ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สถาบันสอนธุรกิจออนไลน์ เปิดรับรุ่นแรกเรียนฟรี จำนวนจำกัด (ไม่ใช่บริษัทขายตรง)

เริ่มโดย ann.idolgroup, 20:21 น. 11 ก.ย 59

ann.idolgroup

วันนี้เราเปิดรับรุ่นแรกฟรี ด่วนจำนวนจำกัด เพราะปกติคอร์สออนไลน์ จะมีค่าเรียนอยู่ที่ประมาณ 3000-5000 บาท
แต่วันนี้เราเปิดสอนฟรีเฉพาะรุ่นแรก

ข้อดีของธุรกิจออนไลน์
1.สร้างเครื่องมือด้วยธุรกิจออนไลน์
2.ไม่ต้องลงทุนสต๊อกสินค้า
3.มีระบบทำการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า

สนใจติดต่อจองคิวเข้าเรียนได้ที่ 095-036-0969


ann.idolgroup

การตลาดออนไลน์ดีกว่าการตลาดแบบเก่าอย่างไร

การตลาดแบบเก่าที่ไม่ใช้อินเตอร์เน็ท (Offline Marketing) ก็เป็นการตลาดที่ถือว่าเยี่ยม แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่มุ่งสู่ความสำเร็จในวันนี้มันจำเป็นต้องเข้าถึงการตลาดแบบใหม่ที่เรียกว่าการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) นั่นคือกระบวนการโปรโมทธุรกิจบนโลกอินเตอร์เน็ท ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์ของการตลาดที่ใช้อีเมล์ (Email Marketing) การออกแบบเว็บไซต์ (Website Design) สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) การตลาดที่ใช้วีดีโอ (Video Marketing) และการตลาดที่ใช้ระบบการค้นหาบนอินเตอร์เน็ท (Search Engine Optimization)

กลยุทธ์ของการทำตลาดออนไลน์มีผลต่อการบรรลุผลสำเร็จของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจขนาดเล็กก็ตาม แล้วการตลาดออนไลน์ที่ว่านี้มันทรงพลังได้อย่างไร

กลุ่มลูกค้าของคุณคือผู้ที่ใช้อินเตอร์เน็ท

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม คนที่เป็นลูกค้าของคุณมักจะใช้อินเตอร์เน็ท เขาเหล่านั้นก็จะมองหาผู้ให้บริการบนอินเตอร์เน็ท ซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ท และมองหาเว็บไซต์ธุรกิจเหล่านี้บนอินเตอร์เน็ท ดังนั้นถ้าคุณไม่แสดงตัวตนบนออนไลน์และไม่ได้ทำการตลาดแบบออนไลน์ใดๆเลย นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังพลาดโอกาสการติดต่อกับลูกค้าของคุณ

เครื่องคอมพิวเตอร์คุณคือเครื่องเล่นอินเตอร์เน็ท

ถ้าคู่แข่งทางการค้าของคุณกำลังใช้การตลาดออนไลน์และคุณไม่ได้ใช้ นั้นแสดงว่าคุ่แข่งคุณอยู่เหนือกว่าธุรกิจของคุณ หากคุณต้องการที่จะแข่งกับคู่ต่อสู้เหล่านั้น คุณต้องแสดงให้ผู้ชม (Audience) ได้มารู้จักกับคุณว่าคุณเป็นใครและทำไมสินค้าหรือบริการของคุณจึงเจ๋งกว่าคู่แข่งของคุณ ซึ่งคุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำการตลาดออนไลน์บนอินเตอร์เน็ท

คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งโชคชะตา

การทำการตลาดแบบเก่า (Offline Marketing) มีต้นทุนสูงและใช้เวลามาก ส่วนการตลาดแบบออนไลน์ (Online Marketing) มีต้นทุนที่แพงน้อยกว่าแต่ใช้เวลาติดตั้งได้เร็วกว่า เพราะคุณสามารถโปรโมทธุรกิจคุณผ่านทางสื่อสังคม (Social Media) ด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงตามธุรกิจของคุณ คุณสามารถส่งผ่านข้อมูลทางธุรกิจคุณผ่านทางอีเมล์ได้ตามต้องการที่สำคัญมันฟรีด้วย และคุณก็ยังสามารถกำหนดความต้องการของลูกค้าด้วยระบบการค้นหาผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ทที่เรียกว่า Search Engine (ปกตินักท่องเว็บฯจะค้นหาแหล่งข้อมูลทาง Google Search โดยการพิมพ์คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหา)

