ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เลือกแบบหลังคาบ้านให้ดี แล้วที่พักอาศัยจะร่มเย็นไปอีกนาน

เริ่มโดย sirao2015, 07:16 น. 18 ส.ค 58

sirao2015

นับวันอากาศในประเทศไทยจะร้อนระอุมากขึ้นทุกวัน  ทั้งแสงอาทิตย์ที่ทะลุผ่านชั้นโอโซนที่เหลือน้อยนิดในไทยเรา ทำให้การเลือกแบบหลังคาบ้านจัดได้ว่ามีความสลักสำคัญอย่างยิ่งยวดจริงๆ เพราะมันจะส่งผลให้กับที่อาศัยในหลายๆ ด้าน ถ้าเลือกแบบที่ไม่เหมาะกับที่อาศัยและภูมิอากาศของบ้านเรา ค่าไฟฟ้าค่าดูจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวเลยทีเดียว



แล้วทีนี้เราจะเลือกอย่างไรล่ะ ให้ได้แบบหลังคาบ้านเหมาะกับการอาศัยของเรามากที่สุด ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าไทยเป็นประเทศเขตร้อนอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร เพราะฉะนี้แสงอาทิตย์จะแรงมาก และจากการที่หลายๆ หน่วยงานทำการวิจัยและพิสูจน์มาแล้วว่า "หลังคาทรงจั่ว" เหมาะกับถิ่นนี้ที่สุดเพราะความลาดเอียงของหลังคาจะมีผลต่อมุมตกกระทบของแสง มีส่วนช่วยในการระบายความร้อนได้ดีที่สุด อีกทั้งยังจะระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วไม่มีการขังของน้ำฝน เพราะต้องยอมรับเลยว่าฝนในประเทศไทยเราสมัยนี้มีความเป็นมลพิษสูงมาก หรือ ที่เรียกกันว่าฝนกรด ถ้ามีการเก็บขังของน้ำบนหลังคาจะสามารถทำให้หลังคามีโอกาสรั่วซึมในภายภาคหน้าได้สูงมาก

แล้วถ้าเกิดไม่ชอบแบบหลังคา  "ทรงจั่ว" ล่ะจะเลือกแบบไหนดี ความจริงก็มีแบบหลังคาให้เลือกอีกจำนวนมาก  อย่างแบบหลังคาสแลป หรือ หลังคาดาดฟ้าที่มีลักษณะแบนราบ สามารถทำเป็นพื้นที่ใช้สอยได้ แต่คุณก็ต้องหาช่างที่ชำนาญหน่อยนะคะ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นใช้ไปสักพักจะมีโอกาสเกิดการรั่วซึมสูง และ หลังคาแบบนี้ก็ทำให้ที่พักอาศัยร้อนมากกว่าปกติด้วย แต่ถ้าอยากจะเปลี่ยนแนวจากแบบหลังคาทรงจั่วจริงๆ ก็แนะนำแบบหลังคาทรง Lean to Roof แปลเป็นไทยก็ทรงเพิงหมาแหงนนั่นแหละค่ะ แต่ในแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นแล้วเขามีวิธีdesignให้ดูมีความเป็นคุณสมบัติเฉพาะ และสวยสะดุดตาหลายแบบเลยทีเดียว หลังทรงนี้จะช่วยระบายน้ำฝนได้ดีทีเดียวถ้าก่อสร้างให้ดีๆ นะคะ แต่ถ้าทำไม่ดีน้ำก็มีโอกาสขังได้เหมือนกัน

แบบสวยวัสดุห่วยก็ช่วยเราไม่ได้
ถึงแม้ว่าเราจะสรรหาแบบหลังคาที่สวยงามและเหมาะกับที่พักอาศัยเราเพียงใด แต่ถ้าเราไม่สรรหา เครื่องไม้เครื่องมือ และแบบแปลนที่ดีแล้วสุดท้ายการสร้างบ้านของเราก็จะไม่จบ เดี๋ยวสร้าง เดี๋ยวซ่อมอยู่อย่างนั้น ซึ่งมันคงไม่ดีแน่ ดังนั้นเราควรต้องใส่ใจอะไรบ้างมาศึกษากันต่อค่ะ


กระเบื้องหลังคา สิ่งที่ปกป้องที่อาศัยเราทั้งหลัง
            การเลือกวัสดุของกระเบื้องมุงแบบหลังคาบ้าน  นอกจากจะมีส่วนในเรื่องความมั่นคงของที่อาศัยเราแล้ว ยังมีส่วนในการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์และสไตล์ส่วนตัว ความชอบของเจ้าของบ้านช่องอีกด้วย เช่น ถ้าบ้านแบบทันสมัย ก็ควรเลือกกระเบื้องที่เป็นแบบแผ่นเรียบ เพื่อให้ดูมีความทันสมัย ถ้าบ้านเป็นลักษณะร่วมสมัย ไปจนถึงแนว Antique ก็อาจจะเลือกกระเบื้องแบบลอนโค้งเพิ่มขับดันสไตล์ของบ้านให้รับกับตัวที่พักอาศัย สร้างความเข้ากันของรสนิยมในการดีไซน์ หรือถ้าใครชอบสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติ กระเบื้องแบบปีกไม้ก็ดูจะเหมาะกันมากทีเดียว
ไม่ใช่แค่แบบของกระเบื้องมุงหลังคา วัสดุที่ใช้ทำกระเบื้องก็สำคัญต่อแบบหลังคาของเรามากเหมือนกันนะคะ เช่น ถ้าเราเลือกกระเบื้องคอนกรีต หรือที่เราเรียกว่า "กระเบื้องซีเมนต์" ซึ่งเป็นกระเบื้องที่ใช้กันแพร่หลาย เพราะมีความแข็งแรง แต่ก็มีจุดด้อยคือมีน้ำหนักมาก เราจึงต้องดีไซน์โครงหลังคาให้ดีเพราะไม่เช่นนั้นหลังคาบ้านได้เกิดการทรุดตัวในเร็ววันแน่ๆ  แต่ถ้าจะให้แนะนำว่าทำกระเบื้องแบบไหนถูกและพอใช้ได้ดี ก็ต้องขอแนะนำกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือ ที่เรียกว่า "กระเบื้องลอนคู่" เพราะมีน้ำหนักที่เบากว่ากระเบื้องซีเมนต์ธรรมดา และปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการสิ่งสร้างทำให้กระเบื้องลอนคู่มีความแข็งแรง และ มีราคาถูกลงอย่างมากอีกด้วย

