ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ระวัง ! ซื้อโทรศัพท์ใหม่ อาจเจอสอดไส้

เริ่มโดย Theerapuk, 23:25 น. 17 พ.ค 63

Theerapuk

 สัปดาห์ก่อนผมไปซื้อไอแพดที่ร้านเทเลวิซ โลตัส มอ.เสร็จเรียบร้อยได้เครื่อง กลับบ้าน พอเอาเครื่องมาเช็คปรากฏว่า ssrial no.เครื่องและกล่องไม่ตรงกัน วันต่อมาไปที่ศูนย์แอปเปิลให้ช่วยเช็คให้ สรุปเป็นเครื่องที่ส่งซ่อมแล้วเคลมเครื่องใหม่มา ประกันเดินไป 5 เดือนแล้ว อ้าวสอดไส้กันนี่ เลยไปที่ศูนย์ที่ซื้อมา ทำเรื่องคืน วันต่อมามีคนโทรมาบอกเป็นผู้จัดการ เจรจา สรุปคืนเงินแล้วขอร้องอย่าเอาเรื่อง ผมนี่งงเลย ร้านมีมาตรฐาน ไม่น่ามาทำแบบนี้กับลูกค้า ถ้าเป๋นคนที่ไม่รู้เรื่อง ก็โดนคุณเอาเปรียบไปโดยไม่รุ้ตัว
  ฝากเตือนสมาชิก จะซื้อโทรศัพท์ไม่ว่าจะซื้อจากศูนย์ก็อย่าไว้ใจนะคับ เช็คให้ดี อาจมีสอดไส้แบบที่ผมเจอ

กบแดง เจตนา

ความเข้าใจผิด...
(คำสอนของท่านพุทธทาส ภิกขุ)

1) เข้าใจผิดว่า...
ทำดี ต้องได้ดี ทำบุญต้องได้บุญ
ที่ถูก คือ..
ทำดีไม่ได้อะไร ได้แค่ละกิเลส
ทำบุญ ได้แค่สบายใจ

2) เข้าใจผิดว่า...
ดีกับใคร คนนั้นต้องดีตอบ
ที่ถูก คือ..
เรามีหน้าที่ทำดี ใครจะดีกับเรา
ไม่ดีกับเรา ไม่ใช่เรื่องของเรา

3) เข้าใจผิดว่า...
ให้อะไรใคร ต้องได้กลับคืน
ที่ถูก คือ..
การ "ให้" คือ ยินดีเสียสละ
ให้แล้วคาดหวัง..ไม่ใช่การให้
อ้างบุญคุณไม่ได้

4) เข้าใจผิดว่า..
แก่แล้วทำอะไรก็ได้
ที่ถูก คือ..
แก่แล้วต้องยิ่งสำนึก
ทำชั่วไม่ได้ เวลาเหลือน้อย

5) เข้าใจผิดว่า...
ต้องทำเพื่อความมั่นคง
ของชีวิตในภายหน้า
ที่ถูก คือ..
ความมั่นคงไม่มีในโลก
ตายได้ทุกเมื่อ

6) เข้าใจผิดว่า...
ความต้องการของตัวเอง
สำคัญที่สุด เราสำคัญที่สุด
ที่ถูก คือ..
ไม่มีความต้องการนั่นแหละสำคัญที่สุด
ไม่มีเราต่างหากสำคัญที่สุด

7) เข้าใจผิดว่า...
เข้าวัด ใจสงบ
ที่ถูก คือ วัดอยู่ในใจ ใจสงบ

8) เข้าใจผิดว่า...
ความสบายเลือกได้
ที่ถูก คือ..
เกิดมาก็ทุกข์แล้ว มันเลือกไม่ได้
ไม่มีใครสบายตลอดชาติ

9) เข้าใจผิดว่า...
สิ่งของ คนของเรา ตัวตนของเรา
เราต้องยึดไว้ รักษาไว้
ที่ถูก คือ..
ไม่มีอะไร หรือใคร
ให้ต้องยึด ต้องรักษา
ทุกอย่างไม่ใช่ของเรา
และที่สุดแล้ว..ก็ ไม่ มี... ส.สู้ๆ