การประเมินผลและตรวจสอบง่ายกว่า

การตลาดแบบออนไลน์สามารถเข้าไปสืบหาผลวิเคราะห์ต่างๆได้ในขณะที่การทำแบบออฟไลน์นั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย คุณสามารถสร้างหน้าเว็บฯเพจต่างหากขึ้นมาเพื่อเพิ่มการขับเคลื่อน (Traffic) เพื่อให้นักท่องเว็บฯได้รู้หรือได้เห็นคุณไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ หรือทำอะไร คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนหรือทดสอบลูกเล่นต่างๆได้โดยไม่เพิ่มค่าใช้จ่ายใดๆเลย

มีกลยุทธ์ให้เล่นอย่างมากมาย

ธุรกิจที่ต่างกันและธุรกิจที่เฉพาะกลุ่มก็จะใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นการทำ Content Marketing (คือ เทคนิคด้านการตลาด ในการสร้างและแจกจ่าย Content ที่มี "คุณค่า" กับกลุ่มเป้าหมาย โดยมีจุดประสงค์ให้กลุ่มเป้าหมายกลับมาสร้างรายได้ให้เรา) ปกติการทำ Content Marketing จะไม่ค่อยมีต้นทุนทางการเงินมากนักแต่จะใช้เวลาค่อนข้างมากกว่า ในทางตรงกันข้ามกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ดูจะเหมือนกันกับการทำโฆษณาแบบ Pay Per Click ซึ่งจะเกิดค่าใช้จ่ายได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ชมได้เข้ามาชมเว็บฯเท่านั้น และผลลัพท์ที่ได้จะเกิดขึ้นโดยทันที

มันไม่ได้เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น

ธุรกิจขนาดเล็กที่ทำตลาดแบบออฟไลน์ (Offline Business) มักจะประสบปัญหาในการแข่งขันทางการค้ากับบริษัทที่มีธุรกิจใหญ่กว่าในการทำสื่อแบบออฟไลน์ อย่างไรก็ตามลูกค้าที่เป็นผู้มุ่งหวังสามารถมองดูเว็บไซต์ได้ครั้งละหนึ่งเว็บไซต์เท่านั้น และถ้าคุณมีแผนกลยุทธ์การทำออนไลน์ที่ดีอย่างเหมาะสม นั่นจะทำให้เว็บฯของคุณกลายเป็นหน้าตาของธุรกิจของคุณเลยทีเดียว

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่เกี่ยวกับการตลาดส่วนมากนั้นจะเป็นการตลาดแบบออนไลน์ (Online Marketing) มีคำกล่าวว่าการตลาดที่ยิ่งใหญ่โดยเฉลี่ยแล้วสามารถขายสินค้าได้ แต่การตลาดที่อ่อนแอไม่สามารถขายสินค้าที่ยิ่งใหญ่ได้เลย หากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างธุรกิจ

ann.idolgroup


จริงไหมครับเมื่อไรก็ตามที่ผู้คนเริ่มรู้สึกเพิกเฉยแล้วออกจากหน้าเว็บไซต์ของคุณอย่างรวดเร็วหลังจากที่พวกเขาชำเลืองดูมันอย่างหมดความหวัง มันดูเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังกีดขวางจากการหมายหมั้นให้เป็นว่าที่ลูกค้าของคุณ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าอะไรคือเจ้าศัตรูตัวร้ายของคุณ งั้นเรามีชื่อเรียกสิ่งนั้นว่า อัตราผลสะท้อนกลับ หรือตัวชี้วัดคุณภาพของเว็บฯ (Bounce Rate) นั่นคือจำนวนร้อยละของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ กับจำนวนที่ออกจากเว็บฯโดยไม่ได้เข้าชมหน้าเพจอื่นๆในเว็บไซต์นั้น

ผลของค่าชี้วัดนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำ ไม่ใช่คำมั่นหมาย ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่การขาย ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ข้างต้นเติบโตและขยายผลเพิ่มขึ้น สิ่งที่คุณต้องการก็คือ วีดีโออธิบายด้วยภาพแอนิเมชั่น (Animated Explainer Video)มันเป็นทางเดียวที่คุณสามารถอธิบายในรูปแบบความบันเทิงและอธิบายความหมายว่า คุณคือใคร คุณทำอะไร และคุณพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาของผู้ชมได้อย่างไร

เรามาพิจารณา 3 หลักสำคัญที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไมวีดีโออธิบายด้วยภาพแอนิเมชั่นเป็นเสมือนคุณสมบัติของวีรบุรุษ (Superhero) ที่สามารถช่วยชีวิตในวันของคุณได้

1.ทำให้เกิดความสนใจอย่างรวดเร็ว

มันไม่น่าแปลกใจเลยที่มนุษย์จะตั้งใจใช้เวลากับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้นาน ซึ่งยังน้อยกว่าปลาทองเสียอีกที่อยู่ได้นานประมาณ 8 วินาที และนี่ก็เป็นตัวแปลหลักของอัตราผลสะท้อนกลับ

