ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

28 ก.ย. วันป้องกัน “พิษสุนัขบ้า” โลก สคร.12 สงขลา ชวนนำสัตว์เลี้ยงฉีดวัคซีน

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 10:46 น. 26 ก.ย 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

28 ก.ย. วันป้องกัน "พิษสุนัขบ้า" โลก สคร.12 สงขลา ชวนนำสัตว์เลี้ยงฉีดวัคซีน พร้อมยึดหลัก 5 ย.

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ชวนประชาชนนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เนื่องในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก 28 กันยายน ของทุกปี แนะเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในรั้วรอบขอบชิด ระวังบุตรหลานไม่ให้คลุกคลีกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้าโดยการปฏิบัติตามคำแนะนำ 5 ย."อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง"

ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า โรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากเชื้อไวรัสเรบี่ส์ เป็นโรคติดต่อจากการถูกสัตว์เลือดอุ่น โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้ากัด ข่วนหรือเลียบริเวณที่มีรอยแผล รอยข่วน หรือน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้าเข้าตา ปาก จมูก สัตว์ที่เป็นตัวนำโรคที่สำคัญ คือ สุนัข แมว และอาจพบในสัตว์อื่นๆ  เช่น กระรอก กระแต กระต่าย ชะนี  หนู ลิง เป็นต้น

ส่วนใหญ่เมื่อได้รับเชื้อแล้วจะมีอาการหลังจากรับเชื้อ 15 – 60 วัน บางรายอาจน้อยกว่า 10 วัน หรือนานเป็นปี อาการเริ่มแรกของผู้ป่วย คือปวดศีรษะ มีไข้ต่ำๆ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย  ต่อมามีอาการคัน มักเริ่มจากบริเวณแผลที่ถูกกัด แสบๆ ร้อนๆ แล้วลามไปส่วนอื่น นอกจากนี้จะมีอาการกระสับกระส่าย กลัวแสงกลัวลม ไม่ชอบเสียงดัง มีอาการกลืนลำบาก  ทำให้ไม่อยากดื่มน้ำ มีอาการกลัวน้ำ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกหรืออาจชักเกร็ง  อัมพาต  หมดสติ และ เสียชีวิตภายใน 2 – 7 วันนับจากวันเริ่มแสดงอาการ

เนื่องในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กันยายน ของทุกปี จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนดูแลสัตว์เลี้ยงให้ถูกต้อง โดยการนำสัตว์เลี้ยงอายุ 2 - 4 เดือนขึ้นไป ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
และฉีดกระตุ้นอีกครั้งตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ หมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเองให้อยู่ในบริเวณที่มีรั้วปิดรอบ
ไม่ปล่อยให้ออกไปคลุกคลีกับสุนัขจรจัดนอกบ้าน ไม่เลี้ยงสุนัขจรจัดบริเวณหน้าบ้าน และไม่นำสุนัขจรจัดมาเลี้ยงในบ้านเด็ดขาด เพราะหากมีเชื้อโรคหรือป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า จะเป็นตัวการแพร่เชื้อได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ ขณะนี้ไม่มียารักษา ผู้ป่วยต้องเสียชีวิตทุกราย การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยให้ปฏิบัติตามหลัก 5 ย ได้แก่ "อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ  อย่ายุ่ง"

คือ อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห
อย่าเหยียบสุนัข หาง ตัวและขา หรือทำให้สุนัขตกใจ
อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า
อย่าหยิบชามอาหารขณะสุนัขกำลังกิน
และอย่ายุ่งกับสุนัขนอกบ้านหรือสุนัขที่ไม่ทราบประวัติ

ดร.นายแพทย์สุวิช  ธรรมปาโล  กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนที่นับว่าเป็นปัญหสาธารณสุขที่สำคัญของโลก ในแต่ละปีพบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่า 55,000 ราย  จาก 150 ประเทศทั่วโลก โดยในทวีปเอเชียพบผู้เสียชีวิตมากกว่า 31,000 ราย ส่วนใหญ่ถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน แล้วไม่ได้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันอย่างรวดเร็วและครบถ้วน ดังนั้นเมื่อถูกสุนัข แมว หรือสัตว์อื่นๆ กัดให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น เบตาดีน เพื่อช่วยลดอัตราเกิดโรคได้ถึงร้อยละ 80-90 และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้เร็วที่สุดเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคจนครบตามที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค


ข่าวโดย พรรณภัทร ประทุมศรี นักวิชาการเผยแพร่
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา