คนบ้านเรารู้จัก"บุฟเฟ่"แค่ไหน?

[คนบ้านๆ]

วันก่อนไปกินหนมจีนบุฟเฟ่ เห็นแล้วอายแทนจริงๆ กินเยอะเจ้าของเขาคงไม่ว่าหรอก แต่ประเภทตักจนล้นจานตักมาแล้วกินไม่หมดต้องทิ้ง...เสียของ
ถ้ายังจำกันได้เมื่อ4-5ปีก่อนเคยมีร้านก๋วยเตี๋ยวบุฟเฟ่ 29 บาทเปิดแถวๆตลาดโก้งโค้ง อยู่ไ้ด้ไม่กี่เดือนต้องบ๊ายบาย เพราะเจ้าของร้านคำณวนผิดคิดว่าคนหาดใหญ่คงกินแต่พออิ่มกินหมดแล้วค่อยเพิ่ม ที่ไหนได้พวกเล่นกินแบบ"ยัดใส่ท้อง"คนละไม่ต่ำกว่า4-5ชาม บางคนล่อเป็น10 ส่วนใหญ่ถ้วยสุดท้ายจะเหลือ แล้วก็ต้องเททิ้ง
คงซื้งไปอีกนานว่าคนเมืองนี้หาคนที่รู้จักคำว่า"บุฟเฟ่"มีไม่มากหรอก
ผมเคยตามเจ้านายไปพักโรงแรมชั้นหนึ่งที่หัวหิน ตอนเช้ามีบุฟเฟ่เห็นคนฝรั่งต่างชาติเข้าแถวรอตักอาหารอย่างเป็นระเบียบแม้แต่เด็กตัวเล็กๆก็ต้องเข้าคิวกะเขาด้วย(ฝึกมาดีหรือเป็นในสายเลือด???)ตอนตักอาหารเห็นเขาตักกันอย่างละชิ้น2ชิ้น
1.เพื่อความรวดเร็ว เกรงใจคนข้างหลัง
2.ตักแค่พอกิน
นั่งดูพวกเขากินไม่เห็นเขารีบร้อนอะไรเลย หมดแล้วก็ค่อยๆลุกไปตักใหม่
ผิดกับบ้านเรา"บุฟเ่ฟ่"คือการกินล้างกินผลาญอย่างสะใจ ถ้าเจ้าของเจ๊งค่อยสมน้ำหน้า
อยากหาเรื่องเองช่วยไม่ได้.....มั้ง?

[อิ อิ]

ไม่ต้องกลัวไปหรอก เพราะ ไอบุฟเฟ่ต์ ถ้าไม่มีกำไรเค้าไม่ทำกันหรอกคับ

อย่างที่หาดใหญ่ ก็เห็นได้จากร้าน ชาบูจิ กับ โอโออิ หรือแม้แต่หมูกะทะ

เพราะสุดท้ายที่้รานชาบูจิ หรือ โอโออิ เค้าก็มีเวลาจำกัดให้เรากิน

ส่วนหมูกะทะ เ้ค้าก็มีค่าน้ำที่เก็บเพิ่มต่างหาก

ยังไงซะ เราก็ไม่กินจนท้องแตกหรอก

และถ้าคุณคิดว่าที่คนหาดใหญ่ หรือ คนไทย เป็นคนที่ไม่มีมารยาทในการกินหละก็ คุณลองดูคลิปนี่แล้วกัน

เพราะ ที่จีนนี่แรงกว่าเยอะ

http://www.youtube.com/watch?v=7qsuSWq7By8&feature=player_embedded

[ตัวโม2]

บุฟเฟต์ที่หาดใหญ่มีตรงไหรอีกบ้างครับ

[PoPoz]

ปกติเค้าก้อมีค่าปรับอยุ่แล้วนี่ครับ ถ้าตักมาแร้วกินเหลือ เหมือนอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วถ้าลุกค้ากินไม่หมดก้อไม่รุ้เอาไหนน่ะผมว่า                                                                                                                           

[คนเก็บฝืน]

ร้าน ขนมจีน บุฟเฟ่ 49 บาท

ขายยังไงอะครับ

กินเท่าไหร่ก็ได้ หรือ ว่าตักได้แค่ ครั้งเดียว

[ควายตัวหนึ่ง]