ดร.เจต แดงต้อย

ในอดีต พระเจ้าสร้างควายก่อน  (น่าอ่านนะ)
พระเจ้าบอกควาย "แกไปไถนาทุกวัน จากตะวันขึ้นจนตะวันตกดิน กินแต่หญ้า ให้แกอยู่ได้ 60 ปี"
ควาย : "ไม่เอาหรอก ทำงานหนักแทบตาย กินได้แต่หญ้า เอา 20 ปีพอ ที่เหลือคืนพระเจ้า"
พระเจ้าตกลง

วันต่อมา พระเจ้าสร้างลิง
พระเจ้าบอกลิง "แกไปทำให้สัตว์อื่นมีความบันเทิง ทำให้สัตว์อื่นหัวเราะ ตีลังกาให้สัตว์อื่นดู กินได้แต่กล้วย ให้แกอยู่ 20 ปี"
ลิง : "ทำให้สัตว์อื่นหัวเราะ แสดงกายกรรม ตีลังกา งานหนักขนาดนี้
เอา 10 ปีพอ"
พระเจ้าตกลง

วันต่อมา พระเจ้าสร้างหมา
พระเจ้าบอกหมา "แกไปอยู่หน้าบ้าน กินของเหลือจากเจ้าของ ให้แก 25 ปี"
หมา : "เห่าทั้งวัน เอา 15 ปีพอ ที่เหลือคืนพระเจ้า"
พระเจ้าตกลง

วันต่อมา พระเจ้าสร้างคน
พระเจ้าบอกคน "แกเอาแต่นอน กิน เล่น เที่ยว ไม่ต้องทำอะไรเลยให้มีความสุขกับชีวิต ให้แก 20 ปี"
คน : "ชีวิตมีความสบายแบบนี้ 20 ปี น้อยไป"
พระเจ้าไม่ได้พูดอะไร
คน : "เอาอย่างนี้ ควายคืนไป 40 ลิง 10 หมาก็ 10 ปี ยกให้ผมแล้วกัน ผมก็อยู่ได้ถึง 80 ปี"
พระเจ้าตกลง

คนเลยกินข้าว นอน เล่น เที่ยว 20 ปี
ที่เหลือ 40 ปี ทำงานยังกะควายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ต่อมา 10 ปี ก็ทำตัวเป็นลิง เล่นอยู่กับหลานให้หลานหัวเราะสนุกสนาน (เลี้ยงหลาน)
สุดท้าย 10 ปี ไปไหนไม่ได้ เฝ้าบ้านยังกะหมา
#นี่คือความจริง... ส.สู้ๆ

ทุ่งจัง ลงแดง

ถ้าใช้ เสือ ทำงาน
ต้องให้เขามีพื้นที่
แล้วปล่อย.ไปล่าเหยื่อมาให้
ไม่ต้องบังคับ
ไม่ต้องกำหนดวิธี
เพราะพวกเขาคือนักล่า

ถ้าใช้ ควาย ทำงาน
ต้องให้หญ้าเขาให้พอ
ต้องบังคับแล้วใช้ไถนา
พวกเขาอืด แต่ต้องจูง

ถ้าใช้ หมา ทำงาน
ต้องให้อาหาร
ให้ความสนิทสนม
ให้เห่าและเฝ้าบ้าน
พวกเขา ภักดี ประจบ
และจับผิดเก่ง

คนไม่เข้าใจ
จะใช้เสือเยี่ยงควาย
จะใช้ควายเยี่ยงหมา
จะใช้หมาเยี่ยงเสือ

เสือไม่เลียปากนาย
ไม่ประจบ และไม่ไถนา

ควายไม่เฝ้าบ้าน
ไม่ล่าเหยื่อ และไม่ประจบ

หมาไม่ไถนา ไม่ล่าเหยื่อ
แต่ชอบเลียปากนาย

เสือส่วนมากเมื่อเติบโต
มักจะเป็นนายคน
หรือเจ้าของกิจการ
เพราะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง

ควายส่วนมากไม่เติบโต
เพราะไม่คิดนอกกรอบ
และไม่สร้างสรรค์
และมักจะถูกหมาดูหมิ่น
และหลอกใช้

