ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เมื่อไทยเราจำเป็นต้องพิมพ์ธนบัตรขึ้นใช้เองเป็นครั้งแรก เมื่อใด?

เริ่มโดย หนุ่มหาดใหญ่, 13:26 น. 20 ธ.ค 58

หนุ่มหาดใหญ่

เมื่อไทยเราจำเป็นต้องพิมพ์ธนบัตรขึ้นใช้เองเป็นครั้งแรก

ตัวอย่างธนบัตรรุ่นกรมแผนที่
[attach=1]
ภาพประกอบ: จากบอร์ดฝากซื้อ-ฝากขาย » ขายธนบัตรเก่า ร.6 ร.7 ร.8 ร.9.. http://goo.gl/pmn7Zo

ธนบัตรแบบ 4 (4th Series) พิมพ์โดยกรมแผนที่ทหารบก ออกใช้เมื่อ พ.ศ. 2485
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สั่งพิมพ์ธนบัตรจาก
ประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจากอุปสรรคในการลำเลียงขนส่งและความต้องการสูงของกองทัพ
ญี่ปุ่นในประเทศไทย รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการพิมพ์ธนบัตรขึ้นเองภายในประเทศ โดย
ใช้อุปกรณ์แล้วแต่จะหาได้ ธนบัตรรุ่นนี้มี 4 ชนิดราคา ได้แก่ 1 บาท 10 บาท 20 บาท
และ 100 บาท ทุกแบบพิมพ์ใกล้เคียงแบบพิมพ์ของบริษัท โทมัส เดอลารู (แบบ 4) ให้
มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกันตัวสะกดภาษาไทยในขณะนั้นก็อยู่ในช่วงที่รัฐบาล
จอมพล ป. พิบูลสงคราม บังคับใช้ *อักขรวิบัติ ด้วย ดังที่เราพบเห็นในธนบัตรรุ่นนี้ เช่น
รัฐบาล = รัถบาล, กฎหมาย = กดหมาย, กระทรวง = กะซวง เป็นต้น

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ขยายตัวมายังทวีปเอเชียจนกลายเป็นสงครามมหาเอเชียบูรพา
โดยญี่ปุ่นได้ยกกองทัพเข้ามาในประเทศไทยเพื่ออาศัยเป็นฐานทัพในการสู้รบและยึด
ครองประเทศข้างเคียง ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะจำยอมต้องทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับ
ญี่ปุ่น และถูกยื่นข้อเสนอให้จัดตั้งธนาคารกลาง โดยให้มีที่ปรึกษาและหัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ
เป็นชาวญี่ปุ่น ดังนั้น เพื่อรักษาอิสรภาพและเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ มิให้
ญี่ปุ่นเข้ามามีอำนาจควบคุมระบบการเงินของไทย รัฐบาลจอมพล ป.จึงเร่งจัดตั้งธนาคาร
กลางอย่างรีบด่วน และได้จัดตั้งธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้น ทำหน้าที่รับมอบการออก
ธนบัตรจากกระทรวงการคลัง ฯลฯ

จากการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นทำให้การสั่งพิมพ์ธนบัตรจากบริษัท โทมัส เดอลารู
ไม่สามารถทำได้ รัฐบาลไทยจึงขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นช่วยพิมพ์ธนบัตรให้ (ธนบัตรแบบ 5) แต่
เมื่อสงครามทวีความรุนแรงขึ้น รัฐบาลเห็นว่าสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจนัก แม้จะสั่ง
พิมพ์ธนบัตรจากญี่ปุ่นแล้วก็ตาม หากไม่สามารถขนส่งธนบัตรมาได้ ก็จะทำให้ไทยขาด
แคลนธนบัตรอย่างยิ่ง รัฐบาลไทยจึงตัดสินใจพิมพ์ธนบัตรขึ้นใช้เอง โดยใช้วัตถุดิบที่พึงหา
ได้ภายในประเทศ
และมอบหมายให้กรมแผนที่ทหารบก กรมอุทกศาสตร์ ฯลฯ เป็นผู้จัด
พิมพ์ ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากพนักงานของธนาคารแห่งประเทศไทย แม้ว่า
ธนบัตรที่พิมพ์เองนี้จะมีคุณภาพต่ำ แต่ก็​สามารถช่วยบรรเทาปัญหาธนบัตรขาดแคลนได้
ตลอดช่วงสงคราม ซึ่งธนบัตรรุ่นนี้ได้พิมพ์คำว่า กรมแผนที่ ไว้ที่ขอบล่างของธนบัตรทั้ง
ด้านหน้าและหลัง ใช้กระดาษจากโรงงานกระดาษที่จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มทยอยออกใช้เมื่อ
พ.ศ. 2485
_________________________________________________________

*อักขรวิบัติ : ในยุคสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามมหาเอเชีย
บูรพา ราวๆ พ.ศ. 2485 ได้มีประกาศแก้ไขปรับปรุงภาษาไทยกันแบบขนานใหญ่ เรียก
กันภายหลังว่าเป็นยุค "ภาษาวิบัติ" สาเหตุที่รัฐบาลต้องทำอย่าง "กะทันหัน" ในครั้งนั้น
เพราะญี่ปุ่นซึ่งเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยเพื่อทำสงครามมหาเอเซียบูรพานั้น ได้มา
แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า ภาษาไทยเรียนยาก เพราะมีพยัญชนะและสระมากมายเหลือ
เกิน จึงเห็นว่าควรใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการแทน นายกฯ จอมพล ป. (พยายามหา
ทางออก)ได้ตอบว่า ไทยเรามีตัวหนังสือเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งใช้ในราชการ ซึ่งเรียนยาก
หน่อย ส่วนชุดที่เรียนง่าย มีอีกชุดหนึ่ง สำหรับสามัญชนทั่วๆ ไปซึ่งเหมาะกับญี่ปุ่นที่ต้อง
การง่าย (จริงๆ แล้วขณะนั้นมีชุดเดียวเอง) นายกฯ จอมพล ป. จึงรีบหาทางออกโดยได้
เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นการด่วน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องนี้ มิฉะนั้นเราจะ
ต้องกลายเป็นเมืองขึ้นญี่ปุ่นไป ในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้ลงมติแต่งตั้งคณะกรรมการส่ง
เสริมวัฒนธรรมไทยขึ้น และได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้อย่างรีบด่วน หลังจาก
ประชุมครั้งที่สองเสร็จสิ้น ก็มีประกาศสำนักนายกฯ เมื่อ 29 พ.ค. 2485 เรื่อง "การปรับ
ปรุงตัวอักษรไทย" ออกมาแล้ว นับว่าเป็นการทำงานแข่งกับเวลา และแข่งกับความอยู่รอด
ของเมืองไทยและวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างยิ่ง

การเขียนหนังสือไทยแบบ "สมัย จอมพล ป." นี้ มีอายุยืนยาวอยู่ 2 ปีเศษ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล
ใหม่ในคราวต่อมา รัฐบาลใหม่ก็ยกเลิก กลับไปใช้การเขียนภาษาไทยอย่างเดิม และก็ใช้
เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้.

ข้อมูล : www.bot.or.th/Thai/Banknotes | http://www.reurnthai.com/index.php?topic=47.0

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)