ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อภิสิทธิ์ แนะ นายกฯ ต้องส่งสัญญาณแก้ปัญหาภาคใต้ให้ชัดเจน

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 17:01 น. 02 ก.พ 55

ทีมงานบ้านเรา

(2 ก.พ.55) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่าการอภิปรายเรื่องพระราชกำหนดนั้นจะมีต่อในวันนี้ภายหลังจากวาระกระทู้ถามสด คาดว่าจะลงมติในช่วงเย็น โดยกระทู้ถามสดที่ค้างมาจากการประชุมคราวก่อนประกอบด้วยเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรี นโยบายพลังงานของรัฐบาล และมีกระทู้ใหม่ของสส.ฟากรัฐบาล 1 กระทู้และกระทู้ของพรรคภูมิใจไทย รวมไปถึงกระทู้ถามสดกระทู้ใหม่ที่ทางพรรคประชาธิปัตย์จะให้มีการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้

สำหรับความเห็นต่อภาพรวมในการอภิปรายเมื่อวานนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลยังคงตอบไม่ตรงคำถาม เนื่องจากเป็นการอภิปรายในเรื่อง พรก. 2 ฉบับ โดยที่อีก 2 ฉบับกำลังส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และทางพรรคประชาธิปัตย์ก็มีความชัดเจนว่าการส่งตีความดังกล่าวไม่ใช่เป็นเพราะไม่เห็นความจำเป็นในเรื่องการฟื้นฟูน้ำท่วม แต่รัฐบาลไม่บอกความจริงทั้งหมด ซึ่งก็ต้องปล่อยให้เป็นการพิจารณาของศาล โดยระหว่างนี้กฎหมาย 2 ฉบับที่ยื่นตีความดังกล่าวก็ยังมีผลบังคับใช้

"สิ่งที่ตั้งใจ ตั้งหลักก็คืออภิปราย 2 ฉบับที่พิจารณา แต่ดูว่า สส.รัฐบาลก็ดี รองนายกฯ เฉลิม รัฐบาล คงอยากได้มีโอกาสพูดกึ่ง ๆ เหมือนกับเพื่อที่จะต่อสู้คดี แล้วก็พยายามพาดพิงมาที่ฝ่ายค้าน ก็อยากถือโอกาสทำความเข้าใจในเรื่องที่รัฐบาลอ้างว่าจะต้องออกพรก.กู้เงิน 3 แสน 5 หมื่นล้าน และคุณสุรพงษ์ คุณก่อแก้ว พูดไปถึงขั้นว่า ถ้าปีนี้น้ำท่วมต้องมาโทษฝ่ายค้านกับทางศาลนั้น เป็นเรื่องเหลวไหล ไร้สาระ ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะขณะนี้รัฐบาลมีเงินที่เป็นงบประมาณปี 2555 ที่ใช้เรื่องของน้ำท่วมได้มีจำนวนถึงเกือบ 2 แสนล้าน"

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์แจกแจงรายละเอียดว่าในงบประมาณเกือบ 2 แสนล้านดังกล่าวนั้นประกอบด้วยงบช่วยน้ำท่วมโดยตรง 1 แสน 2 หมื่นล้าน งบกลางของนายกฯ 6 หมื่นล้าน งบในท้องถิ่น 1 หมื่นล้าน รวมกันได้ 1 แสน 9 หมื่นล้าน

