ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สถาบันสิ่งทอ ลุยเจาะตลาดแฟชั่น อาเซียน+3 ส่ง Lawa@THTIอวดโฉมที่ฮ่องกง

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 16:45 น. 11 ก.ค 59

ทีมงานประชาสัมพันธ์

สถาบันสิ่งทอ ลุยเจาะตลาดแฟชั่น อาเซียน +3  ส่ง Lawa@THTI คอลเลคชั่นล่าสุด อวดโฉมบนเวที Hong Kong Fashion Week

สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมพัฒนาสิ่งทอสานต่อผลสำเร็จโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่ระยะที่ 4  รุกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสิ่งทอ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบภายใต้แบรนด์ Lawa@THTI คอลเลคชั่นใหม่ อวดศักยภาพในงานฮ่องกงแฟชั่นวีค


[attach=1]

ฮ่องกง 4 กรกฎาคม 2559 –  สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอสานต่อผลสำเร็จ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ระยะที่ 4  โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รุกขยายผลแนวคิด Co-Design ดึง 3 นักออกแบบระดับแนวหน้าจาก ไทย-มาเลเซีย ร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แบรนด์ LAWA@THTI คอลเลคชั่นใหม่  พร้อมส่งขึ้นเวที Hong Kong Fashion Week for Spring/Summer ซึ่งจัดโดยองค์กรสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council, HKTDC) ณ Hong Kong Convention and Exhibition Center หวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน และ อาเซียน +3

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หากมองถึงโอกาสของผู้ประกอบการภายหลังผลิตผลิตภัณฑ์แล้วเสร็จ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือช่องทางการตลาด โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สถาบันฯได้นำผู้ประกอบการร่วมออกแสดงและจำหน่ายสินค้าในงาน Thailand Week  ณ ประเทศสิงคโปร์  และ อินโดนีเซีย จนประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อในระดับนานาชาติเป็นอยางดี โดยในปี 2559 นี้ ทางสถาบันฯ เตรียมยกระดับการขยายตลาดจาก กลุ่มอาเซียน เป็น อาเซียน +3 ผ่านเวทีงานแฟร์ "Hong Kong Fashion Week" ซึ่งจัดเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่มีผู้เข้าร่วมงานมาจากหลายประเทศทั่วโลก นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางของผู้ประกอบการสิ่งทอภาคใต้ที่จะนำเอาผลิตภัณฑ์ออกเผยแพร่สู่สายตานานาชาติ เพื่อสร้างการรับรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นเวทีที่ผู้ประกอบการจะได้พบปะกับผู้ซื้อ เกิดการเจรจาธุรกิจระหว่างกัน ถือเป็นการยกระดับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สู่ระดับนานาชาติมากขึ้น ทั้งนี้ทางสถาบันฯยังเล็งเห็นด้วยว่าการเข้าร่วมงาน Hong Kong Fashion Week จะสามารถต่อยอดให้เกิดความต่อเนื่องในการหาช่องทางการตลาดใหม่ๆให้กับผู้ประกอบการสิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี

[attach=2]
นางสุทธินีย์ พู่ผกา

โดยในปี 2559 ทางสถาบันฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับผู้ประกอบการสิ่งทอในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งยกระดับการพัฒนาแฟชั่นมุสลิมภายใต้แนวคิด "Co-Design" หลอมรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยดึง 3 นักออกแบบชื่อดังจากไทยและในภูมิภาคอาเซียน คือ 1) นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข นักออกแบบไทยระดับแนวหน้าของประเทศ ที่ชนะเลิศรางวัลยอดเยี่ยมจากเวทีประกวดแฟชั่นระดับโลก MANGO Fashion Awards ณ ประเทศสเปน ปี 2012 และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ  2) คุณศักดิ์จิระ เวียงเก่า นักออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และงานผ้าสำหรับของตกแต่งบ้าน ที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นและมีสไตล์เฉพาะตัว ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการสิ่งทอไทยที่ประสบความสำเร็จด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านงานแสดงสินค้าต่างๆ จนผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และสุดท้ายกับนักออกแบบจากประเทศมาเลเซีย  Mr.Eric Choong หนึ่งในสิบสุดยอดนักออกแบบชื่อดังจากประเทศมาเลเซีย มีจุดเด่นด้านการดีไซน์เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยสีสัน ลูกเล่น ผสมผสานอย่างลงตัวกับการตัดเย็บที่ยังคงใช้เทคนิคแบบดั้งเดิม ซึ่งทั้ง 3 นักออกแบบได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานในแบรนด์ LAWA@THTI  ร่วมกับผู้ประกอบการ จำนวน  3 คอลเลคชั่น 30 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบภายใต้ แบรนด์ LAWA@THTI  ในปี 2559 นี้ มีจำนวน 3 คอลเลคชั่น คือ

คอลเลคชั่น ที่ 1 Indigo Paisley ออกแบบโดย คุณศักดิ์จิระ เวียงเก่า
ลาย Paisley หรือลายลูกน้ำถือกำเนิดจากประเทศอินเดียโบราณ โดยได้แนวคิดจากรูปทรงของผลมะม่วง ซึ่งหมายถึงการเจริญเติบโต งอกงาม หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาคลี่คลาย ลวดลายสู่สากลอย่างแพร่หลาย มีการผสมผสานลายอื่นๆเข้าไป เกิดเป็นลายแปลกใหม่และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตราบเท่าทุกวันนี้ จากแนวคิดดังกล่าว จึงได้นำเอาลายลูกน้ำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบของคอลเลคชั่นนี้ โดยผสมผสานเทคนิคการทำลวดลายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บาติก พิมพ์บล็อกเทียน เพ้นท์มือ เข้าด้วยกัน โดยโครงสีส่วนใหญ่ จะใช้สีน้ำเงินกรมท่า-ขาว ซึ่งเป็นสีสุภาพใช้ได้ทุกโอกาส โครงเสื้อยังคงเป็นมุสลิมร่วมสมัย สามารถดัดแปลงให้คนทั่วไปสวมใส่ได้ mix & matchกับเสื้อผ้าลำลองได้อย่างลงตัว สวยงาม

คอลเลคชั่นที่ 2  "HEAVEN and EARTH" ออกแบบโดย Mr.Eric Choong

การนำจิตวิญญาณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลงานด้วยการค้นหาแรงบันดานใจจากสภาพแวดล้อมรอบตัว เช่นความสวยงามของท้องฟ้าในแต่ละช่วงเวลา หรือจะเป็นการเติบโตของต้นไม้บนพื้นดิน รวมไปถึงการเรียนรู้พฤติกรรมของผู้คน ตั้งแต่รูปแบบการสวมใส่ไปจนถึงวิธีการซักทำความสะอาดเสื้อผ้า นำมาหลอมรวมสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานคอลแลคชั่นใหม่ ภายใต้แนวคิด "HEAVEN and EARTH"

สำหรับคอลเลคชั่นนี้สื่อสะท้อนให้รับรู้ถึงอารมณ์อิสระระหว่างการท่องเที่ยว โดยนำประสบการณ์และแรงบันดาลใจของดีไซน์เนอร์ขณะเดินทางค้นหาแรงบันดาลใจในภูมิภาคเอเชีย ผสมผสานเข้ากับจุดเด่นของผ้าบาติกในประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไทย, อินโดนีเซีย, อินเดีย, กัมพูชา และเวียดนาม  ที่สำคัญคอลเลคชั่นนี้ยังหยิบยกองค์ประกอบอันสวยงามจากที่ต่างๆ  ทั้งต้นไม้, สายน้ำ หรือแม้แต่ใบไม้ นำมาถ่ายทอดแนวคิดด้วยการออกแบบจนออกมาเป็นลายเส้นและการพิมพ์

คอลเลคชั่นที่ 3  REFLECTION OF THE SEA  ออกแบบโดย  นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข
ภาพของคลื่นซัดหาดทรายและแสงตกกระทบของพระอาทิตย์ก่อนลับขอบฟ้า  เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของ WISHARAWISH จากสีสันของทะเลยามเย็นแต่งแต้มความงดงามของธรรมชาติ ผ่านความคิดและกระบวนการออกแบบเสื้อผ้าสไตล์  Resort โดยร่วมกับการใช้เทคนิคการทำบาติกของผู้ประกอบการในภาคใต้ สร้างผลงานที่พัฒนาจากแรงบันดาลใจของลายคลื่นน้ำทะเล วาดเป็นลวดลายลงบนผืนผ้าและการทดลองเทคนิคการมัดย้อม จากสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชายทะเลยามเย็น สีน้ำเงิน ฟ้าคราม ม่วง ชมพู ส้ม และเหลือง  เพิ่มเทคนิคการปักเลื่อมใส่ทับลงบนลายผ้า เพื่อเกิดการสะท้อนของแสงตกกระทบที่คลี่คลายมาจากฟองคลื่น เกิดเป็นผลงานที่พัฒนาร่วมกันของนักออกแบบและผู้ประกอบการเพื่อการสร้างสรรค์และต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าทางหัตถกรรม

"สถาบันสิ่งทอฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จากความได้เปรียบในด้านคุณภาพ และฝีมือการตัดเย็บของผู้ประกอบการ เมื่อผสมผสานกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม การวิจัย/พัฒนา และการพัฒนาตัวสินค้าให้มีความหลากหลายตามมาตรฐาน สากล จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับนานาชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การเสริมสร้างศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างไม่ยาก" นางสุทธินีย์ กล่าวทิ้งท้าย



สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ที่สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 พระโขนง คลองเตย กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 400 หรือเข้าไปที่ www.muslim-thti.org, www.thaitextile.org/muslim