แต่ถ้าคนที่เน้นสไตล์บ้านพักอาศัยสวยงามดูโดดเด่น แบบหลังคาบ้านที่ใช้ "กระเบื้องเซรามิก" ก็เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เพราะความมันวาวและสีที่ใช้เคลือบผิวของกระเบื้องจะเพิ่มความมีรสนิยมของเจ้าของบ้านมากๆ อีกทั้งกระเบื้องแบบนี้มีความป้องกันความร้อนจากแดดได้ดีค่ะ


            ยิ่งไปกว่านี้ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ในท้องตลาดอีกจำนวนมาก แต่เราก็ควรต้องศึกษาความสอดคล้องและการใช้งานของเราว่าแบบไหนจะเหมาะกับเรามากที่สุดนะคะ

ไม่สนโครงหลังคา ... เลือกกระเบื้องไปก็ไร้ความหมาย
โครงหลังคาจัดได้ว่าเป็นสาระสำคัญที่เรามองไม่เห็นแต่ไม่ใส่ใจไม่ได้ ก็เหมือนกระดูกของเราที่มองไม่เห็นแต่มีความสลักสำคัญ กับ ร่างกายมาก ๆ โครงหลังคาเมื่อก่อนก็มีอยู่ 2 ประเภท ก็คือ เหล็ก กับไม้ แต่ไม้ในสมัยนี้หาที่มีคุณภาพยาก และบางครั้งถ้าลืมทายากันปลวกล่ะก็ ไม่เกิน 10 ปีก็พรุนทั้งหลังแน่ เดี๋ยวนี้แบบหลังคาบ้านจึงเริ่มใช้โครงเหล็กกันมากขึ้น เพราะอายุการใช้งานนานกว่าการเปลี่ยนรูปของโครงสร้างน้อยกว่า ราคาต่ำกว่าไม้ จึงได้รับความนิยมกันมากขึ้น

โครงหลังคาเหล็กก็จะมี 2 แบบ คือ

- หลังคาเหล็กรูปพรรณ เป็นเหล็กรูปตัว C ที่นำมาเชื่อมต่อกันเป็นโครงหลังคา แต่ข้อควรระวังและกำชับช่างให้ดี ก็คือ การทาสีกันสนิม และการเชื่อมต่อเหล็ก เพราะถ้าทำไม่ดีอายุการใช้งานก็จะน้อยลงตามสภาพ

- โครงหลังคาสำเร็จรูป จะเป็นโครงที่ผลิตจากเหล็กเคลือบกัลป์วาไนซ์ซึ่งกันสนิมในตัว มีน้ำหนักเบา ส่วนมากจะทำการวัดขนาดความยาวของโครงเหล็กตั้งแต่โรงงานให้พอดี ไม่ค่อยเหลือเศษทิ้งขว้าง และเพราะมันถูกdesignให้เหมาะกับที่อยู่อาศัยนั้นๆ ตั้งแต่โรงงานการติดตั้งจึงง่ายและรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือมีราคาที่มากกว่าอยู่สักหน่อย


นอกจากนี้ ยังมีส่วนอื่นๆ ที่เราควรเอาใจใส่ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หลังคา เช่น พวกอุปกรณ์กันรั่วซึม แผ่นสะท้อนความร้อน แปบหล็ก รางน้ำตะเข้ แผ่นปิดรอยต่อ แผ่นปิดเชิงชาย กระเบื้องโปร่งแสงที่จะช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับอาคารบ้านเรือนให้ดูสูงโปร่งยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นศาสตร์ที่เราควรศึกษาและพิจารณาหารือกับสถาปนิกผู้designบ้านช่อง และ โฟร์แมนที่คุมงานก่อสร้าง ให้ช่วยใส่ใจกับบ้านช่องของเรา เพราะแค่เพียงนอตตัวเดียว แต่ถ้ามันอยู่ในส่วนที่สำคัญของที่อยู่ ถ้าผิดพลาดบ้านที่ควรจะดีก็จะมีปัญหาไม่จบสิ้นได้ไม่มีหมดแน่ๆ ขอให้คุณผู้อ่านควรศึกษาและหมั่นค่อยดูแลการก่อสร้างแบบหลังคาบ้านดีๆ นะคะ เพื่อที่อยู่อาศัยที่ดีในภาคหน้าของเรา



ขอบคุณบทความจาก : http://www.scgexperience.co.th/home-consult/dreamdriverblog/new-home/วัสดุหลังคา-กันสาดโรงจอดรถแบบทึบแสง.aspx

Tags : แบบหลังคาบ้าน,รูปแบบหลังคาบ้าน,แบบบ้านหลังคา