ฉลามชลแชมป์ถ้วยก.ชนะดวลโทษหลังเจ๊าในเกม2-2

[ฅนสองเล]

"ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี พลิกสถานการณ์ตามเจ๊า "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วงทดเจ็บ 2-2 ก่อนจะดวลจุดโทษชนะ 4-3 พลิกเอาชนะไปด้วยสกอร์ 6-5 คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก พรีเซนเต็ด บาย โคคา-โคลา ประจำปี 2555 ไปครอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-2 ชลบุรี เอฟซี (ชลบุรีชนะดวลจุดโทษ4-3สกอร์รวม6-5)

ศึกชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก พรีเซนเต็ด บาย โคคา-โคลา ประจำปี 2555 ถือเป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองทีมในรายการนี้ ซึ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้สิทธิ์ในฐานะแชมป์ไทยลีก และมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ขณะที่ชลบุรี เอฟซี เป็นรองแชมป์ไทยลีก

โดยฝั่ง "ปราสาทสายฟ้า" เข้าชิงถ้วย ก เป็นสมัยแรก แต่เป็นการลุ้นถ้วยแชมป์ใบที่ 5 ในช่วงฤดูกาล 2011-2012 หลังจากที่ก่อนหน้านี้คว้าแชมป์ไทยลีก, มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ, โตโยต้า ลีก คัพ และโตโยต้า พรีเมียร์ คัพ มาครองได้ก่อนแล้ว ส่วน ชลบุรี เอฟซี เข้าชิงเป็นสมัยที่ 4 ซึ่ง 3 ครั้งที่ผ่านมา ชลบุรีคว้าแชมป์ได้ทั้ง 3 สมัย

สำหรับเกมนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งเปิดบ้านชนะแชมป์เจลีกจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง คาชิวะ เรย์โซล 3-2 ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 เมื่อกลางสัปดาห์ กำลังมั่นใจและสภาพทีมสมบูรณ์ไม่มีปัญหาบาดเจ็บ โดย 11 ผู้เล่นใช้ชุดเก่งลงสนาม ในระบบ 4-3-3 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, กองหลังจากขวา อภิเชษฐ์ พุฒตาล, เอ็คเคลล่า เฮอร์แมน, ประทุม ชูทอง และ ธีราทร บุญมาทัน

กองกลาง อัสก้า จาเดลอฟ เดินเกมร่วมกับ จักรพันธ์ แก้วพรม ปล่อยให้ "เจ้าตั๊ก" สุมัญญา ปุริสาย รับบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ ส่วน แฟร้งค์ อาเชียมปง กับ จิรวัฒน์ มัครมย์ ยังคงเป็นริมเส้นซ้ายและขวาตามลำดับ โดยวาง แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า ล่าตาข่ายคนเดียว

ทางด้าน "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเพิ่งลงเล่นเมื่อกลางสัปดาห์เช่นกัน ในศึกเอเอฟซี คัพ 2012 ปรากฏว่าบุกไปตามตีเสมอ ย่างกุ้ง เอฟซี ทีมจากประเทศเมียนมาร์ 1-1 ทำให้สภาพร่างกายนักเตะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร นอกจากนั้นตัวผู้เล่นหลักฝั่งซ้ายอย่าง ณัฐพงษ์ สมณะ กับ อนุชา กิจพงษ์ศรี มีอาการบาดเจ็บ ลงสนามไม่ได้ทั้งคู่ ขณะที่ อดุลย์ หละโสะ บาดเจ็บนิ้วเท้าไม่ฟิตเต็มร้อย เช่นเดียวกับ พิภพ อ่อนโม้ กองหน้ากัปตันทีม

สำหรับ 11 ผู้เล่นของชลบุรี เอฟซี ในระบบ 4-4-2 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กองหลังจากขวา โฟเด้ ไดกิเต้, สุทธินันท์ พุกหอม, ชลทิตย์ จันทคาม และ นพนนท์ คชพลายุกต์ แดนกลางส่ง อดุลย์ หละโสะ ตัดเกมร่วมกับ เจฟฟี่ ดูม็อง และขนาบข้างขวา-ซ้าย เทิดศักดิ์ ใจมั่น กับ สุรีย์ สุขะ ส่วนคู่กองหน้า "ลูโด้" ลูโดวิค ทาคาม จับคู่กับ พิภพ อ่อนโม้

เริ่มเกมมา 2 นาที "ปราสาทสายฟ้า" ได้โอกาสทักทายก่อนจาก จิรวัฒน์ มัครมย์ หลุดเข้ามายิงในเขตโทษด้านขวาแต่บอลหลุดกรอบไปชนิดได้ลุ้น

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดฉากบุกอย่างน่ากลัว อีกสามนาทีถัดมา จิรวัฒน์ มัครมย์ มิดฟิลด์ฟอร์มแรงได้สบจังหวะดักชิพบอลจากระยะ 25 หลาบอลเกือยจะมุดเสียบใต้คานนอยู่แล้ว แต่ยังเป็น สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่ยังไวบินปัดข้ามคานได้หวุดหวิด

ผ่าน 15 นาทีแรก เป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้ดีกว่า "ฉลามชล" ชัดเจน ทำให้ ชลบุรี เอฟซี ต้องถอยลงไปตั้งรับถึงหน้าเขตโทษตัวเองและรอโอกาสสวนกลับ