หมาส่วนมากเติบโตในองค์กร
แต่ไม่สามารถ
สร้างอาณาจักร
ของตัวเองได้
ต้องพึ่งเสือและควาย
ในการเติบโต

เสือที่ฉลาด
และมองการไกล
จะเอาควายไปด้วย
แต่ถ้าเป็นเสือบ้าอำนาจ
มักจะเอาหมาไปด้วย... ส.หลก

หัวกระบือ(แดงส้ม)

...วิธีดูความจริงใจ
ของเพื่อนมนุษย์
ให้ดูตอนที่เราไม่สามารถ
ให้คุณหรือให้โทษเขาได้

มนุษย์ส่วนมาก
ใครให้คุณให้โทษได้
ก็จะทำดีด้วย

หากให้คุณให้โทษ ไม่ได้แล้ว
ไม่ต้องแปลกใจ
ที่เขาจะหลีกลี้หนีหายไป

จงรู้เถิดว่า
นี่คือมนุษย์ที่แท้จริง
ที่เป็นเพียงหุ่นเชิด
ของบุญและบาปเท่านั้น... ส.หลก

กบต้มส้ม

อย่าเคยชินกับความเคยชิน

——

ทฤษฎีกบต้ม
คือ หลักอธิบายเรื่องโทษของความชะล่าใจ
ให้เห็นภาพได้ชัดเจน
.
.
เรื่องมันมีอยู่ว่า
หากเราต้องการจะต้มกบ
เราก็ใส่น้ำลงในหม้อ จุดเตาไฟ
รอให้น้ำเดือดแล้วจึงค่อยหย่อนกบใส่ลงไป
ตอนที่กบเจอน้ำร้อน มันก็จะกระโดดหนีทันที
เพราะสัญชาตญาณมันเป็นเช่นนั้น
.
.
ถ้ายังใช้อุปกรณ์เหมือนเดิม
จะทำอย่างไร เพื่อให้กบไม่สามารถกระโดดหนีได้
.
.
วิธีการคือ
ต้องเอากบใส่หม้อพร้อมกับน้ำอุณหภูมิปกติ
จากนั้นก็เปิดไฟอ่อนๆ
.
.
และเพราะกบเป็นสัตว์เลือดเย็น
มันจึงสามารถปรับตัวตามอุณหภูมิน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นได้
น้ำเย็นก็อยู่ได้สบายๆ น้ำอุ่นก็รู้สึกเฉยๆ
.
.
นานเข้าๆ
น้ำก็เริ่มร้อนมากขึ้นๆ จนใกล้เดือด
กบเพิ่งรู้สึกตัวว่า ตอนนี้ตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย
.
.
มันจะกระโดดหนี
แต่! ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว ขามันสุกไปเรียบร้อยแล้ว
ฉากจบคงไม่ต้องบรรยาย

