สงขลาประเดิมโค้ชใหม่รับเชียงใหม่,สุพรรณฯชนลาวา

[ฅนสองเล]

โดย สยามกีฬา http://www.siamsport.co.th

[attach=1]
"วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ประเดิมกุนซือคนใหม่อย่าง อ.สุนทร สวนมูล ต้อนรับการมาเยือนของ เชียงใหม่ เอฟซี เกมนี้ ทีมเยือน ตั้งเป้าเก็บแต้มให้ได้สถานเดียวไม่อย่างนั้นทีมมีโอกาสตกชั้นสูง ด้าน สุพรรณบุรี เอฟซี สภาพทีมพิการแบบสุดๆ จะเปิดบ้านต้อนรับ บุรีรัมย์ เอฟซี ที่หากเก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ ก็จะการันตีการขึ้นชั้นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่อีกคู่ แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ บางกอก เอฟซี ที่กำลังต้องการ3คะแนนหนีตกชั้น

      "วัวชน" ประเดิมโค้ชใหม่

         ศึก ด.1 วันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. เริ่มที่สนามติณสูลานนท์ ในเวลา 18.00 น.เป็นการพบกันระหว่าง "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี ทีมอันดับที่ 6 ของตารางที่มี  42 คะแนน จากการชนะ 11 เสมอ 9 แพ้ 6 เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "พยัคฆ์ล้านนา" เชียงใหม่ เอฟซี ทีมอันดับรองบ๊วยของตารางที่มี 23 คะแนน จากการลงสนาม 29 เกม

         ซึ่งผลงานเกมล่าสุดของทั้งสองทีม ทางด้านสงขลา เอฟซี บุกไปพ่ายให้กับ ปตท.ระยอง 0-5 ส่วนเชียงใหม่ เอฟซี เปิดบ้านเสมอ แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 ส่วนผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งสองทีมพบกับ เชียงใหม่ เอฟซี เปิดบ้านแพ้สงขลา เอฟซี 2-4

         เริ่มกันที่เจ้าบ้าน "วัวชนแดนใต้" สงขลา เอฟซี เกมนี้ถือเป็นการประเดิมเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมอย่าง อ.สุนทร สวนมูล ที่เข้ามารับหน้าที่ต่อจาก โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ ที่เพิ่งประกาศลาออกไปก่อนหน้านี้ โดยเกมนี้ทางด้าน สงขลา เอฟซี จะไม่มีทางด้าน มาไอดะ กองกลางชาวญี่ปุ่นที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บอยู่ ซึ่งก็ไม่น่าจะส่งผลกับทีมแต่อย่างไร

         พร้อมกันการที่ทีมไม่มีนักเตะที่ติดโทษแบน ทำให้สภาพทีมเรียกว่าพร้อมทุกขุมกำลัง ซึ่งสถานการณ์ของทีมก็ยังพอได้ลุ้นในการทำอันดับไปเล่นในศึกไทยลีก แต่เกมนี้ก็ต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น
   
      เชียงใหม่หลังพิงฝาต้องมีแต้ม

         มาต่อกันที่ผู้มาเยือน "พยัคฆ์ล้านนา" เชียงใหม่ เอฟซี สถานการณ์เรียกว่าต้องการแต้มเป็นอย่างมาก เพื่อเร่งทำคะแนนหนีตกชั้น เกมนี้สภาพทีมนั้นพร้อมแบบสุดๆ โดยไม่มีทั้งนักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบน ซึ่ง "โค้ชยง" ชัยยง ขำเปี่ยม จะใช้บริการผู้เล่นจากนัดล่าสุดลงสนามทั้งหมด

         เว้นแต่เพียงในรายของทางด้าน ฟานซิส ที่จะมีชื่อเป็นเพียงสำรอง เท่านั้น โดยจะส่งทางด้าน วรุตน์ สัพโส ลงไปลงล่าตาข่ายแทน และเกมนี้ทีมก็ตั้งเป้าที่จะมาเก็บ 3 คะแนนให้ได้ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องมีแต้มกลับออกมาจากถิ่นของสงขลา

      "ช้างศึก" พิการรับจ่าฝูง

         การแข่งขันฟุตบอล ดิวิชั่น 1 ที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี  เวลา 18.00 น. เป็นการแข่งขันระหว่าง "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 10 ของตาราง ที่ลงสนาม 28 เกม ชนะ 7 เสมอ 12 แพ้ 9 มี 33 คะแนน เปิดบ้านพบกับ "นักรบลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี ทีมจ่าฝูงของตาราง ที่ลงสนาม 28 เกม ชนะ 20 เสมอ 7 แพ้ 1 เก็บได้ 67 คะแนน

         ซึ่งผลงานเกมล่าสุดของทั้งสองทีมสุพรรณบุรี เอฟซี บุกไปพ่ายให้กับ จันทบุรี เอฟซี 1-2 ส่วนบุรีรัมย์ เอฟซี บุกไปเอาชนะ อาร์แบค เอฟซี 2-0 ส่วนผลการแข่งขันในเลกแรกที่ทั้งสองทีมพบกับ บุรีรัมย์ เอฟซี เอาชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 2-1

