ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ที่มาที่ไปของการ์ตูนมังงะ

เริ่มโดย deam205, 11:24 น. 15 ก.ค 63

deam205

ผู้คนจำนวนมากอาจจะงรู้จักดีกับการอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นหรือ "มังงะ" แต่ว่าน้อยคนนักที่จะทราบดีว่า "มังงะ" มีจุดกำหนด ที่ไปที่มาอย่างไร แล้วก็ในบทความนี้จะพาไปดู เรื่องราว ที่ไปที่มาของ "มังงะ"

คำว่า"มังงะ" แปลตรงตัวว่าภาพตามอารมณ์ถูกใช้อย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรกหลังจากช่างวาดเขียนภาพแนวอุคิโยเอะ (ภาพพิมพ์แกะไม้สไตล์ญึ่ปุ่นที่นิยมในตอนศตวรรษที่ 17-20)ชื่อโฮปะทุไซเผยแพร่หนังสือชื่อโฮคุไซมังงะในคริสต์ศตวรรษที่ 19 อย่างไรก็ดีนักประวัติศาสตร์บางกรุ๊ปเห็นว่ามังงะอาจมีประวัติเป็นเวลานานกว่านั้นโดยมีหลักฐานคือภาพ "จิกะ" (แปลตรงตัวว่า"ภาพเฮฮา") ซึ่งเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 12 มีลักษณะหลามยประการละม้ายกับมังงะในปัจจุบัน เป็นต้นว่าการเน้นเนื้อเรื่องรวมทั้งการใช้เส้นที่เรียบง่ายแต่ว่าสละสลวยเป็นต้น
มังงะพัฒนามาจากการการผสมผสานศิลป์การวาดภาพแบบอุคิโยเอะกับจิตรกรรมตะวันตกความเพียรพยายามของญี่ปุ่นที่จะปรับปรุงตนเองให้ทันกับมหาอำนาจตะวันตกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ผลักดันให้ญี่ปุ่นนำเข้าวัฒนธรรมตะวันตกหลายๆต้นแบบแล้วก็การจ้างศิลปินตะวันตกมาสอนศิลปินญี่ปุ่นเกี่ยวกับส่วนประกอบในเบื้องต้นทางศิลป์ตัวอย่างเช่นเส้นรูปทรงรวมทั้งสีซึ่งการวาดภาพแบบอุคิโยเอะไม่ให้ความเอาใจใส่ด้วยเหตุว่ามีความคิดว่าความรู้สึกโดยรวมของภาพสำคัญกว่าอย่างไรก็แล้วแต่มังงะที่เป็นที่รู้จักกันในขณะนี้เริ่มก่อตัวเป็นตัวเป็นตนในระยะหลังสงครามโลกครั้งที่สองจากที่รัฐบาลญึ่ปุ่นถูกอเมริกาบังคับให้เปิดเสรีภาพแก่สื่อมวลชน

ในศตวรรษที่21 คำว่ามังงะเปลี่ยนความหมายเดิมมาเป็นหนังสือการ์ตูนอย่างไรก็ตามคนญี่ปุ่นมักใช้คำนี้เรียกหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กส่วนหนังสือการ์ตูนทั่วๆไปใช้คำว่า コミック (คอมิกส์) ซึ่งเป็นคำทับศัพท์ของ comics ในภาษาอังกฤษซึ่งหากว่าเป็นญี่ปุ่นส่วนในประเทศไทยการใช้คำว่ามังงะยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็เป็นที่รู้จักมากมายขี้นเรื่อยซึ่งปกติบ้านพวกเราจะเรียกกันว่า "หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น" มากยิ่งกว่า
มังงะมีความหมายต่อวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นและได้รับการยินยอมรับจากคนประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นวิจิตรศิลป์แล้วก็วรรณกรรมแบบหนึ่งแต่ว่าในขณะนี้มังงะเริ่มถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกรุ๊ปอนุรักษ์นิยมอีกทั้งในประเทศญี่ปุ่นและก็ต่างถิ่นอย่างมากมายว่ามีความร้ายแรงและเนื้อหาทางเพศปะปนอยู่มากอย่างไรก็ดีประเทศญี่ปุ่นก็ยังไม่มีกฎหมายจัดระบบมังงะยกเว้นข้อบังคับกำกวมฉบับหนึ่งที่กลาวทำท่วมว่า"ห้ามผู้ใดขายสื่อที่ตรงข้ามคุณความดีของสังคมกระทั่งเกินไป" เพียงแค่นั้นนักเขียนการ์ตูนในประเทศญี่ปุ่นจึงยังคงมีความอิสระที่จะเขียนมังงะที่มีเนื้อหาทุกแนวสำหรับนักอ่านทุกกลุ่ม

