ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เห็ดหลินจือ สุดยอดสมุนไพรจีน 2,000 ปี ยาอายุวัฒนะ สรรพคุณเลิศ

เริ่มโดย Chelsea, 16:05 น. 21 ม.ค 63

Chelsea


เห็ดหลินจือ มาจากไหน ทำไมถึงได้รับความนิยม

เห็ดหลินจือ (Lingzhi mushroom หรือ Reishi mushroom) เป็นเห็ดหายากมีคุณค่าสูง เป็นสมุนไพรจีนที่ใช้ทำเป็นยาเพื่อรักษาทางการแพทย์ของจีนมานานกว่า 2,000 ปี เนื่องจากมีสารประกอบสำคัญที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีสรรพคุณบำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังสามารถยับยั้ง และช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย


ลักษณะภายนอกของเห็ด เป็นเห็ดที่มีขนาดใหญ่ มีสีเข้ม มีพื้นผิวมันวาว คล้ายแผ่นไม้ และมีรสขม หลายคนอาจสงสัยว่ามีกี่ชนิด จากข้อมูลที่บันทึกไว้พบว่า มีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมนำมาบริโภคและมีสรรพคุณทางยาดีที่สุดคือ เห็ดหลินจือแดง (Ganoderma lucidum) ที่เราคุ้นหูนั่นเอง


10 ข้อเด่น สรรพคุณของเห็ดหลินจือ

โดยในสมัยโบราณ ตามตำรับยาระบุไว้ว่าสามารถนำมาใช้รักษาและป้องกันโรคได้หลากหลาย  โดยมีสรรพคุณหลัก 10 ข้อดังนี้

- ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ยาอายุวัฒนะ บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูแจ่มใส และชะลอความแก่
- ป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง
- ลดความดันโลหิต รักษาโรคความดันโลหิตสูง ปรับความดันโลหิตให้สมดุล
- ป้องกันเส้นเลือดในสมองและหัวใจอุดตัน ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต
- ช่วยลดไขมันในเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมเบาหวาน
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ และหอบหืด
- บำรุงและรักษาโรคตับต่างๆ ทั้งตับแข็ง ตับอักเสบ และช่วยล้างพิษให้ร่างกาย

ในปัจจุบันเริ่มมีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมารองรับสรรพคุณของหลินจือมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า 200 รายการจาก- ทั่วโลก อีกทั้งมีการตรวจสอบทางด้านพิษวิทยาพบว่าเห็ดชนิดนี้เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด


ตัวอย่างประโยชน์ของเห็ดหลินจือ ที่พบตามงานวิจัย

- ช่วยรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จากการทดลองให้กลุ่มผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ พบว่าเห็ดชนิดนี้มีสรรพคุณลดอาการปวดของผู้ป่วยได้โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ อีกด้วย
ใช้แก้พิษจากการทำคีโม ในผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยการทำคีโมพบว่ามีผลช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ลด
- อาการข้างเคียงจากการทำคีโม โดยจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มีผลเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาวชนิด lymphocyte เนื่องจากเห็ดหลินจือมีสารกลุ่มโพลีแซกคาไรด์ (Polysaccharides) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต้านการเกิดเนื้องอกได้ดี รวมถึงมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญและลุกลามของเซลล์มะเร็งอีกด้วย

- เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ติดเชื้อ HIV เพราะในเห็ดชนิดนี้มีสารประกอบแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิดที่มีประโยชน์  จึงช่วยยืดเวลาเจ็บป่วยจากโรคแทรกซ้อน ทำให้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสป่วยช้าลง นอกจากนี้ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้ผู้ติดเชื้อมีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย และอายุยืนขึ้น

- ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ มีการศึกษาในประเทศจีน โดยให้ผู้ป่วยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 60 คน ดื่มน้ำต้มจากส่วน fruit bodies ของเห็ดชนิดนี้ นาน 1 เดือน พบว่า ผู้ป่วย 17 คน ระบุว่ามีอาการค่อนข้างดีขึ้น 25 คน ระบุว่าช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ 14 คน ระบุว่า ช่วยรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และ 4 คน ระบุว่าไม่มีผลต่อการรักษา

