ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

หนมดู๋

เริ่มโดย เณรเทือง, 12:04 น. 20 มี.ค 55

เณรเทือง

ใครรู้จักบ้างครับ

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: เณรเทือง เมื่อ 12:04 น.  20 มี.ค 55
ใครรู้จักบ้างครับ
คนละอย่างกับหนมดูไหม ชื่อคล้ายๆกันนะ
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

วิระยุทธ ไชยชาญยุทธ์

เหมือนหนมดูหม้ายครับปั้นกลมๆๆแป้งผงโรยอยู่รอบๆๆเพื่อไม่ให้หนมติดกัน

หนุ่มเหลือน้อย

คงเป็นหนุมเดียวกันนะครับ  หนมดู่   ทำด้วยแป้งข้าวคั่วปั้นกลมๆ แล้วผงแป้งขาวๆ  มีขายแถวหลาดสงขลา  และแถวสิงหนคร  สทิงพระ  ระโนด  ผมซื้อกินบ่อยครับ  ขนมแบบโบราณ   เด็กหวางนี้กินไม่เป็น

ลูกแมวตาดำๆ

ลักภาพมาจากสมาชิกท่านหนึ่ง ไม่ขอเอ่ยนาม  ส.หัว



ทำจากข้าวเหนียวนำมาแช่น้ำจากนั้นนำไปคั่วจนกรอบและหอม แล้วบดจนละเอียดร่อนอีกครั้งหนึ่ง แบ่งแป้งออกเป็น 2ส่วน คือส่วนที่หนึ่งนำไปกวน อีกส่วนเก็บไว้ทำแป้งคลุกตัวขนม จากนั้นกวนกับน้ำตาลโหนดและกะทิกวนจนปั้นก้อนได้

sakurathai

หนมดู อร่อยดีค่ะ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้... อยู่หาดใหญ่ ก็ยังพอเห็น หากินได้อยู่เหมือนกัน เด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่กินกันแล้ว
นานๆกินที กินบ่อยมันเอือนค่ะ ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ

ฅนเกาะเสือ

หนม ดู
ขอเป็นวิชาการสัก หิดครับผม       

 
ฐานข้อมูล อาหารพื้นบ้าน ผู้จัดทำข้อมูล สำนักวิทยบริการฯ Monday August 02 2010 @ 02:55PM SE Asia Standard Time
ขนมดู

ฟังคำโปรดจำเอาไว้ ชื่อขนมไทยนั้นคือขนมดู
ขนมไทยเลื่องลือมานาน ทำไมลูกหลานไม่ช่วยกันเชิดชู
ไปหลงมนต์ของนอกมาขาย ทั้งหญิงทั้งชายลืมได้ขนมดู
ปู่ย่ากินกันมานาน เดี๋ยวนี้ลูกหลานไม่รู้จักขนมดู?



พลันที่หูสดับเสียงเพลงเกี่ยวกับขนมดู ซึ่งลอยตามลมมาระหว่างเดินชมงาน ย้อนรอยวิถีไทย ?บ้านวัฒนธรรม ลานวัฒนธรรม? ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2553 ในบรรยากาศสบาย ๆ บริเวณรอบสระสนานใจ และอาคารสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ใจก็ประหวัดไปถึงขนมดู ที่แม้หน้าตาจะไม่ฉูดฉาดชวนมอง แต่เรื่องราวความน่าสนใจในฐานะขนมคู่เมืองสงขลา ดูจะมากด้วยคุณค่า จนต้องตามไปดูให้เห็นถึงเนื้อใน


นางราศี คำเนตร แม่ค้าขนมดูจากบ้านธรรมโฆษณ์ ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งยึดอาชีพทำขนมดูมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เล่าถึงกลวิธีการทำขนมดู ว่า เริ่มจากนำข้าวเหนียวมาคัดกากออกแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นนำข้าวเหนียวที่ล้างสะอาดแล้วไปแช่น้ำ เมื่อแช่ข้าวเหนียวจนได้ที่แล้ว นำไปใส่ตะแกรงทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ และนำข้าวเหนียวที่แห้งแล้วไปคั่วในกระทะจนเหลืองกรอบ วางพักให้เย็น บดข้าวเหนียวที่คั่วแล้วจนเป็นแป้งละเอียด แบ่งแป้งจำนวนหนึ่งไว้เป็นแป้งเชื้อสำหรับคลุกขนมไม่ให้ติดกัน นำแป้งส่วนที่เหลือไปทำขนม จากนั้นเคี่ยวน้ำผึ้งเหลวจนข้นเป็นยาง ใส่มะพร้าวขูดกับเกลือเล็กน้อยแล้วคนให้เข้ากัน ขั้นตอนสุดท้ายใส่แป้งข้าวเหนียวลงไป คนจนแห้งพอปั้นเป็นก้อนได้



