ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สายพันธุ์แมวยอดฮิตติดอันดับ

เริ่มโดย tajexiw433@finxmail.com, 11:06 น. 05 มี.ค 63

tajexiw433@finxmail.com

บนโลกนี้มี แมว อยู่มากมายหลายสายพันธุ์ ถ้าจะเลือกเขามาเลี้ยงสักตัวอาจเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยสำหรับใครหลายคน เพราะไม่รู้จะเลือกสายพันธุ์ใดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวดี หากยังตัดสินใจไม่ได้ Petcitiz ขอพาทาสทุกคนไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์แมวยอดฮิตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะน่ารักน่าเลี้ยงมากแค่ไหน ไปเริ่มกันที่อันดับแรกเลยดีกว่าค่ะ

แมว

1.สายพันธุ์เปอร์เซีย (Persian)
ราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลาง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่าน ปัจจุบันแมวเปอร์เซียถือเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมว ก็เพราะว่ามีหน้าตาน่าเอ็นดู ขนปุกปุย มีสีสันที่หลากหลาย และนิสัยส่วนตัวก็น่ารักด้วยค่ะ

ลักษณะและพฤติกรรม
แมวเปอร์เซียจะมีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ กระดูกใหญ่ แข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต จมูกหัก กล่าวคือ เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนง่าย มีความร่าเริง ซุกซน ปีนป่ายไปตามจุดต่างๆ เพื่อหาของมากัดเล่น ช่างประจบประแจง และมีไหวพริบดีมาก

การเลี้ยงดู

เมื่อตัดสินใจที่จะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว ระลึกไว้เสมอนะคะว่า การดูแลขนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสายพันธุ์นี้ ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาด โดยการแปรงและสางขนอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้ขนพันกัน ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและพยาธิได้ค่ะ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบ และเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย

เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่เลียทำความสะอาดขน ทำให้เส้นขนที่เลียไปรวมอยู่ในช่องท้อง อาจจะทำให้เขามีอาการสำรอก หรือเกิดปัญหาด้านระบบย่อยอาหารได้ค่ะ ดังนั้น ควรเลือกอาหารสูตรที่สามารถช่วยกำจัดก้อนขนให้กับเขาได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ และหาซื้อได้ง่ายตามร้าน Pet Shop หรือโรงพยาบาสัตว์ค่ะ



2.สายพันธุ์อเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Shorthair)
แมวสายพันธุ์อเมริกาที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศในแถบยุโรป และแพร่พันธุ์มายังอเมริกา เมื่อตอนสมัยที่ชาวยุโรปเดินทางไปบุกเบิกแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ โดยพวกเขาได้นำแมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ ติดเรือไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้หนูทำลายข้าวของ และได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในเวลาต่อมา จนกระทั่งกลายเป็นแมวพื้นเมืองที่มีขนสั้นของอเมริกาไปในที่สุดค่ะ

ลักษณะและพฤติกรรม

สำหรับรูปร่าง มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวโต มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มองเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ใบหูมีขอบเป็นทรงกลมมน ส่วนหัวมีลักษณะเป็นรูปไข่ ดวงตากลมโตสีเขียวมรกต ลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ ส่วนอุปนิสัยของอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ พบว่า เป็นแมวที่ช่างสงสัย ร่าเริง ชอบเล่น มีเสน่ห์ แต่จะฝึกค่อนข้างยาก ดังนั้น หากเป็นไปได้ผู้เลี้ยงควรจะคลุกคลี และอยู่กับเขาให้มากที่สุดค่ะ

การเลี้ยงดู

ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของเชื้อรา และเป็นหวัดง่าย หากเจ้าของดูแลไม่ดีก็จะเลี้ยงลำบาก ฉะนั้น ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีนเป็นประจำ ส่วนปัญหาเรื่องขนร่วงมีน้อยมาก โดยจะร่วงเฉพาะในช่วงเวลาผลัดขน ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น สบายบรรดาทาสกันเลยทีเดียว ไม่ต้องมาทำความสะอาดกันบ่อยๆ เหมือนพันธุ์อื่น

อาหารสำหรับสายพันธุ์นี้ ควรเลือกสูตรอาหารสำหรับแมวเลี้ยงในบ้าน ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เจ้าเหมียวค่ะ



