ผู้ว่าฯทรงพล มอบนโยบายพร้อมกำชับศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอต้องทำงานเชิงรุก

[ทีมงานบ้านเรา]

ผู้ว่าฯสงขลา มอบนโยบายแก่คณะทำงานของศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัดและอำเภอ เน้นย้ำต้องบริหารงานเชิงรุก ลดขั้นตอนทางเอกสาร และบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่องานสัมฤทธิ์ผล ประชาชนพึงพอใจ

[attach=2]
(23พ.ย.58) ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมมอบนโยบายการดำเนินเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัดและระดับอำเภอ โดยเปิดรับฟังปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน และมอบแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ฯ โดยมี หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ศูนย์ ผู้รับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมระดับอำเภอทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม
           
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา  กล่าวว่า ตามที่ คสช.มีประกาศ ฉบับที่69/2557 ลงวันที่ 18 กรกฏาคม 2557 ให้ทุกจังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อทำหน้าที่ให้บริการประชาชนการรับเรื่องราวร้องทุกข์ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษารับเรื่องปัญหาความต้องการและข้อเสนอแนะของประชาชน รวมทั้งทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 32 แห่งพระราชกฎีกาและวิธีการบริหารบ้านเมือง พ.ศ.2556

สำหรับจังหวัดสงขลาได้มีประกาศจังหวัด ลงวันที่ 31 กรกฏาคม 2557 เรื่องจัดตั้งศูนย์บริการร่วม "ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา" ตามนโยบาย คสช. ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เรียกผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมทุกภาคส่วน ประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานในโอกาสย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งทางรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกับการบริการประชาชน และรับเรื่องร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำให้ ศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัดและอำเภอ ต้องบริหารงานเชิงรุก ลดขั้นตอนทางเอกสาร และบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่องานสัมฤทธิ์ผล ประชาชนพึงพอใจ และขั้นตอนที่เป็นทางการหรือการส่งต่อเอกสาร ทั้งนี้ต้องทำคู่ขนานกับการประสานทางโทรศัพท์ หรือที่ไม่เป็นทางการเพื่อความรวดเร็วและลดภาระของผู้ร้องเรียน สร้างความรู้สึกที่ดีกับประชาชน การมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับงานบริการ ยิ้มแย้มแจ่มใจ เต็มใจให้บริการ Smart Alert

ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา จะจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วในการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ และขอให้ช่วยกันดูแลสอดส่องปัญหาที่คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง หรือข่าวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อเร่งการแก้ไข โดยใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ และสุดท้าย ขอให้ทุกหน่วยรีบดำเนินการเรื่องร้องเรียนค้างเก่า ที่อยู่ในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จ  ....