ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เครือข่ายหลักประกันประชาชนภาคใต้ยันไม่ร่วมจ่าย ณ.จุดบริการ

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 10:18 น. 07 ก.ย 59

ทีมงานประชาสัมพันธ์

เครือข่ายหลักประกันประชาชนภาคใต้ยันไม่ร่วมจ่ายณ.จุดบริการ ... เลขาฯสปสช.ใหม่ต้องไม่ถูกครอบงำ

เครือข่ายหลักประกันสุขภาพและศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนภาคใต้ ๗ จังหวัดแถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยร่วมจ่ายณ.จุดบริการ เสนอให้มีการปฏิรูปสปสช.โดยทุกภาคส่วนร่วมให้ความเห็น พร้อมแสดงความกังวลว่าเลขาธิการสปสช.คนใหม่จะไม่อิสระ กระทบกับกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เป็นจุดเด่นในการบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพมายาวนานกว่า ๑๕ ปี

ทั้งนี้ก่อนและหลังการรับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 ส.ค.๒๕๕๙ ที่ผ่านมา มีความอึมครึมต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือระบบบัตรทอง ได้แก่ประเด็นกระแสข่าวเหมือนโยนหินถามทางเป็นระยะจากคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการสาธารณสุขว่ากำลังพิจารณาประเด็นร่วมจ่ายถึง 30% และประเด็นความขัดแย้งในการเลือกเลขาธิการสปสช.ที่เป็นชนวนให้นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไปยื่นฟ้องคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กรณีมีมติเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2559 ไม่รับรอง นพ.ประทีป เป็นเลขาธิการ สปสช. โดยขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกมติบอร์ด สปสช.ดังกล่าว

โดยวันที่ ๕ ก.ย. ๒๕๕๙ เครือข่ายหลักประกันสุขภาพประชาชนภาคใต้ เครือข่ายศูนย์ประสานงานภาคประชาชน ๗ จังหวัดใต้ล่าง จึงได้ร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังรัฐธรรมนูญใหม่และการปฏิรูประบบหลักประกันสุขภาพ
ซึ่งนายพิทักษ์ บำรุงชาติ เครือข่ายคนพิการ กล่าวด้วยความกังวลว่าอาจเกิดการแบ่งแยกประชาชนทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพกลายเป็นระบบสงเคราะห์ โดยมีคำว่าผู้ยากไร้ในมาตรา ๔๗ ในรัฐธรรมนูญใหม่ รวมถึงการร่วมจ่ายที่อาจสูงถึง ๓๐%จะทำให้กลับสู่ภาวะครอบครัวล้มละลายได้เช่นเดียวกับตัวแทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อ นางสาวดารุณี เป็นห่วงว่าระบบหลักประกันสุขภาพที่ทุกภาคส่วนร่วมเป็นเจ้าของ จะลดคุณค่าการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขที่เป็นหลักคิดสำคัญ
สอดคล้องกับผู้ประสานงานกลไกศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพ นางกัลยทรรศน์ติ้งหวัง ที่เป็นห่วงว่าการร่วมจ่ายณ.จุดบริการจะทำให้มาตรฐานของการรักษาในรพ.รัฐถูกเปรียบเทียบกับรพ.เอกชน เพราะคนชั้นกลางกลุ่มหนึ่งพร้อมจะจ่ายในการรับบริการที่ดีกว่า นั่นจะยิ่งซ้ำเติมระบบสุขภาพโดยรวมเพราะอาจเกิดสมองไหลไปรพ.เอกชนได้ง่ายขึ้น

โดยนางกัลยา เอี่ยวสกุล ผู้ประสานงานจังหวัดปัตตานีให้ความเห็นว่า ภาคประชาชนก็มีความกังวลต่อคำว่ารพ.รัฐขาดทุน และได้เสนอทางออกมาตลอด ทั้งประเด็นการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น ภาษีกิจกรรมธุรกิจอุตสาหกรรมที่ทำร้ายสุขภาพ โดยหากมีการควบรวมองค์กรท้องถิ่นและการกระจายอำนาจให้มีการบริหารจัดการกองทุนสุขภาพในพื้นที่ร่วมกับหน่วยบริการ ก็จะเป็นแนวทางปฏิรูประบบสุขภาพให้ตรงปัญหาพื้นที่มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะปัญหาใน ๓จังหวัดชายแดนใต้
ซึ่งนางสาวจุฑา สังขชาติ ผู้ประสานเครือข่ายหลักประกันสุขภาพประชาชนภาคใต้ ได้ย้ำประเด็นที่ระบบหลักประกันสุขภาพได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก รวมถึงนานาประเทศอย่างกว้างขวางเป็นเวลากว่า ๑๕ ปี ก็อาจต้องทบทวนประเมินว่าควรปรับปรุงอย่างไร และไม่ควรเป็นการแก้ไขจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะ สปท.ที่เร่งรัดแนวทางการร่วมจ่ายตลอดมา จึงเสนอให้มีการรับฟังและระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วนต่อการปฏิรูปองค์กร สปสช.อย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ที่ปรึกษาเครือข่ายฯ นางชโลม เกตุจินดา ได้เสนอแนวทางการเคลื่อนต่อของเครือข่ายฯที่จะประสานกับกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ เครือข่ายหลักประกันสุขภาพทุกภูมิภาค ชมรมแพทย์ชนบท ให้ร่วมกันแสดงออกถึงจุดยืนร่วมกันในการไม่ร่วมจ่ายณ.จุดบริการ แต่พร้อมร่วมจ่ายก่อนรับบริการผ่านระบบภาษี รวมถึงข้อห่วงใยความอิสระของเลขาธิการสปสช.คนใหม่ที่จะต้องทำหน้าที่จัดซื้อบริการสุขภาพ ให้ได้มาตรฐาน สร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำมิใช่ทำให้สปสช.กลายเป็นสาธารณสุขที่เป็นหน่วยบริการ

   ช่วงท้ายเครือข่ายหลักประกันสุขภาพประชาชนภาคใต้ ได้ร่วมกันแสดงพลังเพื่อยืนยันว่าจะติดตามและเกาะติด การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบบหลักประกันสุขภาพ รวมถึงการปฏิบัติงานของเลขาธิการสปสช.คนใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ระบบหลักประกันสุขภาพเป็นนโยบายรัฐที่จัดเป็นสวัสดิการให้ประชาชนอย่างทั่วถึงและมั่นคง ไม่ซ้ำเติมให้กลายเป็นคนยากไร้ล้มละลาย