         เริ่มกันที่เจ้าบ้าน "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี ต้องบอกว่าเป็นงานหนักสำหรับการเปิดบ้านต้อนรับจ่าฝูงของตาราง ที่สภาพทีมนั้นพิการแบบสุดๆ หลังจากนักเตะหลายคนต่างพากันพาเหรดกันเจ็บ  และไม่สมบูรณ์กันหลายคน ไม่ว่าจะเป็น มาริโอ เนโต้ แข้งตัวเก่งของทีม

         รวมไปถึง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์  และ อมร ธรรมนาม ที่ยังต้องเซ็กอาการจนถึงวินาทีสุดท้าย นอกจากนี้ก็ยังมีนักเตะที่ติดโทษแบนอย่าง สันติ ไชยเผือก กับ ดีดี้ ที่จะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้ โดยเกมนี้ทีมจำเป็นต้องเก็บแต้มให้ได้ เพราะคะแนนของทีมนั้นยังคงอยู่ในกลุ่มที่ต้องหนีตกชั้น แม้ว่าสถานการณ์ของทีมจะยังไม่คับขันก็ตาม

     "ลาวาเพลิง" ชนะเลื่อนชั้น 100%

         ส่วนทางด้าน "นักรบลาวาเพลิง" บุรีรัมย์ เอฟซี หากพวกเขาสามารถเอาชนะในเกมนี้ได้ ก็จะทำให้พวกเขาการันตีการเลื่อนขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้แบบ 100 % แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาจะมีมากถึง 99 % ก็ตาม และเกมนี้สภาพทีมก็พร้อมสำหรับการออกมาเยือนแบบสุดๆ โดยเกมนี้ไม่มีนักเตะที่ติดโทษแบนหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร

         เกมนี้  อ.วิสูตร วิชายา กุนซือใหญ่ ก็จะจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามไม่ว่าจะเป็น สมปอง สอเหลบ, จิรวัฒน์ มัครมย์, ดักลาส กาโดโซ่ และแข้งตัวหลักรายอื่นลงสนามกันอย่างพร้อมหน้า

      "โค้ชจิ" สู้เต็มที่แม้ทีมสภาพทีมพิการ

         การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี ในเวลา 15.30 น. เป็นการพบกันระหว่าง "พญาอินทรี" ไทยฮอนด้า ทีมอันดับบ๊วยของตารางการแข่งขัน แข่งไปแล้ว 29 นัด ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 19 มีอยู่ 22 คะแนน ซึ่งนัดนี้จะเปิดบ้านรับการมาเยือน "สิงโตลาดพร้าว" อันดับ 16 ของตารางการแข่งขัน มี 24 คะแนน โดยแข่งไปแล้ว 29 นัดชนะ 5 เสมอ 9 แพ้ 15

         ผลงานเกมล่าสุดของทางด้านเจ้าบ้านไทยฮอนด้า เปิดบ้านแพ้ เจ.ดับบลิว. รังสิต เอฟซี 1-0 ส่วนทางด้านทีมเยือนอาร์แบค เอฟซี บุกไปเสมอกับบางกอก เอฟซี 1-0 ทั้ง 2 ทีมเคยเจอกันไม่แล้วในเลกแรกทั้ง 2 ทีมเสมอกันไปแบบสุดมันส์ 3-3

         ทางฝั่งเจ้าบ้าน "สิงโตล้าวพร้าว" อาร์แบค เอฟซี ยังคงอยู่ในอันดับที่เสี่ยงต่อการตกชั้นฤดูกาลหน้า ทางด้าน "โค้ชจิ" สมเด็จ หิตเทศ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ในนัดนี้ต้องปวดหัวไม่ใช่น้อย หลังจากสภาพทีมในขณะนี้ค่อนข้างพิการโดย

         นัดนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งานผู้เล่นที่ได้รับอาการบาดเจ็บถึง 7 คนด้วยกัน ซึ่ง 1 ใน 7 คนที่ได้รับอาการบาดเจ็บไม่สามารถลงทำการแข่งขันในนัดนี้มีชื่อของ ชนะ สนวิเศษณ์ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีมด้วย แค่นั้นยังไม่พอในนัดนี้ทางกุนซือจะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 ผู้เล่นที่ติดโทษแบนอย่าง รัฐพล เสนาผดุง และ แซมบู 

         ในนัดนี้ทางด้าน "โค้ชจิ" สมเด็จ หิตเทศ ตั้งเป้าหมายเก็บคะแนนให้ได้ในการแข่งขันในนัดนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมอาร์แบค เอฟซี ลุ้นหนีตกชั้นต่อไป แต่แน่นอนด้วยศัยกภาพของทีมที่ไม่สมบูรณ์มีผู้เล่นที่ใช้งานได้เพียง 17 คนเท่านั้น ทางกุนซือรายนี้ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อทีมแน่นอน และอาจจะส่งรายชื่อตัวเองลงทำการแข่งขันช่วยทีมอาร์แบค เอฟซี ในนัดนี้อีกด้วย
   
