ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เขาว่าศีลต้องมากจากการรับศีลเท่านั้น จริงไหม

เริ่มโดย สงสัย, 21:56 น. 28 ต.ค 54

สงสัย

ได้ยินมาจากพระรูปหนึ่งเทศน์ว่า ศีลนั้น เป็นสิ่งที่ต้องสมาทาน คือรับมาปฏิบัติ จึงจะเป็นการปฏิบัติศีล การทำเป็นธรรมชาติโดยไม่รับศีลนั้นไม่เป็นศีล เพราะไม่มีการสมาทาน ยังสงสัยอยู่ ว่าเป็นอย่างไรกันแน่

ปัจเจกพุทธ

ศีล แปลว่า ปกติ การรักษาศีล คือการรักษา กาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ คำว่าเป็นปกติ คือ อย่าให้มีสิ่งผิดปกติ หรือความเดือดร้อนเกิดขึ้น หากเห็นว่าสิ่งใดที่ คิด พูด ทำ ไปแล้ว ทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็อย่าได้ทำ

ไม่จำเป็นต้องรับจากใคร เป็นสามัญสำนึก ที่ใคร ๆ ก็คิดได้ แต่จะทำหรือไม่ ก็แล้วแต่บุคคล

ยังมีความเชื่ออีกหลายอย่างที่พระภิกษุบางรูปเข้าใจผิดอยู่ หมั่นตรึกตรองโดยใช้เหตุและผล (โยนิโสมนสิการ) จะเห็นความจริง

สงสัย

นั่นสินะ

เราว่าพระก็ใช่จะรู้จริงทุกรูปหรอก บางทีก็ว่าไปตามความเชื่อตัวเองเท่านั้นหรอก บางทีฟังเทศน์แล้วขัดๆหู คล้ายกับว่ามันไม่ใช่ แต่เราไม่รู้เลยงงๆ

ขอบคุณที่ให้คำตอบ

nonimans

ความเห็นส่วนตัวครับ ผมว่าอยู่ที่จิตและการปฏิบัติเราครับ

แต่การรับศีล มันก็เหมือนเราได้ปฏิญาณไว้นะครับ ทำให้เรารู้สึกหรือมั่นคงในการปฏิบัติมากกว่าเดิม

แต่การรับศีล อารธนาศีลเอง รับศีลเอง ที่บ้านหน้าพระก็ได้ครับ เมื่อก่อนผมทำอยู่บ่อย ๆ แต่ช่วงหลังละเลย

ช่วงที่ทำบ่อย ๆ มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา เดี๋ยวนี้ชักประมาท ละเลยเหลือเกิน จะเริ่มกลับมาทำอีกครับ

ฅนเกาะเสือ

อ้างจาก: ปัจเจกพุทธ เมื่อ 17:06 น.  29 ต.ค 54
ศีล แปลว่า ปกติ การรักษาศีล คือการรักษา กาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ คำว่าเป็นปกติ คือ อย่าให้มีสิ่งผิดปกติ หรือความเดือดร้อนเกิดขึ้น หากเห็นว่าสิ่งใดที่ คิด พูด ทำ ไปแล้ว ทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็อย่าได้ทำ

ไม่จำเป็นต้องรับจากใคร เป็นสามัญสำนึก ที่ใคร ๆ ก็คิดได้ แต่จะทำหรือไม่ ก็แล้วแต่บุคคล

ยังมีความเชื่ออีกหลายอย่างที่พระภิกษุบางรูปเข้าใจผิดอยู่ หมั่นตรึกตรองโดยใช้เหตุและผล (โยนิโสมนสิการ) จะเห็นความจริง
ตามนั้นครับ ปกติ/การละเว้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ดีเราละเว้นไม่ไปข้องแวะ ก็ถือว่ามีศิลแล้วครับ

อันสตรีไม่มีศิล ก็สิ้นสวย
บุุรุษด้วยไม่มีศิลก็สิ้นศรี
สมณะไม่มีศิล ก็สิ้นดี
ข้าราชการ ศิลไม่มีก็ หยาบคาย

(จำเขามาครับได้แค่นี่แหละ..ขอบพระคุณทุกๆท่านที่..อ่านครับผม)
คงเป็นกุสโลบายของพระแหละครับ ที่จะให้คนเข้าวัดบ้าง ขืนบอกว่ารักษาศิลอยู่ที่บ้านก็ได้ แล้วไครจะเข้าวัดหละครับท่าน    แฮะๆๆๆๆ
แม้ ความรู้อันน้อยนิด อาจช่วยชีวิต คนเป็น ร้อย

คุณหลวง

อ้างจาก: ฅนเกาะเสือ เมื่อ 17:22 น.  27 พ.ย 54
ตามนั้นครับ ปกติ/การละเว้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ดีเราละเว้นไม่ไปข้องแวะ ก็ถือว่ามีศิลแล้วครับ

อันสตรีไม่มีศิล ก็สิ้นสวย
บุุรุษด้วยไม่มีศิลก็สิ้นศรี
สมณะไม่มีศิล ก็สิ้นดี
ข้าราชการ ศิลไม่มีก็ หยาบคาย

(จำเขามาครับได้แค่นี่แหละ..ขอบพระคุณทุกๆท่านที่..อ่านครับผม)
คงเป็นกุสโลบายของพระแหละครับ ที่จะให้คนเข้าวัดบ้าง ขืนบอกว่ารักษาศิลอยู่ที่บ้านก็ได้ แล้วไครจะเข้าวัดหละครับท่าน    แฮะๆๆๆๆ

    สะบายดี...

เป็นไปได้ครับ  ส.หยิบตาข้างเดียว
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

narate

สมาทานศีลเองได้ครับ..หลักพุทธที่ถุกต้องยึดพระไตรปิฎกไว้ครับ   ...ถามจะถามพระ..ให้ถามพระที่ศีล 227 ครบ ในสงขลาวัดที่ศีลครบ 227 มีครับ..แล้วแต่ผลบุญกรรมจะนำพาท่านไปเจอเองครับ.. ส.บายใจ ส.อ่านหลังสือ ส.ยกน้ิวให้

samrit

อ้างจาก: ปัจเจกพุทธ เมื่อ 17:06 น.  29 ต.ค 54
ศีล แปลว่า ปกติ การรักษาศีล คือการรักษา กาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติ คำว่าเป็นปกติ คือ อย่าให้มีสิ่งผิดปกติ หรือความเดือดร้อนเกิดขึ้น หากเห็นว่าสิ่งใดที่ คิด พูด ทำ ไปแล้ว ทำให้เกิดความวุ่นวาย ก็อย่าได้ทำ

ไม่จำเป็นต้องรับจากใคร เป็นสามัญสำนึก ที่ใคร ๆ ก็คิดได้ แต่จะทำหรือไม่ ก็แล้วแต่บุคคล

ยังมีความเชื่ออีกหลายอย่างที่พระภิกษุบางรูปเข้าใจผิดอยู่ หมั่นตรึกตรองโดยใช้เหตุและผล (โยนิโสมนสิการ) จะเห็นความจริง

ส.ยกน้ิวให้
คิดดี พูดดี ทำดี ชีวิตก็จะพบแต่สิ่งที่ดีๆ...