ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สงขลา จี้ชาวนาเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรก่อน 31 มีนานี้

เริ่มโดย ฅนสองเล, 13:37 น. 19 มี.ค 55

ฅนสองเล

จังหวัดสงขลา เร่งวางแผนการบริหารจัดการข้าว  เตรียมรองรับผลผลิตข้าวเปลือกนาปีที่ออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน พฤษภาคม -  มิถุนายนนี้

ที่ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา นายณัฐพงศ์  ศิริชนะ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา  เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด  จ.สงขลา  โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง  พร้อมด้วยผู้แทนกลุ่มเกษตรกร  และเจ้าของโรงสีข้าวจังหวัดสงขลาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้กว่า 30 คน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร  การจ่ายเงินเกษตรกรของ ธกส.และเตรียมความพร้อมของโรงสีในการรองรับผลผลิตข้าวเปลือกนาปีที่ออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน พฤษภาคม -  มิถุนายน  2555

นายณัฐพงศ์  ศิริชนะ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา  กล่าวว่า  จังหวัดได้ส่งเรื่องโรงสีที่ขอผ่อนผันคุณสมบัติที่ไม่มีเครื่องชั่งรถบรรทุก  จำนวน 12 โรง ให้คณะอนุกรรมการกำกับดูการรับจำนำข้าว พิจารณาทบทวนให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี  ปีการผลิต 2554/55 เมื่อวันที่  10  กุมภาพันธ์  2555  ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับการดูแลการรับจำนำข้าว  ได้มีมติเห็นชอบให้โรงสีทั้ง 12 โรง เข้าร่วมโครงการรับจำนำฯได้

พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความพร้อมเรื่องปริมาณผลผลิตของเกษตรกร จำนวนโรงสี  ปัญหาการขนส่ง และโกดังกลางอาจไม่เพียงพอรองรับผลผลิตที่ออกมากกว่า   35,000  ตัน   ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้อนุมัติให้เกษตรกรสามารถนำข้าวเปลือกข้ามเขตไปจำนำในเขตพื้นที่  จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง  ได้ตามหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการรับจำนำฯ ที่กำหนด 

อีกทั้งได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดสงขลา  และสำนักงานเกษตรอำเภอ  เร่งดำเนินการสำรวจจำนวนเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ให้รีบขึ้นทะเบียนเกษตรเพื่อนำใบรับรองไปใช้สิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการรับจำนำฯ  โดยมีช่วงระยะเวลาดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรสิ้นสุดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2555 นี้

นายณัฐพงศ์  ศิริชนะ  ได้เน้นย้ำถึงการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าว  ต้องทำงานด้วยความสุจริต  ถูกต้อง  และสามารถตรวจสอบได้  โดยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน  เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวอย่างเป็นระบบ และร่วมหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป