“พัทลุงเอฟซี” เปิดตัวประธานคนใหม่พร้อมรับศึกหลังขึ้นสู่ดิวิชั่น 1

[ฅนสองเล]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   26 มกราคม 2555 21:30 น.   

[attach=1]

พัทลุง - สโมสรฟุตบอล "พัทลุง เอฟซี" เปิดตัวผู้บริหารสโมสรชุดใหม่ ลั่นพร้อมสู้ศึกดิวิชั่น 1 โปรยยาหอมพร้อมหนุนเด็กพัทลุงที่มีความสามารถด้านฟุตบอลทุกคน
       
       นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานพิธีแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรฟุตบอลพัทลุง เอฟซี และคณะผู้บริหารสโมสรชุดใหม่ ภายหลังจากที่ ดร.นาที รัชกิจประการ อดีตประธานสโมสร พัทลุง เอฟซี ประกาศวางมือและส่งมอบคืนสโมสรอย่างเป็นทางการให้กับจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2554 โดยผู้บริหารสโมสรชุดใหม่ประกอบด้วย นายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี นายก อบจ.พัทลุง เป็นประธานสโมสรพัทลุง เอฟซี นายโกสินทร์ ไพศาลศิลป์ เป็นผู้จัดการทีม ว่าที่ร้อยตรีสิทธิพร บาลทิทย์ เป็นกรรมการผู้จัดการสโมสร และนายอนุรักษ์ ศรีเกิดเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน
       
       นายสานันท์ สุพรรณชนะบุรี ประธานสโมสรฟุตบอลพัทลุง เอฟซี กล่าวว่า ขณะนี้ทีมพัทลุง เอฟซี ได้เข้ามาสู่ดิวิชั่น 1 แล้วการทำงานจึงต้องหนักขึ้นแน่นอน และการเข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสรในครั้งนี้ยอมรับว่าค่อนข้างหนักใจพอสมควร แต่ด้วยความศรัทธา และความต้องการของพี่น้องประชาชนชาวพัทลุง ที่ต้องการเห็นวงการกีฬาฟุตบอลของพัทลุงไปสู่ความเป็นเลิศในระดับประเทศ ประกอบกับกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ชาวพัทลุงให้ความสนใจและชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พร้อมจะให้ความสำคัญและสนับสนุนเด็กพัทลุงที่มีความสามารถทุกคน เพราะจังหวัดพัทลุงเป็นเมืองกีฬาที่มีศักยภาพสูงกว่าอีกหลายจังหวัด จะพยามทุ่มเทความสามารถเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่หวังไว้ คือ ฟุตบอลไทยพีเมียร์ลีก ซึ่งได้เตรียมงบค่าใช้จ่ายเบื้องต้นไว้ที่ 15 ล้านบาท
       
       ด้านนายอนุรักษ์ ศรีเกิด หรือโค้ชจุ่น หัวหน้าผู้ฝึกสอนกล่าวว่า เราได้เลื่อนชั้นมาสู่ดิวิชั่น 1 นับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แล้วแต่โอกาสเป็นแชมป์ในลีกนี้อาจจะยาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีหวังเสียทีเดียว ซึ่งในเลกแรกนี้เราตั้งเป้าว่าน่าจะติดอันดับเลขตัวเดียว คือ 1-8 ซึ่งขณะนี้ทีมของเรามีความพร้อมสูง เพราะนักเตะส่วนใหญ่เป็นนักเตะเดิมทั้งทีม และตอนนี้กำลังเล็งๆ นักเตะใหม่มาเสริมทีมอีกประมาณ 7-8 คน ซึ่งจะเป็นนักเตะจากไทยลีกฯ อย่างไรก็ตาม ในปลายเดือนนี้จะมีการประชุมของคณะผู้บริหารสโมสรอีกครั้งหนึ่งและหลังจากมีการประชุมแล้วเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น