"โดยในเงินจำนวนนี้เป็นโครงการของรัฐบาลโดย คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ระบุว่าจะเริ่มทำในปีแรก 5 หมื่นล้าน และตนขอคิดเผื่อไว้สำหรับโครงการนี้เท่าตัว รวมเป็น 1 แสนล้าน ยังเหลือเงินอีก 9 หมื่นล้าน แถมโครงการที่จะฟื้นฟูฯ ปรากฎว่า ในการประชุม ครม. 2 ครั้ง อนุมัติ 4 หมื่นกว่าล้าน แต่เมื่อสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ไปดูกลับบอกว่าใน 4 หมื่นกว่าล้านนั้น มีหมื่นกว่าล้านเป็นโครงการซ้ำซ้อนควรยกเลิก หรือไม่ก็ทำในปี 55 ไม่ได้ต้องไปทำในปี 56 แต่อันนี้ยังไม่นับโครงการอื่น ๆ ก็ไม่มีทางที่จะดำเนินการในช่วงนี้ แม้ตัวท่านรองนายกฯ เองก็ยอมรับว่าจะกู้ปีแรกประมาณแสนห้า ซึ่งอยู่ในกรอบของงบประมาณ และผมก็ไม่เชื่อว่าจำเป็นต้องกู้ถึงแสนห้าด้วย เพราะโครงการต่าง ๆ ที่จะทำนั้นไม่มีรายละเอียด ขนาดเรื่องฟลัดเวย์ ซึ่งแทบไม่ต้องสร้างอะไรแค่กำหนดพื้นที่ยังบอกว่าขณะนี้ยังเดินหน้าไม่ได้ต้องใช้เวลาในการไปลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน และโครงการเหล่านั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับน้ำท่วมปีนี้ เพราะแม้แต่การสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ใช่ภาพใหญ่ของการดูแลเรื่องน้ำยังใช้เวลา 2 ปีกว่าจะเสร็จ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่อภิปรายบอกว่า พอกู้เงิน 3 แสน 5 ไม่ได้จะมีปัญหาการเยียวยานั้นไม่จริงเลย ไร้สาระ รัฐบาลก็รู้ว่าเป็นเรื่องไม่จริง แต่พยายามสร้างกระแสทางการเมืองขึ้นมา และจะกลายเป็นนิทานเรื่องใหม่"

ต่อในเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาตินั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คำตอบที่นักลงทุนต่างชาติต้องการทราบคือเรื่องแผนบริหารจัดการน้ำ และความชัดเจน เพราะรัฐบาลไม่ค่อยพูดในเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องความสับสนในเรื่องการให้ข้อมูลก็เป็นอีกสิ่งที่นักลงทุนรับได้ยาก

"อยากให้ลงมือทำครับ อย่าเล่นการเมือง ลงมือทำได้เลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการที่จะขุดลอก คูคลอง สร้างคันกั้นน้ำ เยียวยาทั้งหลายจ่ายเงิน 5,000 บาท ทำได้เลย แล้วพอไปออกเป็น พรก. เราก็ชี้ให้เห็นว่ามีหลายประเด็นบกพร่อง อย่างกรณีซอฟต์โลนไปนิยามว่า ช่วยเหลือได้เฉพาะอุทกภัยปี 54 แล้วชาวใต้จะทำยังไง น้ำท่วมมกรา 55"

สำหรับนโยบายแจกแทปเล็ตให้กับนักเรียนชั้น ป. 1 นั้นนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้างก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องมีการตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป ซึ่งนโยบายนี้ก็เป็นนโยบายที่ใช้หาเสียงไว้ก็จะต้องทำ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในแง่ประโยชน์ก็คือการซักซ้อมกับครู และนักเรียนว่าสิ่งนี้จะมาใช้เพื่อการศึกษาอย่างไร และในวัยที่ได้รับแจกแทปเล็ตนั้นอยู่ในวัยที่ฝึกเขียน ฝึกอ่าน ตัวหลักสูตรจะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพสอดคล้องกันกับทักษะของเด็กอย่างไร

ต่อในเรื่องสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้รัฐบาลมีความชัดเจน ในขณะที่สิ่งที่รองนายกฯ เคยพูดแต่ต่อมากลับไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทำให้เกิดผลกระทบต่อความรู้สึก ดังนั้นการค้นหาความจริง การให้ความเป็นธรรม รวมไปถึงการเยียวยา ก็เป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำ ขณะเดียวกันนั้นการซักซ้อม การทำความเข้าใจในเรื่องนโยบายก็เป็นเรื่องสำคัญ

