ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มันเป็นภาพถ่ายแฟชั่นเสียดสี เป็น "อาร์ทคอนเซ็ป"

เริ่มโดย คุณหลวง, 16:30 น. 16 ก.พ 55

คุณหลวง

กรณีที่มีภาพถ่ายของสามเณรรูปหนึ่งสวมจีวรกรุยกรายยืนโพสท่าคล้ายกับนางแบบ ถูกส่งต่อว่อนโลกไซเบอร์ จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบเป็นจำนวนมาก หลายฝ่ายก็ตั้งข้อสังเกตว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพตัดต่อหรือไม่ และผู้ที่ยืนถ่ายแบบโพสท่าในรูปเป็นสามเณรจริง ๆ หรือเปล่า

ล่าสุด รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวนี้ โดยระบุว่า มีผู้ใช้นามแฝงว่า  "เซอร์ ติสส์แตก" โพสต์ข้อความชี้แจงถึงภาพถ่ายดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กว่า

"ขออนุญาตแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ นี่มันเป็นภาพถ่ายแฟชั่นเสียดสี ของนักศึกษา ม.ศิลปากร เป็น "อาร์ทคอนเซ็ป" ไม่ใช่ภาพถ่ายของพระสงฆ์หรือเณรตามที่เข้าใจกันนะครับ ใช้วิจารณญาณในการโพสต์ด้วยครับ หยุดตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่ไม่หวังดีต่อศาสนาเถอะครับ มีความรู้การศึกษากันก็มากแล้วน่าจะไตร่ตรองกันออกนะครับ ^^"

หลังจากมีคำชี้แจงเกี่ยวกับภาพดังกล่าวออกมาเช่นนี้ ก็ทำให้หลายฝ่ายมองว่า แม้ภาพนี้จะเป็นศิลปะ แต่ดูจะทำเกินเลยไปหรือไม่ ที่นำเรื่องเกี่ยวกับศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยเคารพมาล้อเล่นเช่นนี้

แหล่งข่าวซึ่งทำงานในแวดวงพระพุทธศาสนารายหนึ่ง ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า รู้สึกไม่สบายใจกับภาพที่ปรากฏออกมา หากตรวจสอบพบว่าเป็นภาพถ่ายจริง ก็จะเดินหน้าเอาเรื่องกับวัดและบุคคลที่เกี่ยวข้องถึงที่สุด หรือถ้าหากเป็นงานที่เกี่ยวกับการศึกษา มันก็ไม่ใช่ศิลปะ แต่เป็นสิ่งที่ทุเรศมากกว่า ยอมรับว่า ในความเป็นจริงมีกะเทยในแวดวงพระสงฆ์จำนวนมาก แต่ก็ไม่ควรมีภาพเช่นนี้ออกมา

ข้อมูลโดย :  www.talkystory.com/

เก็บมาจาก msn thailand วันนี้ครับ(๑๖/๐๒/๒๕๕๕)

    ที่เกิดสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่ใช่เพิ่งสนใจ แต่สนใจมานาน ตั้งแต่ท่านว.วชิรเมธีต้องการแก้ปัญหาเรื่องพระตุ๊ด-เณรแต๋ว แล้วนายกสมาคมเกย์ออกมาบอกว่า ทำไม่ได้ เพราะการเบี่ยงเบนมันติดตัวมาแล้วแก้ไม่ได้ ก่อนหน้านั้นท่านนายกฯคนนี้เคยกล่าวถึงละครเรื่องหนึ่งที่ว่าการเป็นเกย์ กระเทย นั้นเกิดจากกรรมเก่าที่เจ้าชู้ ว่าเป็นการดูถูกเกย์ ดูถูกเพศที่สาม