3.สายพันธุ์สกอตติช โฟลด์ (Scottish Fold)
Susie เป็นแมวพันธุ์สกอตติช โฟลด์ ตัวแรกที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1961 ที่ประเทศสกอตแลนด์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบชื่อสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจากลักษณะของ Susie มีใบหูพับ และยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก ซึ่งหลังจากที่ Susie ให้กำเนิดลูกแมวน้อยหูพับ 2 ตัว William Ross ชายเลี้ยงแกะที่เป็นผู้ค้นพบคนแรก ได้นำลูกแมวตัวเมียไปเลี้ยง เมื่อลูกแมวเติบโตขึ้นจึงนำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966



ลักษณะและพฤติกรรม

แมวสายพันธุ์นี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ขนสั้นกับขนยาว โดยทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ และมีหูตั้งตรงขนาดกลาง ไปจนถึงหูพับขนาดเล็ก มีมุมพับที่กว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง 2-3 อาทิตย์แรกหลังคลอด จมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของสมญานามว่า Smiling Cat หรือ แมวยิ้ม นั่นเองค่ะ แมวสายพันธุ์นี้จะไม่ค่อยส่งเสียงร้อง และชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง พวกมันชอบที่จะเล่นเฉพาะเวลาที่มีเจ้าของมาร่วมเล่นด้วย บางตัวอาจไม่ชอบนอนบนตัก แต่เลือกที่จะอยู่ใกล้ๆ กับเจ้าของแทน

การเลี้ยงดูทั่วไป

การดูแลถือว่าค่อนข้างง่าย แค่หมั่นแปรงขน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับแบบขนสั้น แต่อาจจะต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้น หากเลือกที่จะเลี้ยงแบบขนยาว โดยเฉพาะบริเวณใบหู ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยครั้งพอๆ กับการแปรงขน โดยทั่วไปแมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่จะมีร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์

สำหรับสายพันธุ์นี้ควรให้อาหารที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และโปรตีนสูง หาพื้นที่ให้เขาออกกำลังกายบ้าง หากเป็นแมวพันธุ์แท้ร่างกายจะแข็งแรงมาก ไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้ามียีนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมเกี่ยวกับกระดูก ก็อาจเกิดมาพิการ หรือมีร่างกายไม่สมบูรณ์นัก และที่สำคัญควรพาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำด้วยนะคะ



4.แมวสายพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese)
แมวไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อ Siamese Cat หรือ แมวสยาม หนึ่งในต้นตระกูลของแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงสายพันธุ์ จนทำให้เกิดแมวไทยอีกมากมายหลายพันธุ์ ซึ่งตามตำนานสมุดข่อยได้กล่าวไว้ว่า หากใครได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศจะได้เป็นขุนนาง เพราะถือว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวให้ลาภ อีกทั้งในอดีตยังเป็นแมวที่เลี้ยงกันในวังเป็นส่วนใหญ่

ลักษณะและพฤติกรรม

เนื่องจากแมววิเชียรมาศเป็นแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้ม 9 จุดอยู่บนตัว ได้แก่ ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ ดังนั้น จึงถูกคนเข้าใจผิดเสมอว่าเป็นแมวเก้าแต้ม ซึ่งความจริงแล้วแมวเก้าแต้มเป็นชื่อของแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนำแมววิเชียรมาศไปผสมกับแมวพันธุ์อะไรก็ตาม ก็จะได้สีแต้ม 9 ตำแหน่งตามรูปแบบของวิเชียรมาศ แต่อาจจะแตกต่างกันในเรื่องของรูปร่างและอุปนิสัย อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น สีแต้มก็จะเข้มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้อาจจะมีสีแต้มที่แปลกแยกออกไป เช่น แต้มสีเทา สีแดง และสีกลีบบัว ส่วนอุปนิสัยของแมววิเชียรมาศ ฉลาด คล่องแคล่ว ปราดเปรียวเหมือนกับรูปร่าง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็สุภาพเรียบร้อย แม้จะรักสันโดษ แต่ความจริงแล้วกลับไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ขี้อ้อน และประจบเก่งค่ะอ่านเพิ่มเติม " บาคาร่า w88 "