ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ศัพท์สำคัญของ 5G ที่ควรรู้จัก!!

เริ่มโดย toonop, 18:45 น. 17 พ.ค 63

toonop

   ประเทศไทยเราเดินเข้าสู่ยุค 5G กันเข้าไปทีละนิดแล้วนะครับ แต่เชื่อว่าด้วยความหลากหลายของเทคโนโลยีที่นำเข้ามาเปลี่ยนแปลงเพื่อผ่านจากยุค 4G มาสู่ 5G นั้น มันมีข้อมูลมากมายมหาศาล ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าใจได้ง่ายๆ เหมือนตอนเราเปลี่ยนผ่านจาก 3G สู่ 4G ในรุ่นก่อนครับ

เพราะเทคโนโลยี 5G มีความหลากหลายมาก มีความหยืดหยุ่นสูงมาก มีศัพท์เฉพาะมากมาย มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ 5G เยอะมาก เราเลยจะได้ยินคำศัพท์ใหม่ๆ อย่างเช่น Millimeter wave, mmWave, Sub-6, low-band, Mid-band, 5G NSA หรือ 5G non-standalone และยังมี 5G SA หรือ 5G standalone อีก และก็ยังมีอื่นๆ อีกมากมายที่จะมีการพูดถึงกันอย่างแน่นอน ซึ่งเทคโนโลนีใหม่ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องเอ่ยขึ้นมาถ้าเราต้องการจะคุยกันถึงเรื่อง 5G ครับ

ด้วยความที่มันไม่ง่ายเหมือนยุคเก่า ฉะนั้นวันนี้เรา Appdisqus จะขอนำศัพท์สำคัญที่ทุกคนควรจะรู้จักไว้ โดยจะเอามาอธิบายให้เข้าใจกันได้แบบง่ายๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นเวลาได้ยินหรือเจอคำเหล่านี้ในอนาคตครับ

1.Millimeter wave ในอีกชื่อคือ high-band หรือ mmWave
   นี่คือศัพท์หลักตัวแรกที่ต้องเข้าใจกันก่อนเลยสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ 5G เพราะนี่น่าจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของคลื่น 5G ตามที่คนไทยเรานิยามถึงมันกันเอาไว้ครับ โดย Millimeter wave หรือชื่อทางเทคนิคที่ FCC เรียกมันว่า high-band ส่วนบริษัท Qualcomm ใช้เทคโนโลยีนี้ในชื่อว่า mmWave แต่ทั้งหมดมันจะหมายถึงเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสัญญาณบนคลื่นความถี่ที่สูงกว่า 24 GHz ขึ้นไปครับ
   เป็นย่านความถี่ที่ปกติแต่ไหนแต่ไรเราไม่เคยคิดหยิบมันมาใช้กับอุปกรณ์สื่อสาร เพราะแม้ว่ามันจะมีความถี่ของสัญญาณที่สูงมาก มีพื้นที่ความกว้างของสัญญาณที่ยังเหลือให้ใช้กว้างมาก แต่ข้อเสียของสัญญาณความถี่สูงระดับนั้นก็คือระยะทางที่มันส่งสัญญาณได้สั้นเกินไป และมันไม่อาจจะทะลุทะลวงผ่านสิ่งใดได้เลยแม้แค่เพียงอุ้งมือของเรา ถ้าเผลอไปปิดกั้นทางเดินของสัญญาณมันก็หายไปได้แล้วละครับ
   แต่ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบและพัฒนาของผู้ผลิตอุปกรณ์ ในที่สุดเขาได้ออกแบบการรับส่งความถี่แบบ Millimeter wave จนมันสามารถนำมาใช้งานได้จริงบนอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนครับ โดยความสามารถของมันก็คือการรับส่งข้อมูลได้เร็วระดับ 1Gbps ขึ้นไป เป็นความเร็วตามมโนภาพ 5G ที่เราคาดหวังกันเอาไว้นั้นเอง

