ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อนันตริยกรรม

เริ่มโดย คนเมืองสง, 08:10 น. 12 ม.ค 59

คนเมืองสง

อนันตริยกรรม
ฆ่ามารดา, ฆ่าบิดา, ฆ่าพระอรหันต์, กระทำการเพียงพระพุทธเจ้าห้อเลือด, สร้างสังฆเภท(สร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์)
เราๆท่านๆจงพึงระวัง ขอให้ท่านทั้งหลายจงโชคดีอย่าได้มีอนันตริยกรรม
สงฆ์จะระงับอธิกรณ์ได้โดยสงฆ์ ท่านลองสังเกตจะเห็นว่าผู้รู้จริงจะเงียบอยู่เพราะเขากลัวบาป
ผู้ไม่กลัวบาปเท่านั้นที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่ว่าฝ่ายไหนก็เหมือนกัน สามแสนรายชื่อที่ร่วมลงชื่อกับท่านพุทธอิสสระ ก็น่าเป็นห่วงว่าท่านเหล่านั้นได้กระทำอนันตริยกรรมไปด้วยเพราะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของพระ ส่วนนายไพบูลย์ นิติ..ก็คงจะลงนรกไปแล้วด้วยพฤติกรรม พระอีกฝ่ายที่ออกมาตอบโต้ก็ถือว่าขาดสติ

ทาน

  ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ประกอบด้วยเสาสี่ต้น คือ "ภิกษุ ภิกษุณี อาบาสก อุบาสิกา" เสาทั้งหมดนี้ สามารถเป็น "อริยสงฆ์" ได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะนุ่งห่มจีวรหรือไม่ก็ตาม และถึงแม้จะนุ่งห่มจีวร ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ปลอมบวช แปลว่า การนุ่งห่มจีวร "ไม่ใช่สาระสำคัญ" แต่สำคัญที่ จิตใจ ซึ่งหมายถึง "มโนกรรม"เป็นหลัก  หาก "มโนกรรม" ตั้งใน กุศลจิต ย่อม ส่งผลให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ในทางกลับกัน หากตั้งใน อกุศลจิต แน่นอนย่อม ตกไปสู่ นรกภูมิ ดังนั้น จิตเป็นของเรา เราย่อมรู้ดีแก่ใจ ว่าเจตนาดีหรือไม่ดี การที่เราเห็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เหมือนกับ การ สร้างสังฆเภท(สร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์) หากเป็นเรื่องเพื่อการปกป้องศาสนา คือเรามีเจตุนาดี ย่อมทำได้ เพราะ เจตุนา ของสงฆ์บางรูป ทำไปเพื่อทำลายศาสนาและปกป้องหรือกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง เช่นการให้การสนับสนุนผู้บิดเบือน คำสอนของ ตถาคต หากนิ่งเฉยปล่อยให้ศาสนามัวหมองด้วยเหล่าผุ้ปลอมบวช อันนี้สิ บาปมหันต์ เหมือนเห็นคนใกล้ตายแล้วนิ่งเฉยทั้งที่ช่วยเหลือได้ หรือถ้าจะเปรียบให้ง่าย คือ สามี ภรรยา ทะเลาะกัน สามีติดยาเสพติดคอยหาเรื่องขูรีดไถ ภรรยา วันนี้ทะเลาะกันก็เอามีดจะจ้วงแทงทำร้าย พวกเรา เห็นอยุ่กับตาได้ยินกับหู ว่า สามี ตะโกน บอกว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องของผัวเมียใครอย่ามาแส่ ใครแส่มายุ่งจะมีเรื่อง" ถามว่า เราควรนิ่งเฉย ปล่อยให้ สามี จ้วงแทง ภรรยาให้ตาย หรือ ควรห้ามปราม(ถ้าทำได้) หรือ โทรแจ้งตำรวจ ถ้าเรานิ่งเฉยทำตามที่สามีกล่าว เท่ากับ ว่าเราทำร้ายทั้ง สอง คนคือ ภรรยา ตาย สามีติดคุก อันนี้ไม่รวมลูกที่ ต้องเกิดความสับสนที่ พ่อฆ่าแม่ พ่ออยุ่ในคุกและลูกต้องลำบาก เท่ากับเราทำร้ายสังคม ใน"เมื่อชาวบ้าน อย่างเรา ก็ คือ อริยะสงฆ์ และสงฆ์ที่ ห่มจีวร แท้จริง คือชาวบ้าน" ต่างกันที่"เจตุนา" "ปกป้อง กับ ทำร้าย"                                  ศาสนา แล้ว เราจะทำตาม เจตุนาที่ดีของเรา มันตกนรก ได้ยังไง การปกป้องศาสนามันบาปเหรอ ??? ถ้ามันบาปก็อย่าไป นับถือเลยศาสนา พุทธ ไม่ต้องไปทำบุญตักบาตรให้พระ ปล่อยให้อดตายไป เสียเวลาร่วมกิจกรรม  เพราะ พุทธ แท้ ไม่ได้สอนอย่างนี้ อย่าไป งมงายกับ พุทธเทียม ใช้สติปัญญา พิจารณา นะครับ

Mr.No

อ้างจาก: ทาน เมื่อ 19:37 น.  12 ม.ค 59
  ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ประกอบด้วยเสาสี่ต้น คือ "ภิกษุ ภิกษุณี อาบาสก อุบาสิกา" เสาทั้งหมดนี้ สามารถเป็น "อริยสงฆ์" ได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะนุ่งห่มจีวรหรือไม่ก็ตาม และถึงแม้จะนุ่งห่มจีวร ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ปลอมบวช แปลว่า การนุ่งห่มจีวร "ไม่ใช่สาระสำคัญ" แต่สำคัญที่ จิตใจ ซึ่งหมายถึง "มโนกรรม"เป็นหลัก  หาก "มโนกรรม" ตั้งใน กุศลจิต ย่อม ส่งผลให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ในทางกลับกัน หากตั้งใน อกุศลจิต แน่นอนย่อม ตกไปสู่ นรกภูมิ ดังนั้น จิตเป็นของเรา เราย่อมรู้ดีแก่ใจ ว่าเจตนาดีหรือไม่ดี การที่เราเห็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เหมือนกับ การ สร้างสังฆเภท(สร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์) หากเป็นเรื่องเพื่อการปกป้องศาสนา คือเรามีเจตุนาดี ย่อมทำได้ เพราะ เจตุนา ของสงฆ์บางรูป ทำไปเพื่อทำลายศาสนาและปกป้องหรือกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง เช่นการให้การสนับสนุนผู้บิดเบือน คำสอนของ ตถาคต หากนิ่งเฉยปล่อยให้ศาสนามัวหมองด้วยเหล่าผุ้ปลอมบวช อันนี้สิ บาปมหันต์ เหมือนเห็นคนใกล้ตายแล้วนิ่งเฉยทั้งที่ช่วยเหลือได้ หรือถ้าจะเปรียบให้ง่าย คือ สามี ภรรยา ทะเลาะกัน สามีติดยาเสพติดคอยหาเรื่องขูรีดไถ ภรรยา วันนี้ทะเลาะกันก็เอามีดจะจ้วงแทงทำร้าย พวกเรา เห็นอยุ่กับตาได้ยินกับหู ว่า สามี ตะโกน บอกว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องของผัวเมียใครอย่ามาแส่ ใครแส่มายุ่งจะมีเรื่อง" ถามว่า เราควรนิ่งเฉย ปล่อยให้ สามี จ้วงแทง ภรรยาให้ตาย หรือ ควรห้ามปราม(ถ้าทำได้) หรือ โทรแจ้งตำรวจ ถ้าเรานิ่งเฉยทำตามที่สามีกล่าว เท่ากับ ว่าเราทำร้ายทั้ง สอง คนคือ ภรรยา ตาย สามีติดคุก อันนี้ไม่รวมลูกที่ ต้องเกิดความสับสนที่ พ่อฆ่าแม่ พ่ออยุ่ในคุกและลูกต้องลำบาก เท่ากับเราทำร้ายสังคม ใน"เมื่อชาวบ้าน อย่างเรา ก็ คือ อริยะสงฆ์ และสงฆ์ที่ ห่มจีวร แท้จริง คือชาวบ้าน" ต่างกันที่"เจตุนา" "ปกป้อง กับ ทำร้าย"                                  ศาสนา แล้ว เราจะทำตาม เจตุนาที่ดีของเรา มันตกนรก ได้ยังไง การปกป้องศาสนามันบาปเหรอ ??? ถ้ามันบาปก็อย่าไป นับถือเลยศาสนา พุทธ ไม่ต้องไปทำบุญตักบาตรให้พระ ปล่อยให้อดตายไป เสียเวลาร่วมกิจกรรม  เพราะ พุทธ แท้ ไม่ได้สอนอย่างนี้ อย่าไป งมงายกับ พุทธเทียม ใช้สติปัญญา พิจารณา นะครับ