"รัฐบาลนี้ไปมอบหมายบุคคลซึ่งเคยทำงานภาคใต้ในช่วงที่มีความรุนแรงค่อนข้างมาก โดยนโยบายเองด้วย ก็เริ่มต้นจากต้นทุนที่ไม่ค่อยดี คือชาวบ้านภาคใต้ก็หวาดระแวงอยู่ว่าจะกลับเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่าในลักษณะของการมาฆ่ากัน ตอบโต้กันเป็นวงจรความรุนแรงเหมือนเมื่อก่อน ทีนี้ถ้าไม่เร่งทำความเข้าใจ ให้มันชัดเจนว่านโยบายยังเดินหน้าต่อตามแนวทางว่าเอาการพัฒนา เอาความยุติธรรมเป็นตัวนำ เคารพกฎหมาย ทำความซักซ้อมความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่แสดงให้เห็นว่ามีกระบวนการยุติธรรมที่จะรองรับ เวลาที่มีการปฏิบัติไปแล้วเกินเลย ผมว่าอันนี้มีความสำคัญมาก ต้องเร่งทำ และอาจจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ลงไปได้บ้าง แต่ปัญหาที่ผ่านมานั้นสัญญาณของตัวนโยบายนั้นไม่มี และล่าสุดเนื่องจากว่ามีการปรับตัวรองนายกฯ อีก ก็ต้องรีบไปแก้ไขเรื่องนี้"

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าแนวการทำงานเกี่ยวกับชายแดนภาคใต้ในสมัยรัฐบาลที่แล้วนั้น ทำให้เป็นรัฐบาลแรกหลังจากที่มีพรก. ที่สามารถยกเลิกการใช้พรก.ในบางพื้นที่ได้ และมีการถอดกฎหมายพิเศษในกรณีที่เกิดเหตุรุนแรง ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องใส่ใจแก้ปัญหา และรัฐต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจว่ากระบวนการยุติธรรมนั้นสามารถใช้ได้อย่างเสมอภาคกัน

"เรื่องที่เป็นนโยบายหลักหรือทิศทางหลัก และจำเป็นต้องส่งสัญญาณนั้น หัวหน้ารัฐบาลต้องมีบทบาทมากกว่านี้ อย่าลืมว่าสิ่งหนึ่งที่คุณยิ่งลักษณ์พูดตลอด แม้กระทั่งไปดาวอส ก็พูดคล้าย ๆ ว่าจะใช้ความเป็นผู้หญิงในการแก้ปัญหาความรุนแรงต่าง ๆ เพราะฉะนั้นต้องส่งสัญญาณให้ได้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องภาคใต้ แม้แต่เรื่องความขัดแย้งในสังคมขณะนี้ ตัวนายกฯ เองในที่สุดไม่ได้ใช้ทั้งความเป็นผู้หญิง หรือความเป็นนายกฯ เลยในการส่งสัญญาณที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น"

สำหรับความขัดแย้งในกรณี มาตรา 112 นายอภิสิทธิ์ได้ย้ำเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อย่าให้กลายเป็นปมความขัดแย้งของสังคม เพราะจะไปเข้าทางคนบางคน คนบางกลุ่มที่พยายามจะจุดเรื่องนี้ให้เป็นความขัดแย้งทางสังคมที่ไปวนเวียนอยู่กับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้วไม่ได้เป็นสถาบันที่เป็นต้นเหตุความขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น

"ผมเสียดายว่า ที่เคยเตือนไว้ตอนนี้รู้สึกมันก็ลุกลามไปเป็นประเด็นปลีกย่อยในความขัดแย้งไป ในความเห็นของผมแล้ว มหาวิทยาลัยก็เป็นพื้นที่ซึ่งควรจะมีเสรีภาพทางวิชาการ ผมนึกว่าถ้าทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยแทนที่จะไปประชุมแล้วมีมติน่าจะใช้วิธีการในการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยหาทางออกทำความเข้าใจว่าจะแสดงออกในเรื่องความคิดเห็นทางวิชาการโดยไม่นำไปสู่ความเข้าใจผิดหรือความขัดแย้งในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยได้อย่างไร แล้วก็น่าจะหาทางออกร่วมกันน่าจะดีที่สุด"
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215