วันก่อนไปกินหนมจีนบุฟเฟ่ เห็นแล้วอายแทนจริงๆ กินเยอะเจ้าของเขาคงไม่ว่าหรอก แต่ประเภทตักจนล้นจานตักมาแล้วกินไม่หมดต้องทิ้ง...เสียของ
ถ้ายังจำกันได้เมื่อ4-5ปีก่อนเคยมีร้านก๋วยเตี๋ยวบุฟเฟ่ 29 บาทเปิดแถวๆตลาดโก้งโค้ง อยู่ไ้ด้ไม่กี่เดือนต้องบ๊ายบาย เพราะเจ้าของร้านคำณวนผิดคิดว่าคนหาดใหญ่คงกินแต่พออิ่มกินหมดแล้วค่อยเพิ่ม ที่ไหนได้พวกเล่นกินแบบ"ยัดใส่ท้อง"คนละไม่ต่ำกว่า4-5ชาม บางคนล่อเป็น10 ส่วนใหญ่ถ้วยสุดท้ายจะเหลือ แล้วก็ต้องเททิ้ง
คงซื้งไปอีกนานว่าคนเมืองนี้หาคนที่รู้จักคำว่า"บุฟเฟ่"มีไม่มากหรอก
ผมเคยตามเจ้านายไปพักโรงแรมชั้นหนึ่งที่หัวหิน ตอนเช้ามีบุฟเฟ่เห็นคนฝรั่งต่างชาติเข้าแถวรอตักอาหารอย่างเป็นระเบียบแม้แต่เด็กตัวเล็กๆก็ต้องเข้าคิวกะเขาด้วย(ฝึกมาดีหรือเป็นในสายเลือด???)ตอนตักอาหารเห็นเขาตักกันอย่างละชิ้น2ชิ้น
1.เพื่อความรวดเร็ว เกรงใจคนข้างหลัง
2.ตักแค่พอกิน
นั่งดูพวกเขากินไม่เห็นเขารีบร้อนอะไรเลย หมดแล้วก็ค่อยๆลุกไปตักใหม่
ผิดกับบ้านเรา"บุฟเ่ฟ่"คือการกินล้างกินผลาญอย่างสะใจ ถ้าเจ้าของเจ๊งค่อยสมน้ำหน้า
อยากหาเรื่องเองช่วยไม่ได้.....มั้ง?

คุณไปดูบุฟเฟ่ ในโรงแรมของหาดใหญ่ก็ไม่เห็นมีแบบที่คุณว่าเลย ชอบเลียตูดฝรั่ง ผมยังเคยเห็นฝรั่งขอทานเลย

[PoPoz]

ฮ่าๆฝรั่งชอบตักตาล่อก็เยอะ คิคิ                             

[Premier]

ก่อนที่จะเปิดร้านอะไร ควรจะศึกษาเรียนรู้วัฒนธธรรม หรือการใช้ชีวิตของคนในเมืองนั้นให้ดีก่อน
ไม่ใช่พอเปิดแล้ว ขายไม่ได้ ก็มาโทษว่า คนเมืองนี้ไม่รู้จัก ไม่รู้เรื่อง
ในหาดใหญ่มีหลายที่ ที่เปิดเป็นบุฟเฟ่ แต่เขารู้ว่าควรตั้งราคาอย่างไร เปิดอย่างไร ให้คุ้มค่า   
บางร้านมาเปิดแบบแบบไม่คิด  ไม่มีความรู้เรื่องการเปิดบุฟเฟ่  แต่อยากจะเปิด
อยากให้ คนที่เปิดร้านแบบบุฟเฟ่ ไปหาคำตอบมาก่อน ว่าบุฟเฟ่ คืออะไร
ไม่ใช่เปิดบุฟเฟ่แล้วมาคอยนั่งจับคนตักอาหารไม่ให้ตักเยอะ กินเยอะก็ไม่ได้
คนที่ไม่รู้จัก และไม่รู้ว่าบุฟเฟ่คืออะไร น่าจะเป็นคนที่มาตั้งกระทู้นี่แหละ คนหาดใหญ่เขารู้จักบุฟเฟ่มานานแล้ว
แต่ไม่เคยเห็นร้านที่อยากจะเปิดบ้าง แต่ไม่ดูความสามารถของตัวเอง แล้วมาบ่น..

[naneesa บุฟเฟ่]

ลองไปกินที่ naneesa บุฟเฟ่ ซิ เป็นร้านอิสลาม อาหารสะอาด สะดวกที่จอดรถ แถมมีที่ละหมาดให้กับคนมุสลิมด้วยบรรยากาศก้อดี คนไม่ค่อยแน่น กินได้สบายๆไม่แออัด สนใจเชิญได้เลนค่ะ ถนนช่องเขา ข้างโลตัสหาดใหญ่ เจอไฟแดงแรกเลี้ยวขวา ร้านอยู่ฝั่งซ้ายมือ 082-8200399

[PoPoz]