ตามนั้นครับ... ส.ยกน้ิวให้
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

คนเมืองสง

อ้างจาก: ทาน เมื่อ 19:37 น.  12 ม.ค 59
หรือถ้าจะเปรียบให้ง่าย คือ สามี ภรรยา ทะเลาะกัน สามีติดยาเสพติดคอยหาเรื่องขูรีดไถ ภรรยา วันนี้ทะเลาะกันก็เอามีดจะจ้วงแทงทำร้าย พวกเรา เห็นอยุ่กับตาได้ยินกับหู ว่า สามี ตะโกน บอกว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องของผัวเมียใครอย่ามาแส่ ใครแส่มายุ่งจะมีเรื่อง" ถามว่า เราควรนิ่งเฉย ปล่อยให้ สามี จ้วงแทง ภรรยาให้ตาย หรือ ควรห้ามปราม(ถ้าทำได้) หรือ โทรแจ้งตำรวจ ถ้าเรานิ่งเฉยทำตามที่สามีกล่าว เท่ากับ ว่าเราทำร้ายทั้ง สอง คนคือ ภรรยา ตาย สามีติดคุก อันนี้ไม่รวมลูกที่ ต้องเกิดความสับสนที่ พ่อฆ่าแม่ พ่ออยุ่ในคุกและลูกต้องลำบาก
ผมว่าท่านนั้นแหละครับที่มั่วไปเรื่อย ท่านเปรียบเรื่องนี้เหมือนผัวเมียทะเลาะท่านก็บ้าแล้วครับ พระผู้ใหญ่ท่านทรงสมณะศักดิ์มีความรู้ทางธรรมะเป็นอย่างดีเป็นที่ประจักษ์ท่านจะโต้เถียงกันบ้างเราก็คอยฟัง จะจำกัดอยู่ในการเสวนาของมหาบัณฑิต ผิด-ถูกก็ว่ากันไป ท่านไม่ได้ไปหารายชื่ออนุสัมบันสามแสนชื่อเหมือนพระบางรูป

ตื่นเถิดชาวพุทธ

อ้างจาก: คนเมืองสง เมื่อ 21:36 น.  12 ม.ค 59
ผมว่าท่านนั้นแหละครับที่มั่วไปเรื่อย ท่านเปรียบเรื่องนี้เหมือนผัวเมียทะเลาะท่านก็บ้าแล้วครับ พระผู้ใหญ่ท่านทรงสมณะศักดิ์มีความรู้ทางธรรมะเป็นอย่างดีเป็นที่ประจักษ์ท่านจะโต้เถียงกันบ้างเราก็คอยฟัง จะจำกัดอยู่ในการเสวนาของมหาบัณฑิต ผิด-ถูกก็ว่ากันไป ท่านไม่ได้ไปหารายชื่ออนุสัมบันสามแสนชื่อเหมือนพระบางรูป
อยากให้ คนเมืองสง อธิบายและยกตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ คนเมืองสง คิดว่า น่าจะอธิบายให้กับคนอ่านเข้าใจว่าคนเมืองสงต้องการบอกอะไร ไม่ใช่ จะแตะพระก็บาป ถ้าจับเงินใส่ย่ามก็บุญ ผมว่ามันไร้สาระ จะพาลผิดทางไป นิพพานเอานะ จะอยู่ฝ่ายไหน จะยืนดู อะไรก็ต้อง มีเหตุผล ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้เป็น หมา เห่า หอน และ ขู่ (เหมือนลัทธิธรรมกาย) แต่ สอนให้เป็น คน พูดจามีเหตุผล รักษาผลประโยชน์ของ สัตว์โลก สูงที่สุดไม่ใช่ผลประโยชน์ของ พระผู้ใหญ่ที่ทรงสมณะศักดิ์ พระพุทธเจ้าไม่เคย บอกว่าให้ตั้ง สมณะศักดิ์ เราๆ มัน สมมุติกันขึ้นมาเอง มันก็ อนิจจัง  ถ้าให้ผมเปรียบเทียบ ผม จะเปรียบ ไม่ใช่แค่ผัวเมียทะเลาะกัน ผมจะเปรียบ พระปลอมบวชที่เต็มไปด้วย ราคะโมหะโทสะ เหมือน หมา อยากได้ เศษ กระดูก คือ สมณะศักดิ์ มันไร้ค่า สำหรับ ชาวพุทธแท้ คำสอนที่ดี คือ ธรรม ของตถาคต ของแท้ไม่บิดเบือน ต่างหาก ที่เราต้องการ เราชาวพุทธแท้ ไม่เหมือน พระผู้ปลอมบวช ที่ให้ความสำคัญกับ สมณะศักดิ์   
[/b]

อีก อย่างองค์ประกอบของสังฆเภทมีดังต่อไปนี้

๑. กมฺเมน กล่าวยุยงให้พระภิกษุสงฆ์ที่หลงเชื่อคำของตนแยกทำสังฆกรรมเป็นพวกๆ ต่างหาก
๒. อุทฺเทเสน กล่าวยุยงให้พระภิกษุสงฆ์ที่หลงเชื่อคำตน แยกสวดปาติโมกข์
๓. โวหรนฺโต กล่าวถ้อยคำทำให้แตกแยก ๑๘ ประการคือ
๓.๑ กล่าวสิ่งที่ไม่เป็นธรรม ว่าเป็นธรรม
๓.๒ กล่าวสิ่งที่เป็นธรรม ว่าไม่เป็นธรรม
๓.๓ กล่าวสิ่งที่ไม่เป็นวินัย ว่าเป็นวินัย
๓.๔ กล่าวสิ่งที่เป็นวินัย ว่าไม่เป็นวินัย
๓.๕ กล่าวสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่าไม่ได้ตรัสไว้
๓.๖ กล่าวสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ตรัสไว้ ว่าตรัสไว้
๓.๗ กล่าวสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเคยกระทำ ว่าไม่เคยกระทำ
๓.๘ กล่าวสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงไม่เคยกระทำ ว่าเคยกระทำ
๓.๙ กล่าวสิกขาบทที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ว่าไม่ทรงปัญญัติไว้
๓.๑๐ กล่าวสิกขาบทที่พระพุทธเจ้าทรงไม่บัญญัติไว้ ว่าทรงปัญญัติไว้
๓.๑๑ กล่าววัตถุที่เป็นอาบัติ ว่าไม่เป็นอาบัติ
๓.๑๒ กล่าววัตถุที่ไม่เป็นอาบัติ ว่าเป็นอาบัติ
๓.๑๓ กล่าวอาบัติที่เบา ว่าเป็นอาบัติหนัก
๓.๑๔ กล่าวอาบัติที่หนัก ว่าเป็นอาบัติเบา
๓.๑๕ กล่าวอาบัติที่พอจะแก้ไขได้ ว่าแก้ไขไม่ได้
๓.๑๖ กล่าวอาบัติที่แก้ไขไม่ได้ ว่าแก้ไขได้
๓.๑๗ กล่าวอาบัติชั่วหยาบ ว่าไม่ชั่วหยาบ
๓.๑๘ กล่าวอาบัติไม่ชั่วหยาบ ว่าชั่วหยาบ

