ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สาระน่ารู้จาก ธปท.ใต้ เรื่อง ตราสารหนี้ ... มีดีอย่างไร

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 14:56 น. 16 ธ.ค 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

ตราสารหนี้ ... มีดีอย่างไร
เขียนบทความโดย นายวิศรุต ตระกูลวีระยุทธ
[attach=1]

เมื่อใดก็ตามที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากไม่จูงใจมากนัก ผู้ที่มีเงินออมก็มักเกิดคำถามขึ้นในใจว่า "เอาเงินไปลงทุนอะไรดี" ที่จะได้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากธนาคาร หลายคนอยากเริ่มลงทุนในหุ้นสามัญ แต่ก็ยังกลัวๆ กล้าๆ หรือโชคร้ายต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่มาหลอกลวงด้วยธุรกิจที่เป็นภัยทางการเงินก็มี

การลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การลงทุนในตราสารหนี้ แต่บางท่านอาจยังสงสัยว่าตราสารหนี้คืออะไร ถ้าผู้ประกอบการต้องการเงินทุนมาทำธุรกิจหรือขยายกิจการ นอกจากการกู้ยืมจากธนาคารแล้ว ผู้ประกอบการอาจใช้วิธีการกู้ยืมเงินโดยตรงจากผู้ลงทุน ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ประกอบการ จึงเรียกตราสารรับรองความเป็นเจ้าหนี้ที่ออกโดยบริษัทว่า "หุ้นกู้" ส่วนในกรณีผู้กู้เป็นรัฐบาล จะเรียกว่า "พันธบัตรรัฐบาล" ซึ่งผมขอแบ่งข้อดีของตราสารหนี้ในมุมของผู้ลงทุนออกเป็น 6 ด้าน ดังนี้ครับ

ด้านแรก ผู้ลงทุนวางแผนการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนและสม่ำเสมอ

ด้านที่สอง ผู้ลงทุนเลือกประเภทตราสารหนี้ได้อย่างหลากหลาย โดยสามารถกำหนดให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของตนเองได้ เช่น ผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากอาจเลือกลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยภาครัฐ แต่หากผู้ลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นและสามารถรับความเสี่ยงที่มากกว่าได้ก็อาจเลือกลงทุนในหุ้นกู้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะเลือกหุ้นกู้ตัวไหนก็คืออันดับเครดิต (credit rating) ซึ่งโดยทั่วไปอันดับเครดิตสำหรับการลงทุนควรอยู่ที่ระดับ BBB ขึ้นไปครับ นอกจากนี้ยังมีหุ้นกู้ที่มีสิทธิแฝงอีกด้วย เช่น หุ้นกู้ที่มีสิทธิขายคืนก่อนกำหนด หรือหุ้นกู้แปลงสภาพ

ด้านที่สาม ผู้ลงทุนในตราสารหนี้โดยส่วนใหญ่มีลำดับสิทธิในการรับชำระเงินคืนที่เหนือกว่าหุ้นสามัญ กล่าวคือ ผู้ถือหุ้นสามัญ (เจ้าของ) จะได้รับเงินเมื่อบริษัทชำระเงินคืนให้แก่ผู้ถือตราสารหนี้ครบถ้วนก่อน จึงถือว่าตราสารหนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า

ด้านที่สี่ ผู้ลงทุนมีสภาพคล่อง คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าต้องถือตราสารหนี้จนถึงวันครบกำหนดอายุ แต่จริงๆ แล้วตราสารหนี้บางตัวสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ในตลาดรอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดหรือวงเงินต่อรุ่นด้วย

ด้านที่ห้า ผู้ลงทุนในตราสารหนี้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับการฝากเงิน เช่น ปัจจุบันการฝากออมทรัพย์ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 0.5 ต่อปี ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 3 ต่อปี

และด้านที่หก ผู้ลงทุนใช้ตราสารหนี้ไปวางเป็นหลักประกันต่าง ๆ ได้ เช่น การขอสินเชื่อ การประกวดราคา

[attach=2]

ตราสารหนี้จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารจัดการเงินให้งอกเงย แต่ก็ยังไม่อยากเสี่ยงไปลงทุนในหุ้นสามัญ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากฝากไว้ก็คือ หุ้นกู้ไม่ใช่เงินฝากและไม่ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก แม้ว่าท่านจะซื้อหุ้นกู้ได้ที่ธนาคาร แต่ธนาคารนั้นอาจไม่ใช่ผู้ออกหุ้นกู้ และไม่ได้รับประกันว่าท่านจะได้ดอกเบี้ยและเงินต้นคืนอย่างครบถ้วน และอย่าลืมครับว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน" โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th หรือ www.thaibma.or.th ครับ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

มานี มีเงิน

 ได้สาระเเละความรู้เพิ่มมากๆค่ะ มีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้นเลยค่ะ ส.ยกน้ิวให้