ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สัตว์ประหลาด-อมนุษย์ แห่งสยามทักษิณ และในรัฐทางตอนเหนือของมา

เริ่มโดย คุณาพร., 13:48 น. 14 ม.ค 54

คุณาพร.

สัตว์ประหลาด-อมนุษย์ แห่งสยามทักษิณ และในรัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย


1. ทวดงูพ่อตาหลวงรอง 
เป็นความเชื่อของชาวบ้านสทิ้งหม้อ  ตำบลสทิ้งหม้อ  อำเภอสิงหนคร  จังหวัดสงขลา  เชื่อและเคารพบูชาว่า ทวดงูพ่อตาหลวงรอง  หรือ  ทวดตารอง เป็นเทวดาอารักษ์ประจำหมู่บ้านที่คอยช่วยป้องปกรักษาบ้านสทิ้งหม้อ ให้ปกติสุขตราบปัจจุบัน ดังมีเล่าเอาไว้เป็นตำนานว่า แต่เดิมท่านตาหลวงรองเป็นพระธุดงค์เดินทางมาจากทางภาคเหนือ ท่านได้ปักกรดลงบริเวณที่เป็นวัดโลการามในปัจจุบันจวบจนวาระสุดท้ายของท่าน  บริเวณที่ท่านมรณภาพปรากฏมีชาวบ้านเห็นพญางูขนาดใหญ่สีขาว  ลำตัวเท่ากับลำต้นตาล  มีหงอนแดงตรงกลางหัวนอนขดตัวอยู่ในบริเวณที่ท่านตาหลวงรองมรณภาพ  จึงล้วนเชื่อว่าท่านตาหลวงรองได้กลายสภาพเป็น ทวดงูไปเสียแล้ว  ใครต้องการอะไรก็ขอให้มาทำการ บน กับท่านก็จะได้ดั่งใจหมาย  อนึ่ง  ต่อมาราวปี พ.ศ. 2529 ได้มีการสร้างรูปเคารพบูชาของท่านตาหลวงรองขึ้น  เป็นรูปทวดงูพ่อตาหลวงรองขนาดใหญ่อยู่บนฐานปูนสูงจากพื้นราว 2 เมตร บริเวณฐานมีจารึกเอาไว้ว่า "พ่อตาหลวงรอง  9 มิถุนายน พ.ศ. 2529"  สืบทราบมาว่าช่างปั้นเป็นคนในพื้นที่ชื่อนายจู้ห้วน  สุวรรณรัตน์  อายุ 95 ปี(ถึงแก่กรรมราวปี พ.ศ. 2540)เป็นช่างปั้นงานประติมากรรมชิ้นนี้


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

2. ทวดงูพญาตรีเศียรแห่งควนเจดีย์   
ควนเจดีย์  หรือเขาคอหงส์  จังหวัดสงขลานั้นปรากฏมีเจดีย์อยู่องค์หนึ่งเรียกว่า เจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล  ที่ปากทางเข้าเจดีย์นี้เองจะปรากฏศาลอยู่แห่งหนึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า ศาลสมเด็จปู่เจ้าไตรภพ  ซึ่งมีพญางู 3 เศียร เป็นประติมากรรมสีทองอร่ามไปทั้งตนเรียกว่า  ทวดงูพญาตรีเศียรแห่งควนเจดีย์  ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพญางูมีหน้าที่ในการเฝ้าป้องปกควนเจดีย์ และเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล  เป็นทวดงูที่มีการสร้างเป็นงานประติมากรรมเคารพบูชาที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีความยาวถึง 192 เมตร  ส่วนตำนานที่สำคัญของทวดพญาตรีเศียรนี้มีเล่าเอาไว้ว่า ทวดตรีเศียรมีหน้าที่เฝ้าภพทั้ง 3 กล่าวคือ สวรรค์  มนุษย์  และพิภพ  14 จังหวัดภาคใต้ไปจนถึงสุดเขตแดนจังหวัดราชบุรี  อายุของทวดพญาตรีเศียรว่ากันว่าอยู่ในหลักพันปี  ว่าเศียรหนึ่งเป็นจีน เศียรหนึ่งเป็นอิสลาม และเศียรหนึ่งเป็นไทย ประกอบไปด้วยชื่อเสียงเรียงนามดังนี้คือ 
                1. ท่านขุนพลายดำ 
                2. ท่านขุนพลายเหลือง
                3. ท่านขุนพลายแดง



****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

3. ทวดแม่กงผู้ยิ่งใหญ่แห่งบ้านเกาะหมี 
ในสมัยก่อนยังปรากฏดินแดนแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลามีลักษณะเป็น เกาะ กล่าวคือเป็นผืนดินยกระดับสูงขึ้นจากพื้นราบในชั้นหนึ่ง  มีต้นไม้ขึ้นอย่างหนาตา  อาทิ  ต้นไผ่  เป็นต้น   ในบริเวณดังกล่าวมานี่เองยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม  มีอยู่หลายคนที่มีอาชีพหาของป่าขาย  ครั้งหนึ่งได้มีชายนายหนึ่งเดินทางเข้าไปในป่าในบริเวณเกาะดังกล่าวโดยหารู้ไม่ว่าเป็นสถานที่อยู่ของหมีใหญ่  นิสัยดุร้าย  ขณะที่ชายผู้โชคร้ายกำลังหาหน่อไม้อยู่นั่งเอง  เขาก็ถูกหมีตัวดังกล่าวทำร้ายเอาจนถึงแก่ชีวิต  เป็นที่สะเทือนใจและหวาดกลัวของชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวเป็นอันมาก  และเพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวชาวบ้าน ณ เวลานั้นจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อหมู่บ้านว่า  บ้านเกาะหมี  จวบจนปัจจุบัน  ว่าถึงชื่อสถานที่ตั้งของบ้านเกาะหมีและนอกจากนี้ยังปรากฏตำนาน-เรื่อราวทางความเชื่อที่น่าสนใจของชาวบ้านชาวบ้านเกาะหมีอยู่อีกตำนานหนึ่ง  อาทิ  ตำนาน ทวดแม่กง  ซึ่งชาวบ้านเกาะหมีล้วนเชื่อกันว่าเป็นทวดศักดิ์สิทธิ์อันสถิตอยู่ ณ บริเวณนั้น  มีเรื่องเล่าสืบทอดกันมาอย่างยาวนานถึงรูปแบบ-ความศักดิ์สิทธิ์ของทวดแม่กงเอาไว้ว่า................เมื่อนานมาแล้วยังมีชายชาวบ้านเกาะหมีคนหนึ่งนั่งคุยกับเพื่อนที่ชานเรือน  เขาท้าเพื่อนๆเอาไว้ว่าไม่เชื่อในตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของทวดแม่กง............"ถ้าทวดแม่กงศักดิ์สิทธิ์จริง  ขอให้ขึ้นมาหาเขาบนเรือน เขาจะยอมให้ทวดกัดให้ถึงแก่ชีวิต"   ขณะเดียวกันนั้นเองปรากฏว่ายังมีพญาคางคก(แม่กง)ใหญ่อยู่ตนหนึ่ง  นั่งอยู่บนโขดหินริมฝั่งน้ำ ณ บ้านเกาะหมี  โจนทะยานลงจากโขดหินลงสู่แม่น้ำดังกล่าวเสียงดังสนั่น.......กลายร่างเป็นเข้เจ้า(จระเข้ใหญ่)ในทันทีทันใด  ว่ายตรงไปสู่บ้านของชายหนุ่มผู้ท้าทาย  ถึงริมฝั่งได้  ทวดแม่กงมองชายผู้ท้าทายด้วยสายตาที่โกรธอย่างถึงที่สุด  พร้อมลำเลียงตนขึ้นสู่บนฝั่งพร้อมกลายร่างเป็นงูบองหลาขนาดใหญ่(งูจงอางขนาดใหญ่)  เลื้อยตรงรี่เข้าไปจนถึงบ้านของชายผู้ท้าทาย  ขึ้นไป ณ เรือนชานได้ก็ตรงเข้าหาชายคนดังกล่าว.........เล่นเอาท่านเจ้าของบ้านถึงกับหน้าถอดสี  จำต้องยอมขอขมาโทษแก่ทวดแม่กงในทันทีทันใด   ทวดจึงยอมกลับลงสู่แม่น้ำ  มิทำร้ายเอา...............กลายเป็นเรื่องเล่า-ตำนานประจำถิ่น   ว่าทวดแม่กงนั้นศักดิ์สิทธิ์ตราบปัจจุบัน  หากใครต้องการสิ่งใดก็ขอให้มาทำการ บน เอาไว้ก็จะได้ดั่งใจมุ่งหวัง  เป็นต้น






****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

4.เงือกทอง สัญลักษณ์และความภูมิใจของชาวสงขลา 
หากพูดถึงจังหวัดสงขลาหลายๆคนคงนึกถึงภาพของเมืองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย  ชายหาดสีขาวนวล แหลมสมิหลาที่คับคั่งไปด้วยผู้คน  เกาะหนูเกาะแมว นอกจากนั้นที่จะลืมไปเสียมิได้ก็คือ นางเงือกทอง อันถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองสงขลา  รูปงานประติมากรรมนางเงือกทองนี้พบปรากฏอยู่บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา  ตามจารึกที่ปรากฏบนแผ่นศิลาบริเวณฐานของนางเงือกทอง มีรายละเอียดอธิบายว่า  "เงือกทองสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2509 ตามดำริของ นายชาญ กาญจนาคพันธุ์(ปลัดจังหวัดสงขลาในขณะนั้น)  โดยให้อาจารย์จิตร บัวบุศย์(อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเพาะช่าง)เป็นผู้ดำเนินการปั้น โดยหล่อจากบรอนซ์ลงดำ ใช้งบประมาณของเทศบาลราว 60,000 บาท ตำนานเรื่องนางเงือกนี้กล่าวกันว่า นางเงือกชอบขึ้นจากน้ำมาเล่นแสงจันทร์ในค่ำคืนที่ท้องฟ้ามีแสงสว่างพระจันทร์เต็มดวงทอแสงนวลผ่อง มีอยู่คืนหนึ่งมีหนุ่มชาวประมงแอบเห็นนางเงือกเข้าพอ นางรู้ตัวก็ตกใจกระโดดลงน้ำทิ้งหวีทองคำไว้ ชาวประมงผู้นั้นเก็บหวีทองคำไว้เฝ้ารอคอยว่าสักวันหนึ่งจะได้พบนางเงือกอีก แต่นางเงือกก็ไม่ปรากฏตัวให้ได้เห็นอีกเลย"


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

5. ปัญจรูป สัตว์เทพในนิยายปรัมปราแห่งล้านนา และพม่าประเทศ 
พบในวัดพม่าชื่อ Burmese Buddhst Temple บนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ปัญจรูป สัตว์เทพในนิยายปรัมปราแห่งล้านนา และพม่าประเทศ  เชื่อกันว่าปัญจรูปเป็นสัตว์ของทางล้านนาแต่ในพม่าประเทศเองก็มีความเชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของสัตว์เทพตนนี้กันอย่างแพร่หลาย  ตอนที่ผู้เขียนไปเที่ยวพม่าเคยสอบถามไกด์นำเที่ยวชาวพม่าอยู่หลายคนบอกเล่าตรงกันว่า ปัญจรูปเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่า ถือเป็น "สัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติพม่า" มาช้านานแต่โบร่ำโบราณ และมักมีการสร้างตัวปัญจรูปเอาไว้ตามศาสนสถานทางพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการสร้างเพื่อประดับวัดในพระพุทธศาสนาของพม่า และการสร้างปัญจรูปเพื่อประดับตกแต่งเครื่องดนตรีบางจำพวก เป็นต้น  ตัวปัญจรูปประกอบไปด้วยการผสมของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ถึง 5 สายพันธุ์ด้วยกันคือ
1. ปัญจรูป มีหัวเป็นพญาสิงห์ แสดงสีหน้าดุดันมีอำนาจ
2. ปัญจรูป มีงวงและงาเป็นพญาช้างสาร มักตวัดงวงและงาขึ้นสู่แดนสวรรค์
3. ปัญจรูป มีขาและเขาเป็นพญากวางอันงามสง่า
4. ปัญจรูป มีปีกเป็นพญาหงส์ สยายปีกอย่างงามงดน่าแลชม
5. ปัญจรูป มีลำตัวและส่วนหางเป็นพญาปลา พลิ้วไหวแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจแห่งสายนทีอันกร้าวกราด


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

6. ยักษ์ซาไกหน้าถ้ำที่คูหาภิมุข 
ปรากฏพบอยู่ภายในอาณาบริเวณของวัดคูหาภิมุข หรือวัดหน้าถ้ำ ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยรูปลักษณะเป็นยักษ์ในความเชื่อของคนท้องถิ่น  กล่าวคือ ยักษ์ตนดังกล่าวมีรูปร่างคล้ายคนป่าเผ่าซาไก ตัวดำผมหยิก ไว้หนวดเครารกรุงรัง มีเขี้ยวงอกออกมาพ้นริมฝีปาก นุ่งกางเกงหรือผ้าถุงสีแดงฉูดฉาดตา ยืนตัวตรง มือทั้งสองข้างจับไม้กระบองที่มีหัวกะโหลกมนุษย์เป็นด้ามท้ายแนบไว้กลางลำตัวอย่างทะมัดทะแมง มีงูบอง หรืองูบองหลา(งูจงอาง)เป็นสายสร้อยคล้องคอ  ตามความเชื่อของชาวบ้านตำบลหน้าถ้ำว่า ยักษ์ตนนี้มีมานานแล้วโดยมีหน้าที่เฝ้าหน้าถ้ำคูหาภิมุขมิให้ผู้ใดเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติที่ฝังไว้ภายในถ้ำไปได้ มีตำนานเล่าว่าในสมัยก่อนมีขุนโจรที่มีจิตใจแสนชั่วช้าพร้อมด้วยลูกสมุนได้เข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติภายในถ้ำ จึงโดยยักษ์เฝ้าหน้าถ้ำทุบตีด้วยกระบองถึงแก่ความตาย และยักษ์ตนนั้นก็ได้กลายเป็นหินเฝ้าอยู่หน้าถ้ำดังปรากฏให้เห็นตราบปัจจุบัน



อ้างอิงภาพประกอบจาก
www.siamsouth.com
http://www.oknation.net/blog/localbetong/2010/11/07/entry-2
http://pets.thaipetonline.com
http://city.yellowpages.co.th/songkhla/travelshow.php?cid=90821134342
http://dektube.com/action/viewarticle/12623/
http://m.clipmass.com/m/scoop_detail.php?news_id=23887
และอื่นๆ


ที่มาของบทความ :  ห้องคุยกับคุณาพร.
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0