ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รู้ทัน อาการโรคนิ่วในไต และทางเลือกในการรักษา

เริ่มโดย เอยู, 11:44 น. 30 ก.ค 63

เอยู

โรคนิ่วในไต เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เนื่องจาก ไต เป็นอวัยวะสำคัญที่มีหน้าที่หลักคือกรองของเสียที่อยู่ในเลือด และขับถ่ายออกนอกร่างกายทางปัสสาวะ การมีนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะยังส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การรู้ทันโรคนี้ช่วยให้เราป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคนิ่วในไตได้

โรคนิ่วในไต คืออะไร ?
นิ่วในไต คือ การตกผลึกของสารก่อนิ่วในไต เช่น แร่ธาตุ เกลือ แคลเซียม กรดออกซาลิก และกรดยูริก ในปัสสาวะจนเกิดการเกาะตัวเป็นก้อนมีขนาดที่แตกต่างกัน อาจเกิดขึ้นก้อนเดียวหรือหลาย ๆ ก้อน พบได้ตลอดระบบทางเดินปัสสาวะ และเป็นโรคที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่ผู้ชายอาจมีโอกาสเป็นได้มากกว่าผู้หญิง  

สาเหตุของโรคนิ่วในไต
นิ่วในไต เป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวดทรมานให้ผู้ป่วยอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่จนไปปิดกั้นและเกิดแผลที่ท่อไต อาจส่งผลให้ปัสสาวะออกมาเป็นเลือดได้ ส่วนสาเหตุการเกิดนิ่วในไตยมีปัจจัยซึ่งส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมของผู้ป่วย เช่น

การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น เกลือ น้ำตาล และ อาหารที่มีโปรตีนสูง
ดื่มน้ำน้อย หรือดื่มน้ำไม่มากพอในแต่ละวัน
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
สาเหตุเกิดจากโรคประจำตัวที่เป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น ความดัน เบาหวานโรคเกาท์ หรือไทรอยด์ ทำให้ต้องทานยาเป็นประจำ
อาหารบางชนิดทำให้เกิดนิ่วในกลุ่มที่เสี่ยง เช่น ก้อนนิ่วจากแคลเซียม เป็นสารที่มักพบในอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ ส้ม  ผักใบเขียว ถั่ว เต้าหู้ น้ำนมเต้าหู้  โซดา ชา เบียร์ หรือ กาแฟ ก้อนนิ่วจากกรดยูริก พบในผู้ป่วยโรคเกาท์หรือผู้ป่วยที่กำลังเข้ารับการเคมีบำบัด  นิ่วสตรูไวท์ ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงที่มีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ และ ซีสทีน นิ่วชนิดนี้เกิดขึ้นได้ทั้งกับเพศชายและเพศหญิงที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมของซีสทีน
อาการของโรคนิ่วในไต
อาการของนิ่วในไตอาจไม่ปรากฏให้เห็น หากก้อนนิ่วนั้นมีขนาดเล็กมาก ๆ เพราะสามารถหลุดออกไปพร้อมกับการขับปัสสาวะ แต่หากก้อนนิ่วเคลื่อนตัวไปยังท่อไตซึ่งเป็นท่อเชื่อมต่อระหว่างไต และ กระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ได้ 

ปัสสาวะเป็นสีเข้ม อาจมีสีแดง ชมพู น้ำตาล หรือปัสสาวะเป็นเลือด
ปวดบริเวณหลังหรือช่องท้องด้านล่างข้างใดข้างหนึ่ง อาจปวดร้าวลงไปถึงบริเวณขาหนีบ มีอาการปวดบีบเป็นระยะ และปวดรุนแรงเป็นช่วง ๆ
ปวดปัสสาวะบ่อย แต่ปัสสาวะน้อยและเจ็บ
ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นแรง
อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หนาวสั่น และมีไข้


การรักษาและทางเลือกในการรักษานิ่วในไต
การรักษา นิ่วในไต ทำได้หลายวิธี และสามารถรักษาให้หายได้ขึ้นอยู่กับชนิดของก้อนนิ่วและสาเหตุการเกิด สำหรับการรักษาและทางเลือกในการรักษานิ่วในไต ทำได้ดังนี้

การรักษานิ่วในไตที่มีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 มิลลิเมตร อาจทำได้โดยการดื่มน้ำมาก ๆ ในแต่ละวัน นอกจากทำให้ปัสสาวะเจือจางจนไม่มีเหลืองหรือสีน้ำตาล ยังช่วยขับก้อนนิ่วออกไปพร้อมกับปัสสาวะอีกด้วย
ก้อนนิ่วที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตรขึ้นไป อาจทำให้เกิดแผลที่ท่อไตหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และไม่สามารถหลุดออกมาเองได้ การรักษาทำได้ ดังนี้
ใช้แรงสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงทำให้นิ่วแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ จนสามารถผ่านออกทางการขับปัสสาวะได้ วิธีนี้เหมาะสำหรับก้อนนิ่วที่มีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร
ก้อนนิ่วที่มีขนาดไม่เกิน 3 เซนติเมตร สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดด้วยการใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็กและเครื่องมือสอดเข้าไปบริเวณหลังของผู้ป่วย วิธีนี้ผู้ป่วยต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 วัน
สำหรับก้อนนิ่วที่มีขนาดไม่เกิน 3 เซนติเมตร อาจเลือกรักษาด้วยการส่องกล้อง เพื่อฉายลำแสงแคบผ่านหลอดปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ แล้วใช้เครื่องมือชนิดพิเศษจับหรือทำให้ก้อนนิ่วแตกตัวเป็นชิ้นเล็กจนสามารถถูกขับออกมาทางเดินปัสสาวะได้


วิธีป้องกันตนเองจากโรคนิ่วในไต
ปกติร่างกายของคนเราต้องการน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง ให้ดื่มน้ำมากกว่าวันละ 8 แก้ว หรือ ทำให้ปัสสาวะออกมากกว่าวันละ 2.5 ลิตร
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางสุขภาพของตัวเอง วิธีที่ทำได้ง่าย ๆ คือการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำที่ถูกต้องควรใช้วิธีจิบน้ำบ่อย ๆ 
การดื่มน้ำมะนาววันละแก้ว ช่วยป้องกันนิ่วในไต ที่เกิดจาก เกลือ และแคลเซียม ได้
หมั่นสังเกตความเข้มข้นและสีของปัสสาวะระหว่างวัน ยกเว้นช่วงเช้าหลังตื่นนอนใหม่ ๆ เพราะร่างกายมักขับของเสียออกมาอยู่แล้ว
การรับประทานอาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในไตได้ โดยพยามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง เช่น ช็อกโกแลต นมถั่วเหลือง ชา มันฝรั่งหวาน บีทรูท กระเจี๊ยบเขียว หน่อไม้ฝรั่ง เบอร์รี่ ผักโขม ถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ
นิ่วในไตเป็นปัญหาสุขภาพที่นอกจากสร้างความทุกข์ใจให้กับผู้ป่วย ยังเป็นโรคที่ทำให้เจ็บปวดทรมาน การเรียนรู้วิธีป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคนี้ จึงเป็นการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากนิ่วในไตที่ดีที่สุด


ขอบคุณบทความจาก https://aufarm.shop/kidney-stones/
ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://aufarm.shop/