ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

“ประวิตร” ลงใต้ ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงที่หาดใหญ่ พร้อมติดตามการแก้ปัญหา

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 16:37 น. 21 ธ.ค 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ติดตามการแก้ปัญหาตามนโยบาย ของ คสช. พร้อมพบปะมวลชนและให้การต้อนรับผู้เห็นต่างจากรัฐที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน

[attach=1]

วันนี้ (21ธ.ค.58) เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฯอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกอุดมเดช สีตะบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม , พลเอกปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม   พลเอกธีรชัย นาควานิช และพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เข้าร่วมประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วยหน่วย ทหาร ตำรวจ และพลเรือน

เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน พร้อมทั้งมอบนโยบาย การปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยมี พลโทวิวรรธน์  ปฐมภาคย์  แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายภาณุ อุทัยรัตน์  เลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 , ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ นายอำเภอทุกอำเภอ ในพื้นที่เข้าร่วมประชุมพร้อมรับฟังแนวทางการปฏิบัติงาน

จากนั้น  พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการและเป็นประธานต้อนรับคนกลับบ้านที่เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จำนวน 1,097 คน  ซึ่งในวันนี้ได้มีการมอบถุงพระราชทานให้กับผู้แทนพาคนกลับบ้านต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จำนวน 3 คนอีกด้วย

สำหรับโครงการพาคนกลับบ้านเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2555 ภายใต้นโยบายของ พลโทวิวรรธน์  ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แต่ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการให้มีความเบ็ดเสร็จในตนเอง เป็นรูปธรรม มีความชัดเจนและมีเอกภาพในการขับเคลื่อนงาน เพื่อให้ตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตามความต้องการของผู้บังคับบัญชาและมความสะดวกรวดเร็วกับผู้เห็นต่างจากรัฐในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้พัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาแบบพิเศษกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ

โดยการสร้างความเข้าใจ ลดความหวาดระแวง และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเครือญาติ และครอบครัวของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่มีหมาย ป.วิฯอาญา, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และหวาดระแวง  โดยให้มวลชน คนกลางช่วยชักชวนและจูงใจ เช่น ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำสี่เสาหลัก เครือญาติ และครอบครัว รวมทั้งบุคคลที่เห็นต่างจากรัฐไว้วางใจ ประกอบกับมีหน่วยงานหลักเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นหลายหน่วยงาน ลงไปประสานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วนแบบเต็มพื้นที่ มีความถี่มากขึ้น

โดยให้ผู้เห็นต่างจากรัฐที่หลบหนีได้ออกมารายงานเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน อย่างจริงใจและจริงจัง  โดยการสร้างความเชื่อมั่น ความศรัทธา และความเชื่อใจเจ้าหน้าที่รัฐให้เกิดขึ้นกับผู้เห็นต่างจากรัฐที่หลบหนีออกจากหมู่บ้านมาอยู่กับครอบครัวอย่างปกติสุข  พร้อมทั้งการช่วยเหลือในการปลดเปลื้องพันธะทางจิตใจ และพันธะทางกฎหมาย ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของผู้เห็นต่างและครอบครัว อาทิ การส่งเสริมรายได้ การฝึกอาชีพ ซึ่งรวมยอดผู้เข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้านจนถึงขณะนี้รวม 3,000คน

สำหรับการดำเนินงานโครงการพาคนกลับบ้าน  เพื่อสร้างความเข้าใจ ลดความหวาดระแวง และฟื้นคืนความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติของ เจ้าหน้าที่  โดยการขับเคลื่อนประสานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วนให้กับผู้เห็นต่างจากรัฐ ที่ต้องการยุติการใช้ความรุนแรง โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ เป็นศูนย์กลางในการเปิดโอกาสให้กับผู้เห็นต่างจากรัฐ ได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข  เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม เอื้อต่อการพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป

ข้อมูลและที่มา
สุธิดา พฤกษ์อุดม / ข่าว สวท.สงขลา 21 ธ.ค.58
โปรดปราน บุญธรรม / ภาพ