——

วานก่อนดูคลิปวิดีโอของผู้ติดไวรัสโคโรน่า ชาวไอร์แลนด์
เขากำลังนอนซมอยู่ในห้องไอซียู
บอกเล่าถึงอาการเจ็บปวดที่ปอดอย่างแสนสาหัส
มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เขากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง คือ
.
.
"อย่าคิดว่าคุณจะไม่ติดไวรัสนี้  แม้แต่วินาทีเดียว"
.
.
นี่เป็นการสื่อสารที่ตรงประเด็นมาก เรียกว่า "พูดออกมาจากหัวใจ" เลย
รับรู้ได้เลยว่าประโยคนี้ เขาได้เรียนรู้และกำลังประสบมันด้วยตัวเอง
คงเป็นสิ่งที่เขาอยากจะบอกกับพวกเราผู้ยังไม่ติดเชื้อมากที่สุด
.
.
วันนี้ ตอนนี้
ท่านคงกำลังปรับตัวกับสถานการณ์วิกฤตนี้ได้
เริ่มรู้จังหวะอยู่บ้านบ้าง อาจจะหาโอกาสออกไปข้างนอกบ้าง
พออยู่คนเดียวเหงาๆ เบื่อๆ ก็หาทางไปรวมกลุ่มกันบ้าง
ล้างมือบ้าง ล้างแล้ว ไม่ล้างก็ไม่เป็นไร
พวกนี้คนรู้จักกันทั้งนั้น ใกล้กันหน่อยก็คงได้มั้ง
.
.
"ไม่เป็นไร" "ก็ได้" บ่อยๆ เข้า
หารู้ไม่ว่านั่นคือ "ความเคยชิน"
ที่กำลัง "เปิดช่อง" ให้เกิดโอกาสติดเชื้อ
.
.
พระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้แล้ว
มีธรรมะข้อหนึ่งที่พุทธองค์ทรงตรัสสอนทุกวันๆ ละ ๒ ครั้ง
.
.
ลองคำนวนดู ๔๕ ปีๆ ละ ๓๖๕ วันๆ ละ ๒ ครั้ง
รวมเป็น ๓๒,๘๕๐  ครั้ง ที่พระพุทธองค์ทรงเตือนว่า
"อย่าประมาท"
.
.
ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสถามกะพระอานนท์ ว่า
"ดูก่อน อานนท์ เธอนึกถึงความตายวันละกี่ครั้ง"
พระอานนท์​ ผู้พุทธอุปฐาก กล่าวตอบ
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วันละ ๗ ครั้งพระเจ้าข้า"
"ยังห่างมาก อานนท์ ตถาคตนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก"

——

"นึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก" และ
"อย่าคิดว่าคุณจะไม่ติดไวรัสนี้  แม้แต่วินาทีเดียว"
.
.
เป็น ๒ ประโยคนี้มีความหมายเดียวกัน
คือ "อย่าประมาท"
.
.
หากท่านอ่านมาถึงบรรทัดนี้
หมายความว่า ท่านกำลังมีชีวิตอยู่
ด้วยเพราะเหตุปัจจัยทั้งหมดทั้งมวล "ในอดีต"
ทำให้ท่านยังอยู่กลุ่มที่ยังมีชีวิต และยังไม่ติดไวรัส
.
.
แต่อะไรๆ ก็ไม่แน่ สำหรับวิกฤตการณ์นี้
จุดเปลี่ยนอยู่ที่ ท่าน "เคยชิน" หรือ "รู้สึกตัว"
และมันมีความสำคัญถึงชีวิต
.
.
การไม่ระมัดระวัง ทำสิ่งเดิมๆ ตามความเคยชิน
ก็ไม่ต่างจาก "กบ" ไม่ประสีประสา นอนแช่น้ำอุ่น
.
.
การไม่เชื่อฟังคำแนะนำของแพทย์และรัฐบาล
แล้วไม่สนใจอะไร ก็ไม่ต่างจากการปิดฝาหม้อเสีย
แล้วยอมโดนต้มแต่โดยดี
.
.
หากท่านหวงแหน และยังยินดีกับชีวิตที่มีอยู่
ขอจงสร้างเหตุปัจจัยใหม่ ในปัจจุบัน!
.
.
ยินดีปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรัฐบาล
ยินดีที่จะระมัดระวังตัว
ยินดีกับการอยู่คนเดียว
.
.
ยินดีกับการรู้สึกตัว
ยินดีกับลมหายใจ
"ยิ้ม" และ "หายใจ" ให้กับชีวิตและทุกสิ่ง
.
.
ท่านจะปลอดภัยทั้งกายและใจ

——

แม้นม่านหมอกแห่งความกลัว ยังไม่หมดไป
แม้นแสงร่ำไรแห่งความหวัง ยังส่องมาไม่ถึง
ขอให้ยืนหยัดบนสองเท้า ด้วยจิตคิดคำนึง
ว่านี่เป็นอีกวันหนึ่ง เพื่อยินดีกับชีวิตและความจริง

——

อปฺปมาโท อมตํ ปทํ    ปมาโท มจฺจุโน ปทํ
อปฺปมตฺตา น มียนฺติ    เย ปมตฺตา ยถา มตา ฯ
.
.
ความไม่ประมาทเป็นทางแห่งความไม่ตาย
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
คนไม่ประมาท ชื่อว่าย่อมไม่ตาย
คนประมาทเหมือนคนตายทั้งเป็น... ส.หลก