2.Sub-6
   Sub-6 ต้องเป็นคำที่ต้องมาตามหลัง Millimeter wave มาติดๆ เลยละครับ เพราะนี่คืออีกหนึ่งมาตรฐาน 5G ที่สำคัญ เพราะถ้าจะบอกว่า Millimeter wave เป็นย่านความถี่สูง ใช้เพื่อความเร็วสูง แต่ระยะสัญญาณมันสั้นเกินไป ฉะนั้นเจ้า sub-6 ก็คือเทคโนโลยีที่สองที่จะถูกใส่ไว้ในอุปกรณ์ 5G ครับ มันมีเพื่อจะรองรับคลื่นความถี่ที่ต่ำกว่า 6GHz ที่จะใช้ในการรับสัญญาณที่มีความสเถียรและครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่านั้นเองครับ
   โดย Sub-6 จะนิยมใส่เข้ามาอยู่คู่กันกับ mmWave เพื่อให้ตัวอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของเราสามารถสลับรับสัญญาณที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา เพราะคลื่นความถี่สูงระยะสั้นอย่าง mmWave จะเหมาะสมที่ผู้ให้บริการจะไปติดตั้งตัวส่งในพื้นที่เฉพาะหรือมีคนพลุกพล่านเท่านั้น เพราะขอบเขตจะแคบแต่ก็มีความเข้มข้นและความเร็วของสัญญาณที่สูง ส่วนตัว Sub-6  ก็จะใช้ในการกระจายสัญญาณในพื้นที่บริเวณกว้าง เป็นตัวเสริมระยะขอบเขตที่ Millimeter wave หรือ DATA88BET.com  ยากจะครอบคลุมได้ทั่วถึงนั้นเองครับ

3.5G NR หรือ 5G New Radio
   ถ้าได้ยินคำว่า 5G NR หรือไม่ว่าจะเป็น 5G New Radio มันคือชื่อของมาตรฐาน 5G ของโลกในตอนนี้ครับ เป็นชื่อเรียกโดยรวมทั้งเทคโนโลยี Millimeter wave และ Sub-6 เข้าไว้ด้วย

4.5G NSA หรือ 5G non-standalone
   คำนี้จะถูกพูดถึงกันใน 5G ยุคสมัยแรกๆ นี้แหละครับ มันคือเทคโนโลยีที่เราใช้ในช่วงเปลี่ยนถ่ายสัญญาณ 4G ไปสู่ 5G ในช่วงนี้แหละ โดย 5G NSA ก็คือเทคโนโลยีที่นำสัญญาณของ 4G มาสนับสนุนการทำงานของคลื่น 5G เพื่อเพิ่มความเสถียรของการให้บริการและการรับส่งข้อมูลของตัวอุปกรณ์ โดยจะถูกพบในอุปกรณ์ที่รองรับ 5G ยุคเริ่มต้น แต่ในอนาคตก็จะเปลี่ยนเป็น 5G SA หรือ 5G Standalone กันทั้งหมดครับ

5.5G SA หรือ 5G Standalone
   5G Standalone หรือตัวย่อ 5G SA มันคืออนาคตที่มาแน่ๆ เนื่องจากมันเป็นระบบที่สามารถทำงานบน 5G ได้ทั้งหมดด้วยตัวเอง ไม่ต้องกลับไปพึ่งพาระบบเก่าอย่าง 4G อีกต่อไป สิ่งนี้จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นทั้งผู้ผลิตและผู้ให้บริการ โครงสร้างเครือข่ายก็จะแข็งแกร่งลงตัว และน่าจะส่งผลให้ราคาค่าบริการถูกลงกว่าเดิมได้ครับ ฉะนั้นความลงตัวของโลก 5G น่าจะไปอยู่ในยุคที่เราไปใช้ 5G SA กันหมดแล้วนั้นเองครับ

สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยจ้า
Credit : appdisqus.com