ขนมดูที่ได้จะมีรูปทรงค่อนข้างกลม บิดเบี้ยว สีทึม ๆ ขนาดประมาณเหรียญสิบบาท คลุกฝุ่นแป้งสีขาว ซึ่งโดดเด่นด้วยรสหวานของน้ำตาล เข้ากันได้ดีกับความเหนียวนุ่มของแป้งข้าวเหนียว และความมันของมะพร้าว ทำให้ขนมดูอยู่ในความนิยมของชาวบ้านพื้นถิ่นมาตลอด โดยแหล่งผลิตขนมดูมีกระจายอยู่ในอำเภอสิงหนคร สทิงพระ กระแสสินธุ์ และ ระโนด โดยแหล่งผลิตขึ้นชื่ออยู่ที่ บ้านชิงโค ธรรมโฆษณ์ อำเภอสิงหนคร และ บ้านสนามชัย อำเภอสทิงพระ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าปัจจุบันคนทำขนมดูมีไม่มากแล้ว ทั้งที่ขนมดูเป็นขนมที่อยู่คู่คนใต้มานาน แต่อาจเพราะอาชีพอื่นสร้างรายได้ที่ดีกว่า จึงไม่ค่อยมีคนอยากรับช่วงต่อทำขนมดู ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ขนมดูก็อาจสูญหายไปจากภาคใต้



แต่หากจะค้นหาที่มาว่าทำ ไมจึงเรียกขนมชนิดนี้ว่าขนมดู แม้แต่ผู้สูงอายุในท้องถิ่นก็ไม่อาจตอบได้ รู้แต่ว่าเคยรู้จัก และเคยรู้รสขนมชนิดนี้มาตั้งแต่เริ่มรู้จักกินขนมแล้ว แถมยังบอกว่ารุ่นปู่ย่าตายายก็มีขนมชนิดนี้มาก่อนแล้วด้วย จึงเป็นอันว่าขณะนี้ยังไม่มีทางรู้ว่าขนมชนิดนี้มีความหมายและความเป็นมาอย่างไร



ผศ.ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวถึงความสำคัญของขนมดู ว่า เป็นขนมที่มีมานานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ได้จัดทำวารสารวิชาการเรื่องขนมดู เพื่อเป็นหลักฐานทางวิชาการ และเพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับขนมดูต่อไป


ในขณะที่ น.ส.ภัทราภรณ์ เหลาะเหล็ม และ น.ส.นุรัยนี ดิง นักศึกษาวิชาเอกบัญชี คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ซึ่งเข้าไปหาข้อมูลเรื่องขนมดูที่ซุ้มสาธิตทำขนมดู ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันขนมดูค่อนข้างหากินยาก นักศึกษาบางคนไม่เคยกินด้วยซ้ำ เนื่องจากมองว่าเป็นขนมของคนแก่ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าเดี๋ยวนี้อาหารการกินเก่า ๆ ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว หรือบางอย่างมีแค่ชื่อแต่ไม่มีคนชิม ซึ่งหากไม่ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ สักวันหนึ่งก็อาจสูญหายไปจากวิถีชีวิตของไทย


ด.ช.ปฐวี สมบัติ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลนครหาดใหญ่ ณ สุวรรณวงศ์ นักชิมขนมดูรุ่นเยาว์ กล่าวถึงรสชาติของขนมดูที่ได้ลิ้มลองว่า ?อร่อยดีครับ หวาน ๆ มัน ๆ เพิ่งเคยกินครั้งแรกเหมือนกัน ได้รู้จักขนมดูจากงานนี้นี่แหละ ต่อไปถ้าเจอขนมดูก็จะซื้อกินอีก เพราะอร่อยดีครับ?


ผู้ชื่นชอบขนมดูสามารถซื้อหาได้ตามตลาดทั่วไป เช่น ตลาดนัดวันอาทิตย์ ตลาดทรัพย์สินในตัวเมืองสงขลา ตลาดส่งเสริมผลิตภัณฑ์พื้นบ้านสนามชัย ริมทางหลวงสายสงขลา-ระโนด หรือแม้แต่ในงานย้อนรอยวิถีไทยฯ และงานวัฒนธรรมสัมพันธ์ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ซึ่งพ่อค้าแม่ขายสาธิตกรรมวิธีการผลิต พร้อมทั้งจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปได้ชมและชิม เสียงเพลงขนมดูแว่วมาอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ดูจะก้องกังวานกว่าครั้งแรก ผู้คนที่เดินขวักไขว่เที่ยวชมงานชะงักเงี่ยหูฟัง และเดินไปหาต้นตอของเสียง ซึ่ง ณ ที่แห่งนั้นนักศึกษากลุ่มใหญ่กำลังเฝ้ามองการสาธิตทำขนมดูอย่างสนใจ ด้วยแววตากระพริบพราย สอดรับกับท่อนจบของบทเพลงขนมดูที่ร้องว่า ฝากเตือนเด็กไทยวันนี้ มรดกอย่างดีต้องช่วยกันเชิดชูอนาคตจะไม่สูญหาย สร้างเอกลักษณ์ไทยใส่ใจขนมดู


ไทยทำ ไทยกิน ไทยใช้ เศรษฐกิจของไทยต้องไปได้หรู อีกหน่อยแถวศูนย์การค้า เมืองนอกเมืองนาต้องหันมาดู ฝรั่งกินยังถูกปากถูกใจ ชื่นชมขนมไทยติดใจขนมดู


โดยทีมข่าวภาคใต้โฟกัส



แม้ ความรู้อันน้อยนิด อาจช่วยชีวิต คนเป็น ร้อย