    แต่ที่ผมสนใจ ไม่ใช่เรื่องละครนั้น หรือเรื่องนายกเกย์คนนั้น แต่สนใจว่า

    "แหล่งข่าวซึ่งทำงานในแวดวงพระพุทธศาสนารายหนึ่ง ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า รู้สึกไม่สบายใจกับภาพที่ปรากฏออกมา หากตรวจสอบพบว่าเป็นภาพถ่ายจริง ก็จะเดินหน้าเอาเรื่องกับวัดและบุคคลที่เกี่ยวข้องถึงที่สุด หรือถ้าหากเป็นงานที่เกี่ยวกับการศึกษา มันก็ไม่ใช่ศิลปะ แต่เป็นสิ่งที่ทุเรศมากกว่า ยอมรับว่า ในความเป็นจริงมีกะเทยในแวดวงพระสงฆ์จำนวนมาก แต่ก็ไม่ควรมีภาพเช่นนี้ออกมา"

    คือสนใจเรื่องของพระผู้ใหญ่ และแวดวงที่ทำงานพระพุทธศาสนาเช่น มส. เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนา ฯลฯ ว่าพวกท่านๆทำอะไรกับเรื่องนี้บ้างไหม นอกจากออกมาแหกปากร้องว่า ไม่เหมาะๆ ทำลายพระพุทธศาสนาๆ แล้วท่านทำอะไรกับพวกนี้บ้างไหมครับ

    ท่านๆรู้ดี ว่าพระพุทธบัญญัติมิอนุญาตให้กระเทย เกย์บวช ผู้บวชให้เป็นอาบัติไหมครับ? ท่านรู้ ผู้บวชเป็นเณร เป็นภิกษุไหม? ท่านรู้ แต่ทำไมไม่เห็นมีอะไรเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา ถ้าคุณ(ท่าน)มีอำนาจในการดูแลพระพุทธศาสนาในประเทศนี้แล้วท่านเฉยเสีย ไม่สนใจ ท่านจะมาแหกปากออกทีวี ออกหนังสือพิมพ์ทำไมว่าเป็นห่วงพระพุทธศาสนา

    ท่านเคยออกมาบอกปแระชาชนไหมว่าพวกนี้มันไม่ใช่เณร ไม่ใช่ภิกษุ แม้จะผ่านการบวชตามพิธีกรรมอย่างถูกต้อง แต่มันไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นภิกษุ เป็นเณร ไม่ต่างอะไรกับดาราที่อายุเกินแล้วได้รางวัลเยาวชนดีเด่น มันผิดมาตั้งแต่ต้น

    เมื่อตรวจสอบได้ ท่านต้องให้สึกออกไป หรือความจริงลอกจีวรออกเลยก็ได้ แต่มันอาจจะไม่เป็นการให้เกียรติกันเท่าที่ควร ก็ต้องให้สึก และต้องบอกชาวบ้านว่าพวกนี้มันไม่ใช่ภิกษุ ไม่ใช่เณรในพระพุทธศาสนา

    อย่ามัวกลัวกับคำว่าลิดรอนสิทธิมนุษยชน เพราะบางทีพวกนั้นหัวคิดมันไม่มีขอบเขตที่ถูกที่ควร ไๆม่รู้กฏเกณฑ์ของสังคมนั้นๆสักเท่าไหร่หรอก อย่างคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเองมีกำหนดวุฒิการศึกษา และกฏต่างๆมั้ย ถ้ามีก็เท่ากับว่าคุณลิดรอนสิทธิมนุษยชนด้วยสิ

    เมื่อพยายามเข้าไปเป็นใหญ่เป็นโต ก็ควรจะทำงานให้สมกับความพยายามดิ้นรน อย่าเพียงร้องโวยวายเป็นทีๆเวลามีข่าว หรือมีคนเสียดสี เมื่อมีตำหนิเขาก็ต้องหยิบยกมาตำหนิบ้าง มันก็ธรรมดา

    อย่ามัวเสียเวลากับการแสวงหาทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ อย่ามัวเอาใจพวกคุณหญิงคุณนาย ผู้ดีมีตังค์ อย่ามัวแต่เอาเรื่องกับพระป่าที่พยายามดำรงศีลาจารวัตรตามโบราณกาลเลย

    เฮ้อ...สะบายดีมั้ยเนี่ย เรา....
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป