมต่อก็คือ การล้วงลูกจากนักการเมืองค่ายสั้นเตี้ย กับกรณีห้ามระบายน้ำออกทางเมืองสุพรรณ จนนายพายัพ ปั้นเกตุ สส.เพื่อไทยออกมาด่า (เพราะต่างฝ่ายต่างพยายามรักษาพื้นที่ของจังหวัดตัวเอง) และสุดท้าย ทักษิณ ต้องบอกให้พายัพ รูดซิบปาก เพื่อมิให้เกิดข้อพิพาท และเพื่อให้ทุกอย่างอยู่ใต้พรม(สกปรก)อย่างเงียบๆ

ผมจึงตาสว่าง(กว่าป้าพลอย) และยิ่งหาข้อมูลเพิ่มเติมยิ่งค้นพบว่า   แท้ที่จริงแล้ว  ความเสียหายของบ้านเมืองและที่กำลังจะล่มจมนี้ มาจาก ความอ่อนด้อย,ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ และที่สำคัญเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจของ นักการเมืองเลว ๆ ที่  เหล่าไพร่แดงผู้น่าสงสารที่วันนี้ต้องกลายมาเป็นผู้รับกรรมจากกลุ่มก๊วนตัวเองแท้ๆ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No


[attach=1]

ถ้าดูจากกราฟจะเห็นว่า การระบายน้ำออกจากเขื่อนแบบพรวดเดียวนั้น...จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เกิดเพราะธรรมชาติหรือเพราะมนุษย์ .....

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

ทำไมแผนการป้องกันน้ำท่วมถึงวุ่นไม่รู้จบ น้ำก็ท่วมบ่อย นักการเมืองมักอ้างว่า น้ำมาเยอะ ทั้งๆที่ความจริง ก็สามารถหาทางป้องกันได้ แต่ไม่มีใครทำอย่างจริงๆจังๆ  เพราะ เบิกงบฯทีไร ก็ได้หวานปากกันอีก

ใช่ เราไม่สามารถห้ามฝนไม่ให้ตกได้  แต่ทำไมเมืองไทยถึงมีปัญหาน้ำท่วมทุกปี  น่าคิดนะ
งบฯก็มีกลับไม่ให้ความสำคัญในการหาทางป้องกันน้ำท่วมกัน
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

unter br.

ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนทางกฎหมาย
-จัดเลือกตั้ง 3 กรกฏา
-รอกกต.รับรองสส.ครบสภา 29 กรกฎา  (ยืดเวลาจนหยดสุดท้าย)
-ต้องประชุมสภานัดแรกเลือกนายก 2 สิงหา เสนอชื่อนายก 3 สิงหา(เร็วโคตร)
-รอในหลวงลงนามแต่งตั้งนายก วันที่ 8 สิงหาแต่ลงวันที่ย้อนหลังเป็น 5 สิงหา
-รอให้ไปเรียกคณะ รมต.เข้าถวายสัตย์ 10 สิงหา
-ต้องแถลงนโยบายต่อ รัฐสภา 23-24 สิงหา
และพวก รมต.ทั้งหลายถึงจะเริ่มทำงานได้...

การเริ่มเก็บน้ำไม่ยอมปล่อย เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาแล้ว ครับ
(กรุณาดูข้อมูลได้เป็นรายวันได้เลย)
http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html
http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/egat_dam.php

รัฐบาลยังเป็นวุ้นอยู่เลยครับ
ใครนะที่มันมีอำนาจเป็นอีแอบสั่ง
การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และ กรมชลประทานได้
เก็บน้ำ ปล่อยน้ำได้
มันต้องเป็นไอ้ทักษิณ แน่เลย ปัญหาของประเทศไทย ต้องเกิดจากไอ้ทักษิณคนเดียว
(ได้ยินเสียงไอ้ทักษิณแว่ว ๆ มาจากดูใบ  "กรูอีกแล้ว กรูงง...กรูเซ็นต์รับรองสำเนาบัตรให้เมียไปซื้อที่แกร็กเดียว เมียเสรือกไม่ผิด แต่กรูผิดสุดฟ้าสุดตรีนเลยนะหมึง..ลงที่กรูมันง่ายดีไม่ต้องทำเชี้ยอะไรกันแล้วมรึง..)
พูดเองเออเอง
-

เดินผ่านมา

จริงๆถ้าจะถามหาคนรับผิดชอบ ผมว่าต้องคนนี้ครับ นายธีระ วงศ์สมุทร เจ้ากระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เพราะกรมชลฯ ก็ต้องอยู่ในการดูแลของคนนี้ ทั้งสองรัฐบาลก็คนเดียวกันแต่ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย  ส-เหอเหอ

คนแต่แรก

ผมเชื่อว่าเป็นเพราะคนหน้าเหลี่ยมผู้นำหายนะมาสู่ประเทศไทยอย่างแท้จริงครับ ประเทศเรามีของดีๆหลายอย่างที่ประเทศอื่นไม่มี เสียนิดเดียว..ประเทศเรามีไอ้หน้าเหลี่ยมมาชิงหมาเกิด

ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ

คนเราไม่รู้จักคำว่า  ฟ้าสูง  แผ่นดินต่ำเสียแล้ว  ฟ้าจึงลงโทษอย่างสาสม   แต่มันยังเหิมเกริมไม่สำนึก

Mr.No

อ้างจาก: unter br. เมื่อ 17:56 น.  17 ต.ค 54
ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนทางกฎหมาย
-จัดเลือกตั้ง 3 กรกฏา
-รอกกต.รับรองสส.ครบสภา 29 กรกฎา  (ยืดเวลาจนหยดสุดท้าย)
-ต้องประชุมสภานัดแรกเลือกนายก 2 สิงหา เสนอชื่อนายก 3 สิงหา(เร็วโคตร)
-รอในหลวงลงนามแต่งตั้งนายก วันที่ 8 สิงหาแต่ลงวันที่ย้อนหลังเป็น 5 สิงหา
-รอให้ไปเรียกคณะ รมต.เข้าถวายสัตย์ 10 สิงหา
-ต้องแถลงนโยบายต่อ รัฐสภา 23-24 สิงหา
และพวก รมต.ทั้งหลายถึงจะเริ่มทำงานได้...

การเริ่มเก็บน้ำไม่ยอมปล่อย เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาแล้ว ครับ
(กรุณาดูข้อมูลได้เป็นรายวันได้เลย)
http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html
http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/egat_dam.php

รัฐบาลยังเป็นวุ้นอยู่เลยครับ
ใครนะที่มันมีอำนาจเป็นอีแอบสั่ง
การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และ กรมชลประทานได้
เก็บน้ำ ปล่อยน้ำได้
มันต้องเป็นไอ้ทักษิณ แน่เลย ปัญหาของประเทศไทย ต้องเกิดจากไอ้ทักษิณคนเดียว
(ได้ยินเสียงไอ้ทักษิณแว่ว ๆ มาจากดูใบ  "กรูอีกแล้ว กรูงง...กรูเซ็นต์รับรองสำเนาบัตรให้เมียไปซื้อที่แกร็กเดียว เมียเสรือกไม่ผิด แต่กรูผิดสุดฟ้าสุดตรีนเลยนะหมึง..ลงที่กรูมันง่ายดีไม่ต้องทำเชี้ยอะไรกันแล้วมรึง..)
พูดเองเออเอง
-

นั่นดิ.. ผมถึงอยากถามพวกคุณแบบลูกผู้ชายไงว่า .... คุณคิดว่าใครเป็นคนสั่ง?


ทำไมถึงพวกเสื้อแดง ต้องพยายามสร้างกระแสข่าวโจมตี สถาบันอยู่เรื่อย...

รู้ทั้งรู้ตรงกันว่า  งานนี้ความผิดพลาดอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำไม่เป็น ซึ่งถ้าจะว่าไป มันก็กรมชลประทาน และก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารราชการที่มีนายกหญิงบริหารมิใช่หรือ...

ดังนั้น ถ้ายอมรับว่า ความผิดพลาดเกิดจากรัฐบาลหน่อมแน้ม... อ่อนเพี้ยนประสบการณ์ ก็ว่ากันไป..

วันนี้...พวกกลุ่มเสื้อแดงในต่างประเทศ แถบเดียวกับโจรพูโล..พยายามสร้างกระแส โดยดึงสถาบันมาเป็นเหยื่อ.. มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองอีก นับว่า คนพวกนี้สกปรก และเลวร้ายจริง ๆ.
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

....

ผอ.เขื่อนภูมิพลออกแถลงยืนยันไม่ได้มีการปล่อยน้ำในปริมาณที่มากกว่าเดิม ระบุปล่อยเพียงวันละ 50 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งถือเป็นการระบายน้ำในระดับปกติ แม้ขณะนี้จะมีฝนตกบ้างในบางพื้นที่เหนือเขื่อนก็ตาม
       
       นายบุญอินทร์ ชื่นชวลิต ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยหลังมีข่าวลือว่าเขื่อนภูมิพลระบายน้ำเพิ่มเนื่องจากทางภาคเหนือฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลมากจนรับไม่ไหวว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพลยังระบายน้ำในปริมาณที่ปกติ เพราะพื้นที่ส่วนมากทางภาคเหนือตอนบนไม่มีฝน เว้นจังหวัดลำปาง ลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่ อาจมีฝนเล็กน้อยเป็นครั้งคราว ไม่มีผลต่อสภาวะน้ำที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ท้องฟ้าครึ้มฝนแต่ยังไม่มีฝนตก
       
       นายบุญอินทร์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลมีระดับน้ำอยู่ที่ 259.85 เมตร มีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น13,416 ล้าน ลบ.ม.เหลืออีก 46 ล้าน ลบ.ม หรือคิดเป็น 0.35 เปอร์เซ็นต์ น้ำจะเต็มอ่าง วานนี้มีน้ำไหลเข้า 74 ล้าน ลบ.ม. วันนี้เขื่อนภูมิพลระบายน้ำ 578 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือวันละประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม.แม่น้ำวังไหลลงมาสมทบอีก 218 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือวันละประมาณ 18 ล้าน ลบ.ม.รวมแล้วมีน้ำลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา 68 ล้าน ลบ.ม.
       
       ส่วนการจะลดหรือเพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนภูมิพลจะต้องรับคำสั่งจากคณะอนุกรรมการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธาน ซึ่งในช่วงนี้ยังระบายอยู่ที่ 50 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งถือว่าเป็นการระบายน้ำในระดับปกติไม่ได้มากเกินปกติ ทั้งนี้ เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลไปสู่ลุ่มเจ้าพระยา และในพื้นที่ภาคกลางที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

โชคชัย

โหม๊ นี้ หลบไปเรียนประวัติศาสตร์ไทย มาใหม่หวาผมว่า มันคงไม่รู้ว่าที่เราซุกหัวนอนนิ มาจากใหน เพลงปลุกใจก่าไม่รู้หอนฟังม่าย พันไม่สร้างสรรแล้วอิทำลายหล่าว เบออจิง
บ้านผมหม้ายใหร ยังแต่ไผ่กับโหนด

Mr.No

    ปกติการดูแลและจัดการน้ำจะมีหน่วยงานที่เรียกว่า คณะอนุกรรมการติดตามและแก้ไขปัญหาน้ำ ซึ่งมีอธิบดีกรมชลประธานเป็นประธาน (แต่ไม่เคยเข้าประชุม)  ผมคัดลอกบางส่วนในรายงานประชุมครั้งที่ 32/2554 ประชุมเมื่อวันจันทร์ 12 กันยายน 2554 มาให้อ่านกัน ดังนี้ครับ

"...4.2 สถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ของกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักกระจายไปทั่วทุกภาคโดยเฉพาะเขื่อนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับเขื่อนในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งเขื่อนภูมิพลและสิริกิต์ ยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นซึ่งได้ควบคุมระบายน้ำ เนื่องจากมีฝนตกท้ายเขื่อนต้งแต่ภาคเหนือตอนล่างลงมาจนถึงภาคกลาง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้มากนัก อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีการประชุมบูรณาการเพื่อการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังสามารถควบคุมสถานการณ์น้ำได้ แต่จะต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ อุตุนิยมวิทยา-อุทกวิทยา อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของประเทศค่อนข้างแปรปรวน [โดยปี2554 นี้ น้ำหลากมาเร็วกว่าปกติประมาณ 1 เดือน ทำให้ไม่สอดคล้องกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวของเกษตรกรจึงเกิดปัญหาต่อการระบายน้ำของเขื่อน อาจทำให้พื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วมได้]              ปัจจุบันมีเขื่อนบางแห่งมีปริมาณเก็บกักน้ำมากกว่าร้อยละ 90 ประกอบด้วย เขื่อนสิริกิต์ แม่กวงอุดมธารา แควน้อยบำรุงแดน และห้วยหลวง ทั้งนี้ มีเขื่อนสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงการระบายน้ำเพื่อเตรียมพร้อมรับอุทุกภัย คือ เขื่อนภูมิพล สิริกิต์  แควน้อยบำรุงแดน ป่าสักชลสิทธิ์ และอุบลรัตน์ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูน้ำของเชื่อนเหล่านี้ประกอบกับเขื่อนเหลือปริมาตรรับน้ำได้น้อยกว่าสถิติของน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อน จึงมีความเสี่ยงที่น้ำจะล้นอ่าง ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะประสานงานกับกรมชลประทานในการระบายน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายน้ำ.."

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า เหตุผลที่เขื่อนไม่กล้าระบายน้ำออก นั้นเป็นปัญหามาจากการเกรงว่าน้ำอาจจะท่วมพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
1. มีกระบวนการทางการเมือง เข้าไปล้วงลูก หรือได้รับคำสั่งห้ามปล่อยน้ำ  ซึ่ง ข้อนี้ อธิบดีกรมชล คงปฎิเสธไม่ได้
2.แต่ถ้าไม่มีการแทรกแซง ก็ต้องถือว่า รัฐบาลนี้หมดสภาพ ไร้เดียงสา (ทั้งที่รายงานการประชุมก็ระบุมาหลายครั้งว่า น้ำเริ่มเต็มเขื่อน )

แต่การที่มีพวกเสื้อแดง ที่ยึดโยงกับกระบวนการล้มเจ้าในต่างประเทศ พยายามสร้างกระแสโดยโยนบาปไปให้สถาบัน จึงถือเป็น กระบวนการที่เลวมากจริง ๆ ...

ยิ่งตอนนี้ มีเวบไซด์เสื้อแดงที่ ประกาศเป็นพันธมิตร กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน (พูโล)และพวกแก๊งค์ล้มเจ้า อย่างชัดเจนแล้ว ก็ยิ่งทำให้ชัดว่า พวกนี้ ส่วนใหญ่ ทำงานเพื่อเป้าหมาย.................. มิใช่มาเสวนาการเมือง เพื่อประเทืองปัญญาอะไรเลย
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.