ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โลหะเหล็กผสม (Ferrous Alloy) คืออะไร มีอะไรบ้าง

เริ่มโดย Marple, 23:16 น. 19 ก.ค 64

Marple

โลหะเหล็กผสม (Ferrous Alloy) เป็นโลหะที่มีส่วนประกอบของเหล็ก (Iron, Fe)เป็นส่วนใหญ่ และมีการเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้มีลักษณะทางกลและทางเคมีที่จำเป็น เนื่องจากโลหะเหล็กนั้นถึงแม้จะมีคุณสมบัติพิเศษคือไม่เกิดสนิมแต่คุณสมบัติอื่นๆน้อยเกินไปจึงไม่สามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรงได้ ดังนั้นโลหะเหล็กที่นิยมนำไปใช้ประโยชน์ทางวิศวกรรมและอุตสาหกรรมนั้นมักจะเป็นโลหะเหล็กผสมเป็นส่วนใหญ่

หากสนใจเกี่ยวกับการ ปั๊มโลหะ อยู่ล่ะก็ ทาง Pisit metal work ของเรามี โรงงานปั๊มโลหะ คอยให้บริการนะครับ หากสนใจ สามารถคลิกเข้าไปเพื่อศึกษาเพิ่มเติมได้เลย

องค์ประกอบที่มีผลต่อโลหะเหล็กผสม (Elements Ferrous Alloy)

             องค์ประกอบอื่นๆที่ถูกเติมลงไปในเหล็กนั้นมีผลช่วยปรับปรุงคุณสมบัติเชิงกลและเชิงเคมีของเหล็กให้ดีขึ้น และองค์ประกอบเหล่านั้นต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น

             โครเมียม (Chromium) โครเมียมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการผลิตเหล็กกล้าไร้สนิม(Stainless Steel) การมีโครเมียมที่ระดับสูงกว่า 11% ทำให้โลหะมีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนโดยการสร้างชั้นโครเมียมออกซิไดซ์ที่ด้านบนของโลหะ ซึ่งหมายความว่าโลหะหลักจะไม่สัมผัสกับออกซิเจนและลดอัตราการกัดกร่อนได้สูง ดังนั้นจึงโลหะเหล็กผสมจึงพร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเคลือบป้องกันใด ๆ นอกจากนั้นโครเมียมยังช่วยเพิ่มความต้านทานแรงดึงความแข็งความเหนียวความต้านทานต่อการสึกหรอ

             แมงกานีส (Manganese) แมงกานีสช่วยเพิ่มความเหนียว ทนต่อการสึกหรอ กำจัดการก่อตัวของซัลไฟด์เหล็กที่เป็นอันตราย เพิ่มความแข็งแรงที่อุณหภูมิสูง

             คาร์บอน ( C ) คาร์บอนที่เติมลงในโลหะเหล็กจะช่วยทำให้จุดหลอมเหลวต่ำลง หากมีมากจะทำให้เหล็กเปราะ

             ซิลิคอน (Silicon) ซิลิคอนช่วยปรับปรุงความแข็งแรงและให้ความยืดหยุ่นโดยเฉพาะในโลหะเหล็กผสมที่เป็นสปริง ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือการเพิ่มคุณสมบัติทางแม่เหล็กของโลหะให้กับเหล็ก

             ไทเทเนียม (Titanium) ปรับปรุงความแข็งแรงและความต้านทานการกัดกร่อน

             วานาเดียม (Vanadium) ช่วยเพิ่มความเหนียว ความแข็งแรง ทนต่อการสึกหรอและการทนต่อแรงกระแทก แต่มีข้อควรระวังคือจะต้องไม่มีปริมาณวาเนเดียมในปริมาณที่สูงเกินไป ไม่อย่างนั้นจะส่งผลเสียต่อคุณสมบัติของวัสดุได้

             นิกเกิล (Nickel) การเติมนิกเกิลลงในเหล็กมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มความเหนียวและความต้านทานการกัดกร่อนร่วมกับองค์ประกอบอื่น ๆ ได้แก่ โครเมียม เมื่อปริมาณโครเมียมอยู่ที่ประมาณ 18% และนิกเกิลที่ 8% เราจะได้เหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel) ที่มีความทนทานสูง

ตัวอย่างของโลหะเหล็กผสม (Simple Ferrous Alloy)

             1.เหล็กกล้า (Steel) เป็นโลหะเหล็กที่มีคาร์บอนผสม โดดเด่นเรื่องความแข็งแรงทนทาน แบ่งเป็น

                   1.1 เหล็กกล้าคาร์บอน (Cabon Steel) เป็นโลหะเหล็กผสมที่มีการเติมคาร์บอนลงไปไม่เกิน 1.7% ได้แก่ เหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ (คาร์บอนไม่เกิน 0.2%) เหล็กกล้าคาร์บอนปานกลาง (คาร์บอน 0.2-0.5%) และเหล็กกล้าคาร์บอนสูง (คาร์บอน 0.5-1.5%)

                   1.2 เหล็กกล้าประสม (Alloy Steel) มีส่วนผสมของคาร์บอนไม่เกิน 1.7% และมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น โครเมียม, นิกเกิล, วาเนเดียม, โคบอลต์, โมลิบดินัม เป็นต้น แบ่งเป็น เหล็กกล้าประสมต่ำ (มีธาตุอื่นผสมรวมกันไม่เกิน 10%) เหล็กกล้าประสมสูง (มีธาตุอื่นผสมรวมกันเกิน 10%)

             2.เหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel) เป็นโลหะเหล็กผสมที่มี โครเมียมผสมอยู่อย่างน้อยที่สุด 10.5% โดดเด่นเรื่องทนต่อการกัดกร่อนและสนิม

             3.เหล็กหล่อ (Cast Iron) เป็นโลหะเหล็กผสมที่มีมีปริมาณคาร์บอนมากกว่า 2% โดดเด่นเรื่องจุดหลอมเหลวต่ำ