วันไหว้พระจันทร์

[เสนอแนะ]

   คิดมานานแล้ว อยากจะเสนอมาทางเทศบาลหาดใหญ่ หรือ การท่องเที่ยวฯ  ให้ณรงค์ส่งเสริมการไหว้พระจันทร์  เพราะเมื่อตอนผมเด็กๆ เมื่อถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ จะมีการตั้งโต้ะไห้วบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ริมถนน โดยมีการจัดโต้ะอย่างมโหฬาร มีการเอาต้นอ้อย 2 ต้นมาผูกที่ห้วโต้ะ เมื่อทำการไห้วแล้ว จะมีการนั่งรถเล่นเวียนรอบเมืองดูของบ้านอื่น เป็นการประชันกัน อย่างสวยงาม มีการเล่นเตงรั่น(โคมไฟ กระดาษแก้ว)  ทำให้เมืองมีสีสันต์มาก  แต่ปัจจุบันนี้ จะมีก็แค่การโปรโมทขนมไหว้พระจันทร์เท่านั้น  แถบจะไม่มีบ้านไหว้เลย ซอยบ้านผม มีไหว้อยู่ สองหลัง คือบ้านผม(แม่ผมเป็นคนจัด) กับบ้านป้าผม(พี่สาวแม่ผม) แต่เป็นเพียงการจัดแบบโต้ะเล็กๆ  แล้วจะมีคนในครอบครัวมาไหว้กัน พูดคุยหยอกล้อกันตอนหัวค่ำ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดี  จึงมีความคิดอยากเสนอให้ทางเทศบาลจัดงานไหว้พระจันทร์ ส่งเสริมกันให้ไหว้กันมากๆ จัดประชันโต้ะไหว้  ผมว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ดี สร้างสีสันต์ได้ดีมาก โดยแต่ละบ้านสามารถมีส่วนร่วมได้โดยไม่ยาก อย่าไปคิดว่าการไหว้พระจันทร์เป็นเรื่องไร้สาระ แต่คิดว่าเป็นวัฒนธรรมอันดี ส่งเสริมสถานบันครอบครัว   ผมว่าดีกว่าจัดงานใส่วิกแล้วรวย ซึ่งคนหาดใหญ่ไม่ได้มีส่วนร่วมเลย มันเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งจัดขึ้นมาเท่านั้น  ผมไม่สามารถเอาอากงอาม่า มาใส่วิกได้  แต่ผมสามารถพาอากงอาม่า มาจิบน้ำชา กินขนมไหว้พระจันทร์ สวดมนต์  ดูลูกๆหลานๆ ทิ้งคอมฯ มาเล่นโคมไฟ  จึงอยากเสนอมาทางเทศบาล หรือการท่องเทียวฯ ด้วยครับ

[เห็นด้วยค่ะ]

  ไม่ทราบว่าปัจจุบัน มีบ้านไหนไหว้อยู่บ้างค่ะ ยังจำบรรยากาศเก่าๆ ได้เลย

[นายไข่นุ้ย]

อยากทราบประวัติวันไหว้พระจันทร์ครับ ใครมีเล่าให้ฟังบ้าง

[งูงูปลาปลา]

 เป็นการรำลึกถึง การยึดคืนอำนาจจากชาวมองโกลที่เข้ามายึดเมืองจีน โดยมีการสอดไส้ข้อความในขนมไหว้พระจันทร์ โดยนัดแนะทำการในว้นที่ 15 เดือน 8 จีน จริงๆ น่าจะเรียกขนมกู้ชาติ 

[นายไข่นุ้ย]

เป็นการรำลึกถึง การยึดคืนอำนาจจากชาวมองโกลที่เข้ามายึดเมืองจีน โดยมีการสอดไส้ข้อความในขนมไหว้พระจันทร์ โดยนัดแนะทำการในว้นที่ 15 เดือน 8 จีน จริงๆ น่าจะเรียกขนมกู้ชาติ 

ขอบคุณครับ

[Probass]

ขนมไหว้พระจันทร์ และเผือกไหว้พระจันทร์ ล้วนเพื่อรำลึกถึงการขับไล่มองโกล

พ่อเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนมองโกลยึดถิ่นแต้จิ๋ว ได้ส่งทหารมาควบคุม 3 ครอบครัวต่อคน ทุก 3 ครอบครัวต้องเลี้ยงดูทหารมองโกลอย่างดี  ทหารมองโกลทำการได้ตามอำเภอใจ จะนอนบ้านไหนหรือจะย่ำยีลูกเมียใครใน 3 ครอบครัวนี้ก็ไม่มีใครกล้าขัดขืน
อาวุธที่เป็นของมีคมขนาดใหญ ขนาดกลาง เช่นมีด ขวาน ตลอดจนของมีคมจะถูกยึดหมด แต่ละครอบครัวให้ใช้ได้แค่มีดบางเล็ก ๆ สำหรับหั่นผักต้มแกงและผัดเท่านั้น ถ้าบ้านเรือนใกล้เคียงกัน มีดบาง 1 เล่ม อนุญาตให้ใช้ร่วมกันได้ 3 ครอบครัว ใครฝ่าฝืนกฎมีโทษถึงตาย

ในวันกลางเดือน 8 ปีหนึ่ง ชาวบ้านจึงนัดหมายกันเอาขนมไหว้พระจันทร์และเผือกมาไหว้พระจันทร์ เมื่อมีการส่งขนมไปให้ จึงพากันแบ่งกันกินจนทั่วหน้า แต่เมื่อตัดขนมออกนั้น จึงพบมีกระดาษซ่อนอยู่แถบหนึ่ง มีตัวอักษรจีนใจความว่า  "ตีสามคืนนี้ (วันไหว้ฯ) จงพากันตัดหัวพวกมองโกล"   ส่วนหัวเผือกนั้นภาษาแต้จิ๋วเรียก "โอ่วเท้า " พ้องเสียงกับคำ " โอ่วเท้า" ที่แปลว่า "หัวมองโกล"

ชายฉกรรจ์ทุกครอบครัว จึงพยายามสะสมตระเตรียมอาวุธเท่าที่จะหาได้ พอรอคอยจนถึงเวลานัดหมาย เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเคาะบอกเวลา 3 ยามดังขึ้น ชายฉกรรจ์เหล่านั้นจึงพากันวิ่งกรูเข้าไปยังค่ายของพวกมองโกลเนื่องจากมิได้ระวังตัวมาก่อน และไม่รู้ระแคะระคายแม้แต่น้อย พวกมองโกลจึงถูกฆ่าตายหมดชั่วอึดใจเดียว