ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ศอ.บต.จัดโครงการกวี : สื่อสารเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 11:07 น. 29 ก.ค 58

หาดใหญ่ใหม่

ที่มา : สวท.ยะลา
   
ศอ.บต. ร่วมกับ สถาบันภาษามลายูไทยแลนด์ จัดโครงการกวี : สื่อสารเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังร่วมกันรักษาอัตลักษณ์ด้านมลายู ภาษาสื่อสารของคนในพื้นที่ให้มีความโดดเด่น

ที่ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา จังหวัดยะลา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานเปิดงานโครงการกวี : สื่อสารเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายสามารถ วราดิศัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา นายหะมิดิง สานอ ประธานกรรมการอำนวยการสถาบันภาษามลายูไทยแลนด์ ศอ.บต. ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา โต๊ะครู นักเรียน นักศึกษาและประชาชนเข้าร่วม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวขอบคุณคณะกรรมการสถาบันภาษามลายูไทยแลนด์ สถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงาน องค์กร ทุกฝ่าย ที่ได้ให้ความร่วมมือกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้น ซึ่งผลของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้คาดหวังว่าเครือข่ายกวี นักเขียน หรือ วรรณกรรมในพื้นที่ของเรา จะได้มีส่วนในการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะกวีคือบุคคลที่เข้าใจ รับรู้ และซาบซึ้งกับการดำเนินชีวิต บนพื้นฐานของความเข้าใจระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับธรรมชาติและมนุษย์กับพระเจ้า รวมถึงบนพื้นฐานความหลากหลายของสังคม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ กิจถาวร กล่าวอีกว่า ศอ.บต. มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในด้านคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เพื่อคืนวิถีชีวิตอันสงบสุขดีงามภายใต้หลักการของศาสนา และความหลากหลายของวัฒนธรรมให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมกันรักษาอัตลักษณ์ด้านมลายู ซึ่งเป็นภาษาสื่อสารของคนในพื้นที่ให้มีความโดดเด่น พร้อมที่จะใช้เป็นภาษาที่สองในการสื่อสารในพื้นที่ และรับรองประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลจากการร่วมกิจกรรมจะส่งผลให้ทุกคนได้ตระหนัก รับรู้ และซาบซึ้ง เคารพและเห็นคุณค่าระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และร่วมกันสื่อสารเพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างผู้คนในผืนแผ่นดินนี้ ให้เกิดสันติภาพและเกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

เด็กรือเสาะ

ยอมรับว่าเป็นขาประจำเรื่องความไม่สงบในบ้านเรา ในฐานะเป็นคนท้องถิ่น เกิดและโตใน3จว.ชายแดนภาคใต้ อาจจะเก่งไม่เท่าจนท.ผู้รับผิดชอบ แต่กล้าท้าว่าสิ่งที่วิจารณ์มาตลอดหลาย(สิบ)ปี เป็นประโยชน์ส่วนรวม จากประสบการณ์จริง วิเคราะห์ด้วยจิตวิญญานที่เป็นธรรมของคนรักชาติ แม้ในความเป็นจริงนั้น จะทำให้บางฝ่ายไม่พอใจตามวิสัย"เกลียดคนรู้ทัน"
ติดตามการแก้ปัญหาของรัฐไทยมาตลอดหลายสิบปี ตั้งแต่สมัยโจร"มะอีซอ-เปาะสู-สะมะแอ ท่าน้ำและฯลฯ" เรื่อยมาจนถึงยุคนี้ เป็นยุคโจรผสมมั่วไปหมด มีทั้งโจรแบ่งแยกดินแดน พวกก่อการร้าย แก๊งอาชญากรรม แก๊งขี้เกียจทำงาน และพวกเห่อตามกระแสฯลฯ ทำไมถึงได้มากขึ้นๆ ก็เพราะฝ่ายเราไปมองคนพวกนี้ว่าไม่ได้ชั่วร้าย"เป็นแค่ผู้หลงผิด" สามารถกลับเนื้อกลับตัวได้ ขออะไรประเคนให้ทุกอย่าง พวกมันจึงได้ใจเหมือนอยู่เหนือกฏหมายไทย ฆ่าทหาร ฆ่าพระ ฆ่าผู้หญิง ฆ่าคนพิการ ฯลฯอย่างเหี้ยมโหดเหมือนสัตว์นรก มันฆ่าเราได้แต่เราฆ่ามันไม่ได้ พอจับได้รับโทษไม่สาสมกับที่พวกมันทำ บางคนหลุดทุกคดีอย่างน่าเจ็บใจ พวกมันจึงเหิมเกริมตั้งแก๊งใหม่ๆขึ้นมาตามใจชอบ เหมือนเป็นกิจการส่วนตัวของใครของมัน สังเกตุได้จากชื่อขบวนการมีตั้งหลายสิบชื่อ เยอะจนพวกมันเองก็จำไม่ได้ ทั้งหมดมีฐานที่มั่นใน3จว.ชายแดนภาคใต้ของไทย และบางรัฐในประเทศเพื่อนบ้าน พวกโจรจริงๆมีไม่กี่ร้อยคน แต่พวกคอยช่วยเหลือมีเป็นแสน เพราะมีแนวร่วมคอยส่งเสริมและสนับสนุนเงียบๆพวกมันจึงยืนระยะได้อย่างมั่นคง พวกหลังนี่น่ากลัวไม่แพ้พวกโจรตัวจริงก็ว่าได้"หน้าฉากช่วยทางการ กลับถึงบ้านไปร่วมรบ"
เวลาเห็นข่าวจัดทีมชุดใหญ่ใส่สูทผูกไทร์ไปเจรจากับพวกโจรกระจอก ใหม่ๆรู้สึกดีจะได้สงบซะที แต่พอล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า หมดศรัทธาครับ กลายเป็นว่าข่าวพวกนี้เป็นโจ๊กประจำฤดูไปเลย นอกจากเจรจาไม่ได้ผลแล้ว ยังเพลี่ยงพล้ำไปตกปากรับคำพล่อยๆ จะให้โน่นนี่นั่นกับพวกมัน แล้วก็ต้องให้ ให้แล้วต้องให้ตลอด หยุดเมื่อไหร่เป็นเรื่อง รู้ทั้งรู้ว่าคนที่ไปคุยด้วยนั้นมันเป็นแค่พวกว่างงาน พวกรับจ้างมาคุย หรือพวกนายหน้าชักเปอร์เซ็นต์ เพราะขบวนการโจรห้าร้อยมันไม่มีหัวหน้าใหญ่ มันต่างคนต่างทำ ใครอยากหาเงินง่ายๆก็ตั้งแก๊งในชื่อของตัวเอง ดีไม่ดีตอนนี้พวกมันตั้งเป็น"1ตำบล1ขบวนการ"ซะก็ไม่รู้ เสียเวลา เสียเงินแล้วยังเสียหน้าให้พวกมันนับครั้งไม่ถ้วน ยังคิดจะไปให้พวกมันหัวเราะเยาะอีกหรือ?
ขณะที่กองทัพเราม่ีกำลังพลเป็นแสน มีคนหัวดีที่ไปร่ำเรียนการรบจากเมืองนอก มีงบประมาณมหาศาล มีอาวุธทันสมัยไม่หวาดหวั่นศัตรูผู้รุกราน(ตามสโลแกน) 
แต่เรากลับสู้รบตบมือกับโจรกระจอกงอกง่อยแค่หยิบมือเดียวไม่ได้ เพราะเรากลัวหรือเพราะสู้ไม่ได้
หรือเพราะผลประโยชน์???