วิธีกินเห็ดหลินจือ ให้ได้ประโยชน์เต็มที่

ก่อนจะรู้ว่าวิธีทานเราควรทราบก่อนว่าเห็ดหลินจือนั้นเหมาะสำหรับใคร เนื่องจากเห็ดชนิดนี้มีสรรพคุณหลากหลายที่ช่วยป้องกันและรักษาโรค ดังนั้นจึงเหมาะกับกับทั้งบุคคลทั่วไปและคนสูงวัยที่เป็นโรคหรือมีอาการดังกล่าวข้างต้น

การรับประทานแบ่งได้ 3 รูปแบบ

1. ต้มแบบโบราณ โดยการนำเห็ดที่แห้งแล้วนำมาต้มและเคี่ยว ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ไม่ค่อยสะดวก และไม่ค่อยนิยมในปัจจุบัน


2. วิธีบดให้เป็นผง โดยนำเนื้อเห็ดมาบดให้เป็นผงแล้วบรรจุใส่แคปซูล แต่หากไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออาจทำให้มีเชื้อราปนเปื้อนได้ โดยวิธีนี้จะได้สารสำคัญที่มีความเข้มน้อยและดูดซึมได้ยาก


3. เห็ดหลินจือสกัด ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะจะได้สารสกัดที่เข้มข้น มีสรรพคุณที่ดี ดูดซึมและออกฤทธิ์ได้ดีกว่า ที่สำคัญก็คือมีมาตรฐานการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย เนื่องจากผ่านการฆ่าเชื้อราที่ปนเปื้อนในเห็ดแล้ว


ปริมาณและวิธีทานเห็ดหลินจือสกัด หรือแบบแคปซูล

- กรณีทานรักษาโรคทั่วไป ให้ทานปริมาณ 500–2,000 มิลลิกรัมต่อวัน

- กรณีทานบำรุงร่างกาย ให้ทานปริมาณ 10–200 มิลลิกรัมต่อวัน

ทานตอนไหนดีที่สุด? ช่วงเวลาที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมสารได้ดีที่สุดนั้น ก็คือช่วงเวลาที่ท้องว่าง โดยแนะนำให้รับประทานตอนเช้าในขณะที่ท้องว่าง แล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ หรือก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง

เห็ดหลินจือ ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง

แม้มีงานวิจัยพบว่า การทานเห็ดชนิดนี้ปริมาณ 1,500-9,000 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่พบผลข้างเคียงอย่างรุนแรง หรือมีน้อยมาก และไม่มีสารตกค้างที่ตับหรือไต แต่อาจมีผลข้างเคียงบ้างในบางคนที่มีอาการแพ้เห็ด แต่ก็ไม่ใช่อาการที่รุนแรงมาก เช่น

- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียร
- ท้องเสีย
- เวียนศีรษะ ปวดหัว
- ปากแห้ง คอแห้ง
- มีอาการคัน ผื่นขึ้น
- เลือดกำเดาไหล

ข้อควรระวังในการบริโภค ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยง

- สตรีมีครรภ์และแม่ที่ให้นมบุตร
- คนที่มีความดันโลหิตต่ำ
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
- ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- ผู้ป่วยที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิต้านเนื้อเยื่อของตนเอง
- ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน

ในการณีผู้ป่วยที่โรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหาซื้อมาทานเอง เพราะบางโรค บางอาการ อาจจะมีผลข้างเคียงกับวิธีการรักษาโรคแผนปัจจุบันได้

การเลือกซื้อ

เดิมทีเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่มีราคาแพง ที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ แต่ในปัจจุบันราคาถูกลงมาจากแต่ก่อนมาก จึงสามารถหาบริโภคกันได้อย่างแพร่หลาย มีทั้งรูปแบบอาหารเสริมแบบแคปซูล ผงสกัด หรือแม้แต่เครื่องดื่มสำเร็จรูป พอได้ทราบถึงสรรพคุณและประโยชน์มากมายข้างต้นแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน


ในปัจจุบันเห็ดหลินจือจะปลูกในฟาร์มระบบปิดที่มีการวิจัย มีการควบคุมการเพาะปลูกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เห็ดเติบโตขึ้นภายใต้สภาวะที่เหมาะสม และมีปริมาณสารออกฤทธิ์ที่สูงกว่าเห็ดที่เติบโตเองตามธรรมชาติ จึงได้มาตรฐานด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความมั่นใจให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

อาหารเสริม OMG Cordy-1 ถั่งเช่าทิเบตแท้ 100%
ผสมโสมเกาหลี เบต้ากลูแคนจากโอ๊ต และเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น