ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พระมหาว่านดำ

เริ่มโดย มิสเตอร์ มหาเทพ, 20:09 น. 10 พ.ค 59

มิสเตอร์ มหาเทพ

พระมหาว่านดำ เขาอ้อ
" พระยอดประสบการณ์พิธียิ่งใหญ่ที่สุดของภาคใต้"
พระมหาว่านเป็นชื่อของพระเครื่องที่อ.เอียดอดีตเจ้าอาวาสวัดดอนศาลา เป็นผู้สร้างขึ้นที่วัดเขาอ้อ เมื่อ พ.ศ.2483 เพื่อแจกจ่ายให้แก่ทหารอาสาสมัครไปรบสงครามอินโดจีนเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของสายเขาอ้อ และเป็นรูปแบบพิธีกรรมที่ลูกศิษย์เขาอ้อ คนอื่น ๆ ยึดถือและเป็นแบบแผน ตลอดมา พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด) ได้ทำพิธีปลุกเสกโดยนำพระมหาว่าน ทั้งหมดขึ้นไปทำพิธีบนเขาอ้อ
ปลูกปะรำพิธีขึ้นบนเขาที่เรียกว่า "บนบาท" หรือบริเวณซากมณฑปพระพุทธบาทร้าง รอบเชิงเขาอ้อในบริเวณวัดสร้างปะรำพิธี นิมนต์พระอาจารย์ที่มีความชำนาญทางไสยศาสตร์ทั่วจังหวัดพัทลุง นั่งปลุกเสกโดยใช้สายสิญจน์โยงจากปะรำพิธีบนยอดเขามายังเชิงเขา ในตอนเช้าของทุกวันจะมีการสวดชัยมงคลของพระภิกษุ ณ เชิงเขา และมีเทศนา 1 กัณฑ์ พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด) ได้ทำพิธีปลุกเสกบนยอดเขาเป็นเวลา 15 วัน 15 คืน ในระหว่างที่ทำพิธีปลุกเสกอยู่นี้ ห้ามทุกคนขึ้นไปบนยอดเขา อนุญาติให้ขึ้นได้เพียง 2 ท่าน คือ พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ (ขณะนั้นเป็นฆราวาส) กับ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชเมื่อปลุกเสกครบ 15 วันแล้ว พระครูสิทธิยาภิรัต (เอียด) ได้นำพระเครื่องทั้งหมดเข้าไปปลุกเสกภายในถ้ำฉัททันต์ ณ เชิงเขาอ้ออีก 7 วัน 7 คืนเมื่อครบกำหนดแล้วได้นำพระกลับไปยังวัดดอนศาลา นำเข้าไปปลุกเสกภายในอุโบสถอีก 7 วัน 7 คืน จึงนำออกแจกจ่ายให้แก่ทหารอาสาสมัครไปรบสงครามอินโดจีนภาคอภินิหาร พระมหาว่านดำ-ขาว สายเขาอ้อ ที่สุดต้องมหาว่าน ซึ่งตอนสร้างมีอภินิหารหลายประการ ทั้งอ.รูจี อ.พรหมทอง อ.ชัยทอง อ.ทองในถ้ำ อ.ทองหน้าถ้ำ ท่านสมภารทอง อ.ทองหูยาน คือสมภารเขาอ้อองค์ใดก็ตามที่เป็นกายทิพย์ยังไม่ได้ไปจุตติท่านได้มาในพิธีทั้งหมดทุกองค์ขุนพันธ์ฯได้มีการบันทึกไว้ ว่ามีตำรวจที่มาเผ้าในพิธีปวดท้องเบา ไปฉี่ตอนกลางคืน ท่านอ.รูจีมาเข้าทรง ตำรวจท่านนั้น ท่านได้วิ่งขึ้นเต้น ผับผับ!!! ขึ้นไปบนปะรัมพิธี และขอผ้าขาวมานุ่ง พาดเป็นสังฆา หรือผ้าพาดแล้วบอกว่าตนเองคืออ.รูจี มาเข้าทรงมาเสกท่านอ.ทองก็ดี มาบอกว่าให้ไปเอามวลสารต่าง ๆบนเขาได้ที่ไหน โดยที่จะขึ้นไปเอามวลสารได้ก็คือ อ.นำและขุนพันธ์เท่านั้น มวลสารชนิดนี้เป็น"ต้นไม้พิสดาร" คล้ายว่าเป็นต้นไม้เมืองลับแล ไม้นี้รูปร่างประหลาด คือรูปร่างคล้ายขนหางม้าแต่ปลายพู่เป็นดอกหญ้าภายหลังขุนพันธ์ฯขึ้นไปหาไม้ชนิดนี้ก็หาไม่เจอ ระหว่างที่ขุนพันธ์ฯกับอ.นำขึ้นไปหามวลสารบนเขานั้น คนที่อยู่ข้างล่างเห็นมีแสงไฟนำหน้า เหมือนมีตะเกียงนำหน้าไป แต่จริงๆไม่มีตะเกียงขึ้นไปเพราะท่านสั่งให้ขึ้นไปเดี๋ยวนั้นเลย มีแต่ไฟฉายติดตัวขึ้นไปและฝนก็ตกด้วย เป็นพิธีใหญ่ที่รวมปรมาจารย์ทั้งในอดีตและปรมาจารย์ในปัจจุบันคือครูบาอาจารย์ในสายเขาอ้อทั้งหมดทั้งสิ้น ถ้าองค์ไหนมาไม่ได้ก็จะมองหมายให้พระองค์อื่นมาหรือนำมวลสารมาร่วม เป็นพระรุ่นที่ตั้งใจเสกทั้งมวลสารและเจตนา เพื่อสืบทอดพระศาสนาพระศาสนาและสมัยนั้นบ้านเมืองมีสงคราม สนใจติดต่อ 080-4849793