อย่าเพิ่งรู้สึกหมดหวังน้ะครับ ด้วยวีดีโออธิบายในรูปแบบภาพแอนิเมชั่นที่อยู่บนหน้าเว็บเพจที่มีพื้นที่อันจำกัด (Landing Page) จะช่วยดักจับความตั้งใจของผู้เข้าชมฯได้อย่างทันท่วงที และรับประกันได้เลยว่ามันจะทำให้ผู้เข้าชมฯอยู่ในหน้าเพจนานกว่า 2 นาทีโดยเฉลี่ย ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับเวลา 8 วินาที เราจะเห็นว่าค่าแตกต่างเกิดขึ้นประมาณ 1500% เลยทีเดียว

ถ้าคุณทำอย่างฉลาดโดยการวางวีดีโอไว้บนตำแหน่งที่ผู้ชมให้ความสนใจแบบทันทีทันใด ทำวีดีโอให้ดูใหญ่ ดูชัดเจนและมีความน่าสนใจ หรือคุณควรจะใช้ภาพนิ่งที่มีความน่าดึงดูดเพื่อให้ผู้ชมกดเพื่อชมวีดีโอก่อนก็ได้

2.ช่วยให้อัตราการค้นหาของ Search Engine โตขึ้น

จำนวนเวลาที่ผู้ชมเว็บฯใช้ในการค้นหาเว็บไซต์ของคุณจะมีผลโดยตรงกับลำดับของอัตราการค้นหา (Search Engine) ไม่ว่าสินค้าหรือบริการของคุณมันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ถ้ามันไม่ได้อยู่บนหน้าของ กูเกิ้ล (Google) ก็จะไม่มีใครสามารถหามันเจอคุณควรสามารถที่จะหาที่ตั้งอัตราผลสะท้อนกลับไว้ และการใช้วีดีโออธิบายด้วยภาพแอนิเมชั่นนี้จะช่วยให้คุณมีอำนาจที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้ ผู้ชมเว็บฯควรจะอยู่ในหน้าเว็บฯของคุณได้นานๆจนในที่สุดกลายมาเป็นลูกค้าของคุณ วีดีโออธิบายด้วยภาพแอนิเมชั่นนี้ให้โอกาสที่ดีกว่า ที่จริงแล้วมันมากกว่า 53 เท่าเมื่อเทียบกับข้อความง่ายๆที่ทำให้หน้าเว็บเพจฯอยู่บนหน้าแรกของกูเกิ้ล

วีธีพลิกแพลงคือ คุณสามารถใส่ข้อความสั้นๆที่เกี่ยวข้องกับวีดีโอฯลงในหัวข้อหลักของเว็บไซต์ของคุณ บล็อก หรือ ช่องยูทูป ของคุณ ทำให้แน่ใจว่ามันเรียบง่ายสำหรับผู้เข้าชมฯเพราะเมื่อผู้ชมฯรู้สึกว่าเขากำลังอยู่บ้านสบายๆ โอกาสที่จะทำให้อัตราการวัดผลสะท้อนกลับใกล้เลขศูนย์ได้ง่ายขึ้น

3.มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ผู้ชมกลายมาเป็นลูกค้า

อัตราผลสะท้อนกลับที่แสดงเป็นเพียงตัวเลขของจำนวนผู้ชมที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับธุรกิจคุณ ซึ่งดูเหมือนเป็นจุดอ่อนและเป็นเหมือนการทำลายการทำตลาดที่ใหญ่มาก พูดอีกอย่างคือ อัตราการวัดผลสะท้อนกลับแสดงให้เห็นความจริงที่ว่าคุณกำลังสูญเสียแหล่งเงิน

จำไว้เลยว่าวีดีโออธิบายด้วยภาพแอนิเมชั่นที่ยาวเกินกว่า 2 นาที บางครั้งมันก็ใช้งานได้ดีแต่ไม่เสมอไปกับผู้ที่ชมวีดีโอแล้วไม่เข้าใจในความคิดธุรกิจได้เร็ว ที่สุดแล้วเขาก็จะออกจากการชมวีดีโอฯไปกลางคันโดยไม่ดูให้จบ

แต่ถ้ามันถูกทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีฝีมือภายในเวลา 2 นาทีแล้ว คุณมีโอกาสชนะไปแล้ว 65% ที่จะเปลี่ยนผู้ชมวีดีโอมาเป็นลูกค้าได้ เช่นนี้ก็จะทำให้อัตราการวัดผลฯหมดปัญหาและหมดความหมายไปเลย

สรุปว่าการสร้างวีดีโออธิบายด้วยภาพแอนิเมชั่นสำหรับตราสินค้าของคุณ สามารถเพิ่มจำนวนการเข้าชมหน้าเว็บเพจ ส่งเสริมอัตราการเปลี่ยนแปลง และทำให้อัตราการวัดผลสะท้อนกลับมีประสิทธิผลมากขึ้น


ann.idolgroup