ก่อนที่จะเปิดร้านอะไร ควรจะศึกษาเรียนรู้วัฒนธธรรม หรือการใช้ชีวิตของคนในเมืองนั้นให้ดีก่อน
ไม่ใช่พอเปิดแล้ว ขายไม่ได้ ก็มาโทษว่า คนเมืองนี้ไม่รู้จัก ไม่รู้เรื่อง
ในหาดใหญ่มีหลายที่ ที่เปิดเป็นบุฟเฟ่ แต่เขารู้ว่าควรตั้งราคาอย่างไร เปิดอย่างไร ให้คุ้มค่า   
บางร้านมาเปิดแบบแบบไม่คิด  ไม่มีความรู้เรื่องการเปิดบุฟเฟ่  แต่อยากจะเปิด
อยากให้ คนที่เปิดร้านแบบบุฟเฟ่ ไปหาคำตอบมาก่อน ว่าบุฟเฟ่ คืออะไร
ไม่ใช่เปิดบุฟเฟ่แล้วมาคอยนั่งจับคนตักอาหารไม่ให้ตักเยอะ กินเยอะก็ไม่ได้
คนที่ไม่รู้จัก และไม่รู้ว่าบุฟเฟ่คืออะไร น่าจะเป็นคนที่มาตั้งกระทู้นี่แหละ คนหาดใหญ่เขารู้จักบุฟเฟ่มานานแล้ว
แต่ไม่เคยเห็นร้านที่อยากจะเปิดบ้าง แต่ไม่ดูความสามารถของตัวเอง

วิเคราะได้ทะลุปลุโปร่งจริงๆครับ                                 

[มือใหม่]

(เรื่องเกิดที่ประเทศจีนเหมือนกัน)คนในหมู่บ้าน99คนไปดักรอขโมยถ่านหินตอนรถไฟวิ่งผ่านมา อีก1คนไม่เคยไปกะเขาเลย สรุปว่าไอ้เจ้า1คนนี้คือผู้ไม่เจริญได้ไหม?

[ช่างอ็อดซ่อมทีวีหาดใหญ่]

เค้าอยู่ได้...  เราอยู่ได้สบาย   อย่าไปซีเรียสเลยครับ   

[mulinho]

ขอบคุณครับ

[Premier]

(เรื่องเกิดที่ประเทศจีนเหมือนกัน)คนในหมู่บ้าน99คนไปดักรอขโมยถ่านหินตอนรถไฟวิ่งผ่านมา อีก1คนไม่เคยไปกะเขาเลย สรุปว่าไอ้เจ้า1คนนี้คือผู้ไม่เจริญได้ไหม?

คนในหมู่บ้าน เขาไม่เคยสนใจเรื่องนี้ว่า ไอ้คนที่ไม่ไปดักรอ มันจะเป็นผู้ไม่เจริญหรือเจริญแล้ว
แต่จะมีคนนอกหมู่บ้าน ที่เสือกอยากจะเข้าไปวุ่นวาย ไปด่าเขาว่าไม่เจริญ ทั้งที่หมู่บ้านเขาอยู่ด้วยความสงบสุขกันดี
อย่ามาอวดว่าตัวเองดี ตัวเองเจริญแล้ว  แล้วสรุปว่าคนอื่นไม่เจริญเหมือนตน  คนที่คิดอย่างนี้แหละคนที่ยังไม่เจริญที
ทำอะไรไม่ได้ ก็โทษว่าคนอื่น แทนที่จะมองตัวเอง

[ฝนซาแล้ว]

 
ไม่จ๋งจั๋ยอีกแล้วว่าทำไมประเทศนี้ถึงมีแต่เรื่องเถื่อนๆ 

[ขุนศึก]

ปัญหาน่าจะอยู่ที่การบริหารจัดการที่ว่าด้วยกฎของร้าน บุปเฟ่ที่ไหนก็มีกฎ และกฎแต่ละที่ก็อาจไม่เหมือนกัน นิสัยและพฤติกรรมของลุกค้าจะเป็นตัวกำหนดกฎ และหากออกกฎไว้แล้วก็ควรจะติดประกาศให้เห็นเป็นเด่นชัด เช่น เรื่องตักเหลือแล้วปรับ กฎอื่นๆก็เช่น เรื่อง ทิปโดยสมัครใจ หรือ เซอร์วิซชาร์ตในราคาอาหาร เป็นต้น