      "โค้ชทู" ลั่นขอ 3 คะแนนต่อลมหายใจ

         ส่วนทางด้านทีมเยือน "พญาอินทรี" ไทยฮอนด้า ในขณะนี้การดิ้นรนหนีเพื่อรอดตกชั้นในฤดูกาลนี้เริ่มจะยากเสียแล้ว หลังจากนัดล่าสุดเปิดบ้านแพ้ให้กับ เจ.ดับบลิว. รังสิต เอฟซี ในนัดนี้สภาพทีมแย่ไม่ต่างกับทางฝั่งเจ้าบ้าน นนัดนี้จะต้องใช้งานประตูมือ 3 หลังจากเฟกโบฮัน ประตูหมายเลข 1 ของทีมได้รับอาการบาดเจ็บ

         และล่าสุด กนกศักดิ์ วงศ์รัตนวิจิตร ประตูมือ 2 ได้รับการกระทบกระเทือนทางศีรษะในเกมที่เจอกับ เจ.ดับบลิว. รังสิต เอฟซี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถลงทำการแข่งขันได้ และยังมี กิตติภพ อุปะชาคำ ที่ติดโทษแบนในนัดนี้อีก 1 คน

         โดยเกมนี้ทาง "โค้ชทู" ครองพล ดาวเรือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมยังคงจะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดของตัวเองลงสนาม ซึ่งทางกุนซือรายนี้ชี้ว่า แมตช์การแข่งขันในสัปดาห์นี้จะเป็นตัวชี้ชะตากรรมของทีมว่าจะอยู่รอดในศึกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ โดยพร้อมที่จะสู้สุดชีวิตคว้าเพิ่ม 3 คะแนนเพื่อเป็นการต่อลมหายใจในการอยู่รอด

      "แข้งเทพ" จัดเต็มสูบศึกเมืองหลวง

         การแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในเวลา 18.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ของตารางการแข่งขัน แข่งไปแล้ว 28 นัด ชนะ 12 เสมอ 6 แพ้ 10 มีอยู่ 42 คะแนน ซึ่งนัดนี้จะเปิดบ้านรับการมาเยือน "บางกอก เอฟซี" อันดับ 15 มี 26 คะแนน โดยแข่งไปแล้ว 27 นัดชนะ 8 เสมอ 2 แพ้ 17

         ผลงานเกมล่าสุดของทางด้านเจ้าบ้านแบงค็อก ยูไนเต็ด บุกไปเสมอกับทีมเชียงใหม่ เอฟซี 1-1 ส่วนทางด้านทีมเยือนบางกอก เอฟซี ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับอาร์แบค เอฟซี 1-1 ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันมาแล้วในการแข่งขันในเลกแรกเป็นทางแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่บุกไปเอาชนะ บางกอก เอฟซี 3-1

         ทางฝั่งเจ้าบ้าน "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด นำโดย "โค้ชโอ๋" สุวโรจน์ อภิวัฒน์วราชัย หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ในนัดนี้ต้องรอดูอาการของ โรแมร์ กัสมี่ กองหน้าตัวความหวังของทีมที่ได้รับอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อกระตุกที่โขนขาหนีบในนัดล่าสุด โดยเต็มส่งผู้เล่นชุดใหญ่ที่สุดของตัวเองลงสนามทั้งหมด ทางด้าน "โค้ชเอ๋" สุวโรจน์ อภิวัฒน์วราชัย หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ยอมรับในตอนนี้ทีมไม่มีลุ้นในการขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า แต่จะทำผลงานได้ดีที่สุดเก็บสามคะแนนต่อหน้าแฟนคัลบของตัวเองให้ได้
   
      "อ.ทองสุข" ประกาศขอแต้มกลับบ้าน

         เป็นอีกหนึ่งทีมที่ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดตกชั้นในฤดูกาลนี้ สโมสร "กระทิงเหล็ก" บางกอก เอฟซี ในนัดนี้ต้องออกไปเยือนแบงค็อก ยูไนเต็ด ทางด้าน "อ.ทองสุข สัมปหังสิต" หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ในนัดนี้เน้นเป็นพิเศษสำหรับการแข่งขันในนัดนี้ โดยหวังจะเก็บ 3 คะแนนในนัดนี้ให้ได้ และหากทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ จะทำให้ทีมขยับหนีจากพื้นที่ตกชั้นอย่างน้อย 1 วัน

         โดยในนัดนี้ทางด้าน อ.ทองสุข สัมปหังสิต หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ยังเตรียมส่งผู้เล่นชุดเดิมกับนัดที่เสมอกับอาร์แบค เอฟซี ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เฉลิมเกียรติ บุญเนตร ที่โดนโทษแบนเป็นนัดที่ 2 และในนัดนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน บาบู ที่เพิ่งได้รับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าในนัดที่แล้ว โดยทางกุนซือประกาศในนัดนี้จะสู้อย่างเต็มที่เพื่อคว้าคะแนนติดมือกับรังของตัวเองให้ได้