นักวิชาการชี้โลตัสกลับสู่มือคนไทย ผลดีต่อค้าปลีกในประเทศ

[supergreat]

ค้าปลีกไทยในปัจจุบันต้องเผชิญกับวิกฤตจากค้าปลีกต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้เล่นระดับโลกที่รุกเข้ามาขยายตลาดในเมืองไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ และอีคอมเมิร์ซ ซึ่งค้าปลีกไทยทุกระดับตั้งแต่โชห่วย ไปจนถึงโมเดิร์นเทรดต่างต้องหาทางปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

รศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของผู้ประกอบการต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้เล่นดิจิทัลระดับโลกหลายรายที่จดทะเบียนบริษัทในต่างประเทศ ได้เข้ามายึดส่วนแบ่งตลาดไฮเปอร์มาร์ทในไทย นำไปสู่การค้าออนไลน์ ทำให้ข้อมูลผู้บริโภคไทยหลุดออกไปต่างประเทศ นอกจากนั้นในด้านของรายได้ ยังทำให้ไทยไม่สามารถเรียกเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงการนำกำไรในรูปของการปันผลกลับไปยังต่างประเทศ



อย่างไรก็ตาม หนึ่งในทิศทางที่น่าสนใจของตลาดไฮเปอร์มาร์ทในไทย น่าจะมีสัญญาณบวกมากขึ้น จากการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ทุ่มงบ 239,953 ล้านบาท ประมูลชนะซื้อเทสโก้โลตัสในประเทศไทยและมาเลเซีย จากกลุ่มเทสโก้ ประเทศอังกฤษ กลับคืนมาเป็นธุรกิจสัญชาติไทยได้เหมือนเดิม เพราะการกลับมาอยู่ในมือคนไทย จะทำให้กลยุทธ์การค้าเปลี่ยนจากการได้กำไรสูงสุดเพื่อการปันผล มาเป็นการลงทุนเพื่อการเติบโต ซึ่งจะเปิดช่องทางการขายผู้ค้าในประเทศไทยมีโอกาสมากขึ้น

"บทบาทของไฮเปอร์มาร์ทเปรียบได้กับเส้นเลือดใหญ่ ที่คอยกระจายเลือดและสารอาหารสู่อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย และทำหน้าที่คอยสนับสนุนกระดูกสันหลัง ที่หมายความถึงอาชีพที่เป็นเสาหลักของประเทศ คือ เกษตรกร อาจรวมไปถึงผู้ผลิตสินค้า ให้สามารถกระจายสินค้าไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศได้ รวมไปถึงการจ้างงาน ส่งเสริมให้คนประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในประเทศดีขึ้น เส้นเลือดใหญ่นี้มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนในประเทศ หากมีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ จะเป็นต้นเหตุสำคัญทำให้เลือดที่นำพาสารอาหารไหลออกนอกร่างกาย จะดีกว่าหรือไม่ที่เส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทยเราจะกลับมาเป็นเราเอง"

รศ.ดร.วิเลิศ มองว่า เครือซีพีซื้อกิจการกลับมา เพราะต้องการเรียนรู้ Know-how วิธีสร้างธุรกิจค้าปลีกให้เป็นแบรนด์ค้าปลีกระดับโลก และหวังว่าธุรกิจค้าปลีกจะมีแบรนด์ของคนไทย รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศได้ด้วย

"การซื้อครั้งนี้เสียเงินไปมหาศาล หวังว่าเงินที่เสียไปจะคุ้มค่ากับการนำกลับเข้ามาพัฒนาประเทศ และน่าจะเชื่อได้ว่า ถ้าซีพีซื้อดีลอย่างนี้ ต้องมีการจ้างงานในประเทศมากขึ้น ใช้แรงงานมากขึ้น ส่งเสริมสินค้าในประเทศไปวางขายในเทสโก้มากขึ้น ไม่มีนโยบายกีดกัน เพราะสอดคล้องกับกลยุทธ์และทิศทางของเครือซีพีที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งนั่นคือการขับเคลื่อน ที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยในภาพรวมดีขึ้นด้วย"

ทั้งนี้ เครือซีพีได้วางบทบาทของไฮเปอร์มาร์ทอย่าง "โลตัส" ให้เข้ามาช่วยขยายภาคธุรกิจค้าปลีกของไทย ในฐานะช่องทางจำหน่ายสินค้าโอท็อป เอสเอ็มอี และขยายส่งสินค้าไปในต่างประเทศ โดยมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน ที่จะช่วยกระตุ้นการจ้างแรงงานและสร้างงานในระบบเพิ่มขึ้น ซี่งจะผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19

https://www.youtube.com/watch?v=9cc8hzZjV6s

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านโยบายของเครือซีพีจะผลักดันให้ธุรกิจค้าปลีกเติบโตและยั่งยืนได้เพียงไร ก็ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกับนโยบายของภาครัฐด้วย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจกิจค้าปลีก การสร้างแบรนด์ การทำบรรจุภัณฑ์สร้างมูลค่า ซึ่งจะทำให้ธุรกิจค้าปลีกในไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ร้านค้าปลีกอาจมีบทบาทน้อยลง หลังจากโควิด-19 เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งธุรกิจที่ทำอยู่ต้องมี New Market New Business ร้านค้าปลีกต้องปรับตัว ให้มีทั้งออฟไลน์ (Offline) และออนไลน์ (Online) หรือ ไลฟ์ไลน์ (Lifeline) หรือเส้นชีวิตของลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงจุด   

----------------------