มีเรื่องเล่าของชายฝรั่งสองสัญชาติ ที่เดินทางมาบรรจบกันในร้านแห่งหนึ่งในประเทศไทย ชายคนที่หนึ่งมาจากอังกฤษ ชายคนที่สองมาจากอเมริกา ทั้งสองนั่งกันคนละโต๊ะแต่ไม่ไกลเกินมองเห็น บริกรเข้ามารับออเดอร์จากชายคนที่หนึ่งและคนที่สองตามลำดับ ทั้งสองสั่งเสต็กเนื้อสันคนละจาน เมื่ออาหารมาถึงชายคนที่หนึ่งละเมียดตัดจากเนื้อเสต็กชิ้นใหญ่เป็นชิ้นพอคำโดยคงเหลือส่วนใหญ่เอาไว้แล้วใส่ปาก แต่ชายคนที่สองกลับตัดเสต็กทั้งหมดให้เป็นชิ้นพอคำโดยไม่เหลือสภาพเนื้อเสต็กชิ้นใหญ่เลย เมื่อทั้งสองทานเสร็จก็สั่งเช็คบิล ขณะชายคนที่หนึ่งกำลังจะออกจากร้าน บริกรขี้สงสัยจึงถามว่า

บริกร : ท่านครับ ทำไมท่านถึงกินเสต็กแบบตัดทีละชิ้นหล่ะครับ

ชายคนที่หนึ่ง : ชั้นมาจากอังกฤษการตัดกินทีละคำเป็นมารยาทสำหรับการกินเสต็กแบบนี้

บริกร : ก็ถามว่าแล้วท่านเห็นผู้ชายโต๊ะข้างๆท่านไหมครับ การตัดทั้งหมดในคราวเดียวแล้วกินแบบนั้นก็ไม่มีมารยาทสิครับ

ชายคนที่หนึ่ง : หันไปมองโต๊ะตามที่บริกรถามหนึ่งครั้งแล้วบอกว่าใช่ นั่นมันไม่มีมารยาทมากๆเลย ว่าแล้วก็ส่งยิ้มให้กับบริกรแล้วออกจากร้านไป

ต่อมาไม่นานชายคนที่สองก็ลุกขึ้นจะออกจากร้าน บริกรก็รีบวิ่งไปทำหน้าที่คอยเปิดประตูส่งแขกเหมือนเดิม แต่ด้วยความสงสัยจึงอดที่จะถามชายคนที่สองด้วยไม่ได้

บริกร : ท่านครับทำไมท่านถึงตัดเสต็กทั้งหมดในคราวเดียวแทยที่จะตัดทีละชิ้น ชิ้นละคำหล่ะครับ

ชายคนที่สอง : เพราะชั้นเป็นคนอเมริกัน ที่นั่นผู้คนมีชีวิตที่เร่งรีบและเร่งด่วน การตัดทั้งหมดให้เสร็จแล้วกินทีเดียวนั่นเป็นวัฒนธธรรมของประเทศชั้น

บริกร : แต่ท่านครับ ชายคนที่ลุกไปก่อนหน้าท่านเค้าบอกว่าการกินแบบนั้นมันไม่มีมารยาทนะครับ

ชายคนที่สอง : ไม่หรอก มันขึ้นอยู่กับว่า คนๆนั้นเติบโตมาอย่างไร ครอบครัวและสังคมของเขาเป็นอย่างไร อย่างที่ชั้นบอกเธอไง ที่บ้านของชั้นประเทศของชั้นทุกนาทีคือการแข่งขัน การตัดกินแบบชั้นกิน จะทำให้มีเวลาไปทำอย่างอื่นต่อได้เร็วขึ้น การที่มีเวลามากขึ้นนั่นหมายถึงเธอก็สามารถทำอะๆไรได้มากขึ้น และถ้าหากชั้นบอกเธอว่าการตัดทีละชิ้นเคี้ยวหมดแล้วตัดใหม่แบบคนอังกฤษนั้นเป็นการกระทำของคนโง่ที่ไม่รู้จักคุณค่าของเวลาหล่ะ เธอจะว่าอย่างไร

บริกร : ก็คงจริงครับท่าน เพราะแต่ละคนคงมีที่มาที่ไปต่างกัน ผมเองหลงเข้าใจว่าฝรั่งทุกคนจะต้องมีวิธีกินเสต็กที่เหมือนกันไปหมด จนลืมคิดไปว่าเชื้อชาติ ภาษา สังคมก็มีส่วนในการกำหนดวัฒนธรรมของคนๆนั้น การที่คนส่วนใหญ่ยึดถือทำกันเราก็เลยไปเรียกว่าวัฒนธรรมของคนส่วนใหญ่หรือมารยาท แต่วัฒนธรรมที่คนส่วนน้อยทำเรากลับไปเรียกว่าไม่มีวัฒนธรรมหรือไม่มีมารยาท มันช่างเป็นการไม่ยุติธรรมซะเลยนะครับ ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับท่าน 

ชายคนที่สอง : ก็ส่งยิ้มแล้วเดินออกจากร้านไป