ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

น้ำมันพุ่ง-ทองขึ้นเหนือ$1,800หลังดอลล์อ่อนค่า หุ้นสหรัฐฯปิดบวกแรง

เริ่มโดย Thetaiso, 13:58 น. 24 ส.ค 64

Thetaiso



ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันจันทร์(23ส.ค.) หลังจากขยับลงมา 7 วันติดเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 จากแรงช้อนชื้อและดอลลาร์อ่อนค่า ปัจจัยหลังนี้ทองคำดีดตัว ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง จากข่าวคราวแง่บวกที่ช่วยปัดเป่าความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 3.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและแรงช้อนซื้อของนักลงทุน ฟื้นตัวจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งดิ่งลงหนักเกือบ 9% ถือเป็นสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน และเป็นการปรับลด 2 ใน 3 สัปดาห์หลังสุด ในขณะที่สัญญาเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียตในวันศุกร์(20ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงช่วยดันให้ราคาทองคำในวันจันทร์(23ส.ค.) ฟื้นตัวแรงเช่นกัน ขยับเหนือ 1,800 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 22.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,806.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกแข็งแกร่งในวันจันทร์(23ส.ค.) ได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์และความเคลื่อนไหวอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนจับตาไปที่การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 215.63 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,335.71 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 37.86 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,479.53 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 227.99 จุด (1.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,942.65 จุด

วอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากยอดขายบ้านที่แข็งแกร่งเกินคาดหมายของสหรัฐฯ และความเคลื่อนไหวอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

นักลงทุนจับตาไปที่คำแถลงในวันศุกร์(27ส.ค.) ของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งคาดหมายว่าเขาจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

(ที่มา:มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี)