ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ประเทศไทยพร้อมไหมกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า?

เริ่มโดย Happyen, 11:36 น. 30 เม.ย 63

Happyen

สาระน่ารู้กับวิศวฯ ไฟฟ้าและพลังงาน ม.หอการค้าไทย

ประเทศไทยพร้อมไหมกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ?
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่กระแสที่มาแล้วไป แต่คือเมกะเทรนด์ของโลกที่มุ่งไปด้วยปัจจัย 3 ประการได้แก่
1. Digitization คือการเปลี่ยนข้อมูลอนาล็อกให้เป็นดิจิทัล
2. Electrification การใช้พลังงานในรูปแบบพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
3. Decentralization การกระจายตัวออกของพลังงาน
และในไม่ช้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) จะเข้ามาแทนที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือใช้น้ำมัน เห็นได้ชัดจากค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าออกมามากขึ้น รวมทั้งหลายประเทศก็วางนโยบายผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ และมีเป้าหมายว่าจะไม่มีรถยนต์ใช้น้ำมันวิ่งบนท้องถนนอีกต่อไปในอนาคตอันใกล้
ซึ่งผมมองว่าประเทศไทยมีความชัดเจนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในปี 2015 โดยกระทรวงพลังงานจัดทำแผนบูรณาการพลังงานระยะยาวของประเทศไทย (Thailand Integrated Energy Blueprint) หรือ TIEB 2015 ที่เชื่อมทุกแผนงานเข้าด้วยกัน ได้แก่
-แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย PDP 2015
-แผนอนุรักษ์พลังงาน EEP 2015
-แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก AEDP 2015
-แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil plan 2015)
-แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas plan 2015) ภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน EEP 2015 ทางสำนักงานนโยบาย
-แผนพลังงาน (สนพ.) จัดทำแผนส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยวางเป้าหมายในการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี (BEV) รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2036 ซึ่งก็อีกไม่นานนี้แล้วแหละครับ
Cr. https://www.facebook.com/Vorrapath-Kokaew-1050070915187415

Happyen

อ้างจาก: liverpoolsociety29 เมื่อ 23:05 น.  30 เม.ย 63
น่าสนใจครับ แต่ราคามันสูงไปหน่อย
อีกไม่เกิน 5 ปี ราคาแบตเตอรี่ก็จะถูกลง รถ EV จากเพื่อนบ้าน ของประเทศจีน จะเข้ามาให้เราเลือก ดังนั้นตลาดรถยนต์สันดาป(ใช้น้ำมัน) ก็ต้องปรับตัวผลิตแข่งขันกับตลาดรถ EV ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ก็ตกกับผู้บริโภค คงอีกไม่นานเกินรอแล้วค่ะ