ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ยอดทีมคุณภาพ เจอร์เก้น คล็อป์ กุนซือ ลิเวอร์พูลกล่าว

เริ่มโดย araneiezaza, 14:48 น. 05 ธ.ค 62

araneiezaza

ยอดทีมคุณภาพ เจอร์เก้น คล็อป์ กุนซือ ลิเวอร์พูลกล่าว นัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์
ยอดทีมคุณภาพ เจอร์เก้น คล็อป์ กุนซือ ลิเวอร์พูลกล่าว

ยอดทีมคุณภาพ เจอร์เก้น คล็อป์ กุนซือ ลิเวอร์พูลกล่าว

เว็บพนันบอลออนไลน์  โปรโมชั่นดี  พนันบอลฟรีเครดิต ได้ก่อนใคร

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล กล่าวชมบรรดาขุมกำลังสำรองของทีมที่ต่างก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์ ที่ทัพ "หงส์แดง" เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2 เมื่อวันพุธที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา

นัดนี้ คล็อปป์ จัดทีมโดยเปลี่ยนผู้เล่นจากนัดล่าสุดถึง 5 ตำแหน่ง โดยเขาถึงขนาดให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ออกสตาร์ตบนม้านั่งสำรอง พร้อมให้โอกาสพวกตัวสำรองในช่วงที่ผ่านมาอย่าง อดัม ลัลลาน่า, เซอร์ดาน ชากิรี่ และ ดิว็อค โอริกี้ ได้เป็นตัวจริง แต่เจ้าถิ่นก็ยังเล่นได้ดุดันเหมือนเดิมจนชนะไปแบบไม่ยากเย็นนัก โดยอีก 2 คนที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมก่อนแต่ได้เป็นตัวจริงในนัดนี้คือ อาเดรียน กับ เจมส์ มิลเนอร์

กุนซือชาวเยอรมันเผยว่า "มันมีจังหวะการเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมหลายจังหวะในนัดนี้ เราทำการเปลี่ยนตำแหน่งถึง 5 ตำแหน่ง ผมพูดถึงคุณภาพในขุมกำลังของเราอยู่บ่อยๆ ดังนั้นผมเลยต้องแสดงให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ว่าที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริง คุณมอบหน้าที่ให้กับบรรดานักเตะ และพวกเขาก็ต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีดีแค่ไหน ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำได้มันก็ยอดเยี่ยมสุดๆ"

"มันมีการเล่นที่ดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประตูของ ดิว็อค, การผ่านบอลของ ซาดิโอ, การเล่นทุกจังหวะของ ชัก, การที่ อดัม ลัลลาน่า ไปอยู่ทั่วทุกที่ของสนามและเล่นได้ดีหลายช่วง แต่แน่นอนว่าในบางช่วงเกมรับของเรามีปัญหานิดหน่อย เพราะพวกเขาขึ้นเกมโดยตรงอย่างรวดเร็ว"

"ทุกอย่างมันกำลังเป็นไปได้ด้วยดีในตอนที่เรานำอยู่ 4-1 แต่ผมไม่ชอบเท่าไหร่ตอนที่เราโดนไล่มาเป็น 4-2 เราต้องเรียนรู้จากเรื่องนี้ และต้องแก้ไขกันให้ดีขึ้น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราจะทำกันให้ได้ พวกเขา (ตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล) ต่างก็เป็นนักฟุตบอลชั้นยอดกันทั้งนั้น ผมเคยพูดไปตั้งแต่ก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มขึ้นแล้วว่าในขุมกำลังของเราน่ะมันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ไม่ใช่นักเตะชั้นยอด"

"ประตูทุกลูกต่างก็เป็นประตูที่ยอดเยี่ยม มันเป็นประตูที่สวยมากๆ, การผ่านบอลก็ทำได้ดี เราเล่นฟุตบอลกันได้ยอดเยี่ยม ผมชอบมันมากๆ เราต้องการความสดใหม่ และผมก็ต้องแสดงความเคารพต่อนักเตะในทีมของผมด้วย มันก็เท่านั้นแหละ วันนี้พวกเขาได้พิสูจน์ถึงคุณภาพของตัวเองแล้ว การทำการปรับเปลี่ยนมันสนุกมากๆ นักเตะทุกคนต่างก็พร้อมที่จะโชว์ฟอร์มเก่งอย่างที่พวกเขาทำได้ในวันนี้"

"ทุกอย่างมันกำลังเป็นไปได้ด้วยดีในตอนที่เรานำอยู่ 4-1 แต่ผมไม่ชอบเท่าไหร่ตอนที่เราโดนไล่มาเป็น 4-2 เราต้องเรียนรู้จากเรื่องนี้ และต้องแก้ไขกันให้ดีขึ้น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราจะทำกันให้ได้ พวกเขา (ตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล) ต่างก็เป็นนักฟุตบอลชั้นยอดกันทั้งนั้น ผมเคยพูดไปตั้งแต่ก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มขึ้นแล้วว่าในขุมกำลังของเราน่ะมันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ไม่ใช่นักเตะชั้นยอด"

ในแง่ประวัติของการเป็นนักเตะนั้น คล็อปป์ เคยเล่นให้ ไมนซ์ 05 เพียงทีมเดียวเท่านั้นในการค้าแข้งอาชีพ ตั้งแต่ปี 1990-2001 ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 34 ปี พร้อมสถิติการถล่มประตูในลีกถึง 52 ลูก

แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์อะไรมากมาย แต่เขา ก็ค้นพบ ว่าตัวเขา เอง มีความสามารถ ในความเข้าใจเกมเป็นอย่างดี ซึ่งตัวเขาเคยกล่าวไว้ว่า

เช่นเดียวกับคนเยอรมันทั่วไป คล็อปป์ อดีตกุนซือทีม โบรุสเซีย ดอทมุนต์ในวัย 48 ปี ยังจำได้ดีเมื่ออิทธิพลของบอลอังกฤษเข้ามาครอบงำทั้งยุโรป ในตอนนั้น คล็อปป์ อายุเพียง 10 ขวบ และเป็นช่วงเดียวกับที่ทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบรุสเซียเมินเชนกลัดบัค ในการแข่งขันบอลถ้วยยุโรป และได้รับถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรก พนันบอลออนไลน์ https://i99dna.com/

ถึงแม้ว่า คล็อปป์ จะเป็นคนเยอรมัน แต่ยอดทีมแห่งแดนอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็น ฮัมบูร์ก โบรุสเซียเมินเชนกลัดบัค หรือแม้แต่ "เสือใต้" บาร์เยิร์นมินิค ต่างก็ต้องยอมแพ้ให้กับความดุดันของยอดทีมจากเกาะอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล และสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องราวที่ทำให้ คล็อปป์ หลงใหลในทีมนี้อย่างมาก เว็บพนันบอลออนไลน์ https://i99dna.com/

ในสมัยที่ คล็อปป์ คุมทีมโบรุสเซีย ดอทมุนต์ เขาไม่ได้มีแรงกดดันให้ต้องออกจากตำแหน่ง หรือจะต้องพาทีมขึ้นเป็นแชมป์ของลีกบุนเดสลิก้า แต่เพราะความไม่กดดันในตัวเองมากจนเกินไปทำให้ในที่สุด ดอทมุนต์ก็สามารถคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2010-2011 และ 2011-2012 ซึ่งนับเป็น 2 สมัยซ้อนที่ดอทมุนต์กลับมาทวงบังลังค์ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง