ไฟว์สตาร์ฯเปิดศักราช 55 ขอลุยหนังคุณภาพคับแก้ว

[โสรยา...]

โดย สยามดารา http://www.siamdara.com/movie/120110_05514.html

เมื่อเอ่ยถึง ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น คงมีแฟนหนังน้อยคนที่จะไม่รู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มคนดูวัย 25 ปีขึ้นไปคงจะจำได้ดีถึงความยิ่งใหญ่ขอค่ายหนังห้าดาวที่เคยเป็นเบอร์หนึ่ง ของเมืองไทยมาตั้งแต่สมัย "เกียรติ เอี่ยมพึ่งพร" ผู้ก่อตั้ง ต่อด้วยการรับช่วงต่อของ "เจริญ เอี่ยมพึ่งพร" ผู้เป็นน้อง ซึ่งถึงวันนี้ไฟว์สตาร์ฯ ภายใต้การบริหารของสายเลือดใหม่ที่นำโดย "อภิรดี เอี่ยมพึ่งพร" และ "เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร" ก็ร่วมย่างเข้า 40 ปีแล้ว ส่วนในปี 2555 ไฟว์สตาร์ฯ จะดำเนินทิศทางไปเช่นไร วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์จาก "เกียรติกมล เอี่ยมพึ่งพร" กรรมการบริหารมาฝากกัน


เริ่มต้นปี 2555 ทิศทางของไฟว์สตาร์ฯ จะเป็นยังไงบ้าง?
"ครับ ต้นปีเราก็จะเริ่มด้วยหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ "รักสุดท้ายป้ายหน้า" ฉายวันที่ 26 ม.ค. นี้ จากนั้นก็จะมี "407 Dark Flight" หนังระทึกขวัญสามมิติ นำแสดงโดย มาช่า วัฒนพานิช ปีนี้เราคิดว่าเทรนด์ของหนังระทึกขวัญน่าจะมา จะมีหนังระทึกอีก 2 เรื่อง และหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ปิดท้ายปีอีกหนึ่งเรื่อง รวมทั้งหมดเป็น 5 เรื่อง เราจะพิจารณาหน้าหนังจากกลุ่มผู้ชมเป็นหลัก แต่ในทิศทางที่เราจะนำเสนอนั้นเราจะพยายามนำเสนอของใหม่ๆ อย่างเรื่องในพ็อกเกตบุ๊กบางเรื่องที่ไม่เคยมีคนนำมาทำ หรือในเรื่องของเทคโนโลยีการถ่ายทำ เช่น 407 Dark Flight เราก็นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่เราดูหนังฝรั่งกันมานานคราวนี้เราจะนำเสนอในสิ่งที่คนไทยทำได้แต่ฝรั่งทำ ไม่ได้ เราจะหยิบแง่มุมเรื่องราวที่ฝรั่งทำไม่ได้อย่างเช่นเรื่องไสยศาสตร์ ซึ่งเราเคยประสบความสำเร็จมาแล้วใน "ลองของ" โดยผู้กำกับใน 407 Dark Flight ก็จะเป็น "อิสรา นาดี" หนึ่งในผู้กำกับจากลองของมาก่อน ถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่ใหญ่สุดในปีนี้ครับ"



ตั้งเป้าในปีนี้ไว้มากน้อยแค่ไหน?
"สำหรับ ครึ่งปีแรก เราคิดว่าจะพยายามเหยียบร้อยล้านให้ได้นะ แล้วหลังจากนั้นอีกครึ่งปีหลังเราจะพยายามกันดูอีกสักร้อยสองร้อยดูได้มั้ย อาจจะมีการทำโปรโมชั่นทำการตลาดให้มากขึ้น ผมคิดว่าการแข่งขันตลาดในตรงนี้จะทำให้คนดูได้ประโยชน์ได้สินค้าที่ดีขึ้น ครับ"



พูดถึงตลาดต่างประเทศ?
"ใน ส่วนของตลาดต่างประเทศนั้นจะมี "อภิรดี เอี่ยมพึ่งพร" กรรมการบริหารอีกท่านหนึ่งที่ดูแลตรงนี้ ซึ่งเราจะมีการรับผิดชอบตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นมันก็จะมีส่วนของงบประมาณของการผลิตเพื่อตลาดต่างประเทศที่มากขึ้น ก็จะทำให้คุณภาพของภาพยนตร์มันแน่นขึ้นไม่ใช่จะมีแต่หนังที่ถ่ายทำกันง่ายๆ ทั่วไปที่ฉายได้แค่ในประเทศ แต่เราจำเป็นต้องผลิตงานที่มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อรองรับตลาดต่างประเทศด้วย"

มองจุดบกพร่องของปีที่แล้วจะมาแก้ไขในปีนี้?
"หนัง น้อยไปครับ (หัวเราะ) ปีที่แล้วเรามีแค่ 2 เรื่องคือ ฮาศาสตร์ และ ขอบคุณที่รักกัน และก็มีหนังเล็กๆอีกโปรแกรมหนึ่งชื่อ คาเมเลียล ก็น้อยไปจริงๆ ยิ่ง 6 เดือนหลังนี่เราแทบจะไม่มีหนังเลย ดังนั้นปีนี้ก็พยายามทำให้หนังเข้ามากขึ้น เอาแบบให้เจอกันทั้งปีดีกว่า"



ถ้าพูดถึงไฟว์สตาร์ มักจะมาคู่กับภาพของหนังรางวัล?
"ตรง นี้ถ้าจะเป็นหนังรางวัลก็น่าจะเป็นหนังรางวัลที่มีคุณภาพดีกว่า แต่ตอนนี้เราอาจจะเว้นว่างไปนิดหนึ่ง เรามาแข่งขันทางการตลาดก่อนดีกว่า แต่ก่อนหน้านี้ที่เราทำหนังรางวัลไม่ว่าจะเป็น เฉือน หรือ ไชยา มันก็เป็นหนังชีวิตที่เข้มข้นเป็นหนังแมนๆไปนิดหนึ่ง คราวนี้เราก็จะมาลองจูนดาวน์กันหน่อยหนึ่งว่าการตลาดเป็นยังไง บางอย่างที่มันเข้มข้นมากไปเราก็อาจลดลงไปหน่อยแล้วไปเพิ่มในส่วนของความ บันเทิงความผ่อนคลายมากขึ้น ในตลาดไทยตอนนี้อาจจะต้องการอะไรเบาๆ หน่อยซึ่งเราก็จะเติมตรงนี้เข้าไป"

จะยังมีผลงานของเจ้าพ่อหนังรางวัลอย่าง "เป็นเอก รัตนเรือง" และ "วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง" อยู่อีกหรือเปล่า?
"การ ร่วมงานกันก็ยังมีอยู่ครับ เพียงแต่ว่าเนื้องานของเขาก็อาจจะมีการคำนวณกันนิดหนึ่ง คือขอแบบที่คนดูกันเยอะๆได้มั้ยพี่" (หัวเราะ)



การปรับแบบนี้จะทำให้เสียสไตล์ของหนังไฟว์สตาร์ฯ ไปหรือเปล่า?
"จะ ทำหนังรางวัลทำได้ครับ แต่ทำหนังรางวัลที่มีคนดูดีกว่า คือหนังรางวัลที่เราทำไปแล้วไม่มีคนดูถึงเวลาประกาศรางวัลต่างๆ แล้วคนมานั่งเกาหัวว่าหนังเรื่องอะไร? ฉันไม่เคยดูเลย ก็อย่าทำเลยดีกว่า มันไม่เหมือนกับหนังออสการ์ที่ทั่วโลกรู้จัก คุณภาพ เนื้อหาก็ดี ได้ตังค์ด้วย ทุกมุมมันมีหมด แต่ทำไมหนังรางวัลไทยไม่เป็นแบบนั้นบ้าง คือผมอยากให้เป็นหนังที่ประกาศแล้วทุกคนรู้จัก อยากให้เป็นหนังที่คนดูในโรงมากกว่า"

โอกาสของหนังฟอร์มยักษ์ที่เคยมีมาอย่าง "อินทรีแดง" ?
"เรา ก็พยายามอยู่ เรากำลังพยายามเก็บงบประมาณขึ้นมา รวบรวมความมั่นใจของตลาดกลับขึ้นมาแล้วพยายามทำให้ดีที่สุดดีกว่า คราวที่แล้วเราก็ทำดีไปสเต็ปหนึ่งแล้วแต่อาจจะยังสื่อสารกันดีไม่พอคนก็เลย ไปชื่นชมกันที่ดีวีดีกันต่อไป แต่เราจะพยายามทำให้คนดูชื่นชมกันที่โรงหนังดีกว่าเพราะเราทำให้มันอลังการ แล้วก็อยากให้คนดูมาชื่นชมบนผ้าใบผืนโตๆและระบบเสียงต่างๆ มากกว่าไปดูกันที่จอเล็กๆในบ้าน เราจะพยายามทำให้คนดูกลับมาในโรงหนังกันมากขึ้น"

[attach=2]

ฝากถึงแฟนหนังของไฟว์สตาร์?
"ก็ ต้องขอบคุณแฟนหนังของไฟว์สตาร์ฯ ที่ติดตามชมหนังของเรา ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 40 แล้วในวงการหนังไทย ซึ่งเราอาจจะมีเซอร์ไพรส์ว่าเป็น 40 ปีที่เรามั่นคงกันแค่ไหน เรามีพี่ๆ ผู้ใหญ่หลายคนที่เขาเคยอยู่ในยุคที่ไฟว์สตาร์ฯ เคยทำหนังปีหนึ่ง 14-15 เรื่อง เราต้องทำให้แฟนหนังได้ยิ้มแย้มกัน"