มังงะแบ่งได้ 5 จำพวกตามรูปแบบของนักอ่านดังเช่นว่าเด็กวัยรุ่นหญิง (โชโจะ) วัยรุ่นชาย (โชเน็น) หญิง (โจะเซ) และผู้ชาย (เซเน็น) โดยแต่ละจำพวกจะมีหน้าปกแตกต่างและไม่วางขายบนชั้นหนังสือเดียวกันทำให้คนอ่านทราบหมวดหมู่ของแต่ละจำพวกอย่างเห็นได้ชัด
รูปในมังงะจำนวนมากจะเน้นเส้นมากกว่าทรงและก็การให้แสงเงาการจัดช่องภาพจะไม่ตายตัวเหมือนการ์ตูนสี่ช่องหรือการ์ตูนช่องในหนังสือพิมพ์การอ่านมังงะจะอ่านจากขวาไปซ้ายตามวิธีแต่งหนังสือแบบเริ่มแรกของประเทศญี่ปุ่นเป็นที่น่าสังเกตว่าตัวละครในมังงะมักจะดูเหมือนกับว่าคนตะวันตกหรือไม่ก็มีความนัยน์ตาขนาดใหญ่ความใหญ่ของดวงตากลายมาเป็นจุดเด่นของมังงะแล้วก็อนิเมะตั้งแต่สมัยปี 1960 เมือโอซามุเทซุกะคนเขียนเรื่องแอสโตรบอยซึ่งได้รับการชื่นชมว่าเป็นบิดาของมังงะในปัจจุบันเริ่มวาดตาของนักแสดงอย่างนั้นโดยการเอาแบบมาจากตัวการ์ตูนของดิสนีย์อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่านักเขียนการ์ตูนทุกคนจะวาดผู้แสดงให้มีตาใหญ่เสมอไปมังงะนั้นจะถูกแยกจากการ์ตูนสไตล์คอมมิคอย่างชัดเจนเนื่องจากว่าเป็น การเขียนโดยใช้วิธีเดียวกันกับการถ่ายหนัง (cinematic style) โดยคนเขียนจะทำเขียนภาพระยะใกล้แล้วก็ระยะชิด แปลงมุมมองรวมทั้งตัดต่อรายละเอียดเรื่องราวอย่างฉับไวโดยใช้เส้นสปีดช่วยในการนำสายตา
รวมทั้งอีกปัญหาอย่างหนึ่งของมังงะเป็นต้นฉบับมักเขียนและอ่านจากขวาไปซ้ายเป็นวัฒนธรรมการอ่านของคนประเทศญี่ปุ่นเมื่อนำมาเผยแพร่ในประเทศอื่นก็เลยมีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นอ่านจากซ้ายไปขวาซึ่งทำให้นักเขียนการ์ตูนรวมทั้งนักอ่านใครหลายๆคนไม่พอใจ เพราะอาจมีผลพวงกับรายละเอียด (อาทิ การ์ตูนสืบสวน ที่ต้องให้ความสำคัญกับ ขวา หรือ ซ้าย หรือในสมัยเก่า อำเภอซึติดอยู่สะ โฮโจ ก็ไม่ยอมให้ ซาเอบะ เรียว ตัวเอกจากเรื่องซิตี้ฮันเตอร์ ถือปืนมือซ้าย ก็เลยไม่ขาย ลิขสิทธ์ให้กับสถานที่พิมพ์ที่ทำงานกลับด้านการ์ตูนเด็ดขาด) ดังนั้นเดี๋ยวนี้สำนักพิมพ์หลายที่ในต่างแดน (รวมถึงประเทศไทย) ก็เลยเริ่มพิมพ์มังงะให้อ่านจากขวาไปซ้ายตามต้นฉบับประเทศญี่ปุ่นโดยในปัจจุบันมังงะที่ตีพิมพ์ในไทยกว่า 90 % กลายเป็นแบบญี่ปุ่นหมดแล้ว เหลือแต่ซีรี่ส์ยาวที่ยังไม่จบบางเรื่อง และการ์ตูนญี่ปุ่นที่ต้นฉบับพิมพ์แบบซ้ายไปขวามาตั้งแต่ต้น (ดังเช่นการ์ตูนเรื่อง สับสนคนบ้าเกม ที่ต้นฉบับญี่ปุ่นพิมพ์แบบซ้ายไปขวา)

สำหรับประเทศไทยมังงะเข้ามาในบ้านพวกเรานานมากโดยเริ่มจากยุคการ์ตูนเล่มใหญ่ การ์ตูนฮีโร่ทีวี มาจนถึงยุคโดราเอม่อนบูมที่มีตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เริ่มมรการซื้อมังงะลิขสิทธิ์ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการในตอนปี 2536-2538 (ก่อนนั้นก็มีข่าวว่ามีการ์ตูนบางเรื่องที่มีลิขสิทธิ์ แม้กระนั้นไม่มีหลักฐานการันตีกระจ่าง) ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นแปลกใหม่ทำให้มังงะครอบครองใจชาวไทยโดยยิ่งไปกว่านั้นเด็กๆได้อย่างอยู่มือนำมาซึ่งการทำให้ปัจจุบันมีบริษัทผลิตมังงะใหญ่น้อยเข้ามาแข่งในตลาดมากขึ้น
มังงะที่คนไทยส่วนมาก(ย้ำว่าโดยมาก)รู้จักตัวอย่างเช่น โดราเอมอน,ดราก้อน.,เซนต์เซย่า,ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน,ซึบาสะฯลฯ ซึ่งส่วนมากมังงะยอดนิยมในบ้านพวกเราจะมีความสัมพันธ์กับการ์ตูนอนิเมที่ฉายทางโทรทัศน์บ้านเรา ด้วยเหตุว่าเป็นที่แน่นอนว่า มังงะเรื่องที่บรรลุความสำเร็จ ก็จะถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งการ์ตูนอนิเมทีวีจะช่วยโฆษณาให้การ์ตูนมังงะเรื่องนั้น ต่อให้มีมังงะเข้ามาในประเทศพวกเรานับพันนับหมื่นเรื่อง แม้กระนั้นเวลาพวกเรากล่าวถึง "การ์ตูนญี่ปุ่น" โดราเอม่อน,ดราก้อน.,โคนัน ชอบเป็นชื่อแรกๆที่พวกเรารำลึกถึงเสมอ

รวมทั้งนี้ก็คือ เรื่องราว ที่มาที่ไปของ "มังงะ" ถ้าจะว่าไปแล้ว แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร แต่ "มังงะ" ก็ยังคงครอบครองใจบุคคลทุกวัยอยู่ เพราะเหตุว่าอาจจะเป็นเพราะความสนุกแทรกวัฒนธรรมด้วย ก็เป็นไปได้มั้งงะ