นาทีที่ 17 "ปราสาทสายฟ้า" ชวดได้ประตูขึ้นนำจากการทำเกมของ จิรวัฒน์ มัครมย์ ทางขวาก่อนเปิดแบบได้-เสียให้กับ แฟร้งค์ อาเชียมปง เข้าชาร์จในเขตโทษ แต่บอลลึกไปทำให้ ปีกไนจีเรียเข้าไม่ถึงบอล

เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก ชลบุรี เอฟซี เริ่มตั้งเกมได้แต่จังไม่มีจังหวะจบสกอร์เพราะ "ปราสาทสายฟ้า" ยังคุมแนวรับไว้ได้หมด

แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประตูนำก่อนจนได้จากการชิ่งกันของ ธีราทร บุญมาทัน กับ อัสก้า จาเดลอฟ ก่อนที่ห้องเครื่องอุซเบกิสถาน จะจ่ายคืนให้ ธีราทร บุญมาทัน ยิงไกลด้วยขวาบอลพุ่งแฉลบ โฟเด้ ไดกิเต้ ปราการหลัง ชลบุรี เอฟซี เข้าประตูชนิดที่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล หลงทางพุ่งมารับไม่ทัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ 1-0 ในนาทีที่ 31

นาทีที่ 33 ยังไม่ถึงอึดใจ "ปราสาทสายฟ้า" ก็มาได้ลูกที่สองอย่างรวดเร็ว จากการซัดของ แฟร้งค์ อาเชียมปง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0 อย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาแค่ 2 นาที

เกือบจะจบครึ่งแรกอยู่แล้ว แต่ ชลบุรี เอฟซี มาได้ลูกตีไข่แตก 1-2 จากการวางยาวมาให้ ลูโดวิค ทาคาม จับบอลลงสวยในเขตโทษก่อนล็อกเข้าขวาแล้วยิงเรียด บอลไปตรงตัวของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน แต่บอลยังกระดอนมาเข้าทาง อดุลย์ หละโสะ ที่ยิงซ้ำโล่งๆ ตุงตาข่าย ในนาทีที่ 45

ก่อนหมดครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ ชลบุรี เอฟซี 2-1

เริ่มครึ่งหลังมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำการเปลี่ยนตัวด้วยการส่ง สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงมาแทน แฟร้งค์ อาเชียมปง ขณะที่5นาทีต่อมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำการเปลี่ยนตัวอีกครั้งด้วยการส่ง แฟร้งค์ โอฮันซ่า ลงมาแทน สุรัตน์ สุขะ

นาทีที่53 ทีมฉลามชล มีโอกาสได้ลุ้น เมื่อ สุรีย์ สุขะ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา อัครวิน สวัสดี พยายามเข้าฮอต แต่ยังเข้าไม่ถึงลูกบอล

นาทีที่62 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำการเปลี่ยนครั้งสุดท้ายด้วยการส่ง อักวัลล่า เฮอร์แมน ลงมาแทน สุมัญญา ปุริสาย

5นาทีต่อมา ชลบุรี มีโอกาสได้ลุ้น เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เทิดศักดิ์ ใจมั่น เปิดยัดมาที่เสาแรก อัครวิน สวัสดี โฉบโหม่งแต่บอลลอยโด่งออกหลังไปแบบน่ารักน่าลุ้น

นาทีที่70 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็โดนใบเหลืองไป เมื่อ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน พยายามถ่วงเวลา ผู้ตัดสิน อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ จึงต้องควักใบเหลืองแจก

5นาทีต่อมา ชลบุรี ทำการเปลี่ยนตัวบ้าง ด้วยการส่ง สุกรี อีแต ลงมาแทน เจฟฟี่ ดูม็อง

เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่แล้ว แฟนๆฉลามชล ก็ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ ชลทิตย์ จันทคาม เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา มาที่เสาแรก ลูโดวิค ทาคาม วิ่งหนีตัวประกบ ก่อนจิ้มบอลส่งบอลตุงตาข่าย ให้ ชลบุรี ตีเสมอ 2-2 และผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดหมดเวลาทันที ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 ต้องยิงจุดโทษตัดสิน

ผลการยิงจุดโทษ ยิงข้างละ6คน ผลปรากฎว่า ชลบุรี ยิงได้แม่นยำกว่า เอาชนะชนะการดวลจุดโทษ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-3 สกอร์รวม ชลบุรี ชนะ 6-5 คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก พรีเซนเต็ด บาย โคคา-โคลา ประจำปี 2555 ไปครอง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด :ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ประทุม ชูทอง, เอควัลล่า เฮอร์แมน, ธีราทร บุญมาทัน,สุรัตน์ สุขะ, จักรพันธ์ แก้วพรม, จิรวัฒน์ มัครมย์, อัสก้า จาเดลอฟ, สุมัญญา ปุริสาย, แฟร้งค์ อาเชียมปง

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, โฟเด้ ไดกิเต้, สุทธินันท์ พุกหอม, ชลทิตย์ จันทคาม, นพนนท์ คชพลายุกต์, อดุลย์ หละโสะ, เจฟฟี่ ดูม็อง, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, สุรีย์ สุขะ, ลูโดวิค ทาคาม, พิภพ อ่อนโม้

แหล่งข่าว :: http://www.siamsport.co.th/