Honda เตรียมยุติการขายรถยนต์ดีเซลในยุโรป พร้อมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

[Achana Jrs]

ด้วยปัญหาสภาวะโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ธุรกิจยานยนต์จำเป็นต้องมีการปรับตัวครั้งสำคัญ โดยเฉพาะการคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถรองรับพลังงานทางเลือกให้ได้หลากหลายมากขึ้น วันนี้ มีข่าวความคืบหน้าของตลาดรถยนต์พลังงานสะอาด มาฝากกันครับ

Honda เตรียมหยุดจัดจำหน่ายรถยนต์ดีเซลในทวีปยุโรปภายในปี 2564 โดยจะทยอยลดจำนวนรุ่นและปริมาณการจัดจำหน่ายลง เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดรถยนต์พลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบในปี 2568

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุดที่มีแผนลดกำลังการผลิตรถยนต์ดีเซล โดยมีแผนที่จะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่เป็นตัวขับเคลื่อนเข้ามาแทนที่ เพื่อตอบสนองต่อมาตรการการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนที่หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทยอยออกกฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ออกมาเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างจริงจัง

ตามหลักเกณฑ์ของสหภาพยุโรป หรือ EU กำหนดไว้ว่า 95% ของจำนวนรถยนต์จะต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาได้เพียง 95 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของการปล่อยก๊าซในปัจจุบันสูงถึง 120 กรัมต่อกิโลเมตร และตัวเลขดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่จะขยับเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้รถยนต์ดีเซลอีกด้วย

สหภาพยุโรปจึงส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles หรือ EV) เพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศสมีแผนห้ามขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินภายในปี ค.ศ. 2040 (พ.ศ. 2583) เป็นผลทำให้ความต้องการใช้รถยนต์ดีเซลน้อยลง ประกอบกับธุรกิจในยุโรปซบเซา ต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันอย่างรุนแรงจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า Honda จึงจำเป็นต้องลดกำลังการผลิต และปิดโรงงานผลิตรถยนต์บนเกาะอังกฤษลงในปี 2564 ส่งผลให้กว่า 3,500 ชีวิตต้องตกงาน

ขณะเดียวกัน Honda ยังเตรียมปรับลดอัตราการผลิตในปัจจุบันให้เหลือเพียง 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตทั้งหมดเพื่อลดต้นทุนให้ได้ 10% และหันไปใช้เงินลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มากขึ้นแทน แต่หากฮอนด้าต้องการจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคยุโรป ก็อาจเป็นเรื่องไม่คุ้มทุน ทั้งจากต้นทุนการผลิตและต้นทุนในการสร้างแบรนด์ใหม่ในตลาด

Honda จึงวางแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและจีนแทนเพื่อใช้ส่งออกไปยังตลาดยุโรป โดยมีแผนผลิตรถยนต์รุ่นใหม่มากกว่า 20 รุ่น ภายในปี 2025 (พ.ศ. 2568) ซึ่งในจำนวนนี้จะรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดด้วย

นอกจากนี้ Honda ยังตั้งเป้าหมายที่จะใช้จีนเป็นฐานการผลิตสำคัญในการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดโลก เนื่องจากจีนเป็นแหล่งผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ต้นทุนต่ำ และมีนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน ทำให้ Honda สามารถวางแผนการตลาดรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ และพร้อมสนับสนุน ส่งเสริม และเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยดูแลรักษาโลก ให้รอดพ้นจากวิกฤติภาวะโลกร้อนได้ไปพร้อมกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก เฮง ไดเร็ค โบรกเกอร์ www.hengdirect.co.th