ม.อ.ส่งเสริมใช้น้ำเสียในฟาร์มสุกร ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ ควบคู่ผลิตพลังงานทดแทน

[ฅนสองเล]

ม.อ.ส่งเสริมใช้น้ำเสียในฟาร์มสุกร ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ ควบคู่ผลิตพลังงานทดแทน

[attach=1]

รองศาสตราจารย์ ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามความร่วมมือนำผลงานวิชาการด้านพลังงานทดแทนสู่การพัฒนาชุมชน กับ นายสมชาย นิติกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 เพื่อร่วมกันจัดทำโครงการต้นแบบการผลิตก๊าซชีวภาพจากหญ้าช้างเนเปียร์ ร่วมกับน้ำเสียในฟาร์มสุกร เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกร ควบคู่ไปกับการผลิตพลังงานทดแทน โดยสถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.สุเมธ ไชยประพัทธ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้มีการนำผลงานการวิจัยและพัฒนา ซึ่งสถาบันวิจัยระบบพลังงาน และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับบริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด ได้ศึกษาเรื่องการผลิตพลังงานทดแทนมาเป็นเวลา 4 ปีที่ผ่านมา โดยนำไปเป็นองค์ความรู้ในการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา จนได้ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพื่อนำไปขยายผลสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรต่อไป

โครงการต้นแบบการผลิตก๊าซชีวภาพจากหญ้าช้างเนเปียร์ ร่วมกับน้ำเสียในฟาร์มสุกร เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกร ควบคู่ไปกับการผลิตพลังงานทดแทนนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม โดยสามารถลดปัญหาการปล่อยน้ำเสียจากฟาร์มสุกร โดยจะมีการนำน้ำเสียจากการบำบัดไปปลูกหญ้าเนเปียร์ซึ่งเป็นพืชโตเร็วและเป็นอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ แทนที่จะปล่อยลงสู่คูคลองสาธารณะ และยังสามารถนำพลังงานก๊าซชีวภาพที่ได้จากการหมักหญ้าช้างเนเปียร์ร่วมกับมูลสุกร ไปผลิตพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ดีกว่าลมและแสงอาทิตย์ เนื่องจากเป็นสามารถควบคุมได้และมีความสม่ำเสมอ ซึ่งโครงการดังกล่าวหากสามารถนำไปขยายผลในวงกว้าง จะทำให้ภาคเกษตรกรสามารถปลูกพืชพลังงานทดแทนการปลูกพืชสวนพืชไร่ เป็นการลดภาระการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และจะนำไปสู่การจ้างงานและการพัฒนาชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับนำมาใช้ประกอบเพื่อผลิตพลังงานทดแทน เป็นการกระจายรายได้แก่ประชาชน

นายสมชาย นิติกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะนำเอาความสำเร็จที่ได้จากโครงการนี้ ไปต่อยอดงานในพื้นที่อื่นๆ ของฟาร์ม เพื่อเป็นอาชีพเสริมอีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการเลี้ยงสุกร นอกจากนั้น ยังช่วยสามารถช่วยให้มีการนำของเสียจากฟาร์มมาใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ปล่อยทิ้งในแหล่งน้ำ ซึ่งจะตามมาด้วยการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและเป็นมิตรกับชุมชนรอบๆ ฟาร์ม ส่วนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก็จะได้ชื่อเสียง ได้รับความเชื่อมั่นด้านวิชาการ ตามมาด้วยความร่วมมือของชุมชนที่เพิ่มมากขึ้นในที่สุด