คนเมืองสงเข้าใจผิดมากๆแล้ว  แสดงว่าไม่เคยศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องการทำสังฆเภทมาเลย  จึงตีความผิดๆแบบนั้น ...ควรไปศึกษาให้ดีๆก่อน แล้วจะเข้าใจ  หรือถ้าอยากจะ โต้ตอบมา ก็ช่วยอธิบายว่า พุทธอิสระ ผิดสังฆเภทข้อไหน อลัชชี ธรรมชโย  ผิดสังฆเภทข้อไหน  ช่วง ผิดสังฆเภทข้อไหน  ใคร คือ ผู้ทำ สังฆเภท กันแน่ แล้วใครต้องตกนรกเพราะกระทำ อนันตริยกรรมอย่างที่ คนเมืองสง กล่าวอ้าง เป็นหัวข้อ จบนะ

คนเมืองสง

อ้างจาก: ตื่นเถิดชาวพุทธ เมื่อ 14:49 น.  13 ม.ค 59
อยากให้ คนเมืองสง อธิบายและยกตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ คนเมืองสง คิดว่า น่าจะอธิบายให้กับคนอ่านเข้าใจว่าคนเมืองสงต้องการบอกอะไร ไม่ใช่ จะแตะพระก็บาป ถ้าจับเงินใส่ย่ามก็บุญ ผมว่ามันไร้สาระ จะพาลผิดทางไป นิพพานเอานะ จะอยู่ฝ่ายไหน จะยืนดู อะไรก็ต้อง มีเหตุผล ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้เป็น หมา เห่า หอน และ ขู่ (เหมือนลัทธิธรรมกาย) แต่ สอนให้เป็น คน พูดจามีเหตุผล รักษาผลประโยชน์ของ สัตว์โลก สูงที่สุดไม่ใช่ผลประโยชน์ของ พระผู้ใหญ่ที่ทรงสมณะศักดิ์ พระพุทธเจ้าไม่เคย บอกว่าให้ตั้ง สมณะศักดิ์ เราๆ มัน สมมุติกันขึ้นมาเอง มันก็ อนิจจัง  ถ้าให้ผมเปรียบเทียบ ผม จะเปรียบ ไม่ใช่แค่ผัวเมียทะเลาะกัน ผมจะเปรียบ พระปลอมบวชที่เต็มไปด้วย ราคะโมหะโทสะ เหมือน หมา อยากได้ เศษ กระดูก คือ สมณะศักดิ์ มันไร้ค่า สำหรับ ชาวพุทธแท้ คำสอนที่ดี คือ ธรรม ของตถาคต ของแท้ไม่บิดเบือน ต่างหาก ที่เราต้องการ เราชาวพุทธแท้ ไม่เหมือน พระผู้ปลอมบวช ที่ให้ความสำคัญกับ สมณะศักดิ์   
พุทธอิสระ ผิดสังฆเภทข้อไหน อลัชชี ธรรมชโย  ผิดสังฆเภทข้อไหน  ช่วง ผิดสังฆเภทข้อไหน  ใคร คือ ผู้ทำ สังฆเภท กันแน่ แล้วใครต้องตกนรกเพราะกระทำ อนันตริยกรรมอย่างที่ คนเมืองสง กล่าวอ้าง เป็นหัวข้อ จบนะ
ท่านหยาบคายเกินไปจริงๆ เกินกว่าที่จะสนทนาธรรมกันได้ การเรียกจิกชื่อพระผู้ใหญ่ที่ท่านกระทำ กระผมรับไม่ได้ครับ
ท่านกล่าวหาพระสงฆ์ผู้ทรงสมณะศักดิ์เป็นพระปลอมอย่างเลื่อนลอย
กระผมมีความเห็นว่าพระควรใช้พระด้วยกันในการแก้ไขจ้อขัดแย้ง มิใช่ไปดึงมวลชนมาเท่านั้นเท่านี้สองสามแสนรายชื่อ เพราะประเดี๋ยวอีกฝ่ายเขาก็ทำมั้งซึ่งเขาก็สามารถทำได้ จะยิ่งแตกแยกกันไปใหญ่
การที่อีกฝ่ายเขาเงียบอยู่มิได้ตอบโต้เราต้องชมเขานะครับ

Mr.No



  ผมว่า ท่านคนเมืองสง แกก็ตลกดี..เขียนตามแบบที่แกเข้าใจ ...อา่นแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ  ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

พุทธวจน

สรุปให้เลยก็แล้วกัน ตามนั้นนะ ท่านทั้งหลาย  ส.สู้ๆ