ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

10 กฏเหล็ก ของคนไม่อยากแก่ก่อนวัย

เริ่มโดย bandname_11, 12:03 น. 27 มี.ค 55

bandname_11

10 กฏเหล็ก ของคนไม่อยากแก่ก่อนวัย ส.หลก ส.หลก ส.หลก ส.หลก
                               [attach=1]

        เรื่องกินอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น มักเป็นจริงอยู่เสมอ สังเกตคนที่รูปร่างอวบอ้วน มักจะสนุกกับอาหาร ที่เลือกทานแบบไม่ค่อยพิถีพิถันเท่าไหร่นัก (ยกเว้นคนที่มีสาเหตุมาจากโรคภัย)

        แต่บางคน ก็เอาใจใส่กับอาหารที่เลือกทานในแต่ละวัน ทั้งนี้ก็เพราะอยากมีสุขภาพดี แต่จะทานอย่างไร เพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากลับมาสดชื่นและมีชีวิตชีวา

        ลองมาดูคำแนะนำ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแห่งศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging)พญ.อัจจิมา สุวรรณจินดา กรรมการผู้จัดการสถาบันวัยวัฒน์และความงามเมดดิไซน์ (MEDISCI)กับ กฏเหล็ก 10 ข้อ ชะลอวัย ที่ทำได้จริง

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 1  ส.ก๊ากๆ  กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะร่างกายต้องนำไปใช้ในการทำงาน ทุกอันสำคัญหมด ไขมันก็สำคัญ เพราะอย่างน้อยร่างกายก็ต้องการไขมันประมาณ 7-10 % ของไขมันอิ่มตัว เพื่อเป็นคอเรสเตอรอล นำใช้ในการสร้างฮอร์โมน

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 2  ส.ก๊ากๆ  กินอาหารโดยแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ ประมาณ 5 มื้อ ได้แก่ มื้อหลัก 3 มื้อ เช้า เที่ยง เย็น และอาหารว่าง 2 มื้อเล็กๆ ช่วงสายและบ่าย การกินเป็นมื้อย่อยๆ 5 มื้อ เป็นการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เราจะได้ไม่มีภาวะต้านอินซูลิน มื้อย่อย ๆ แต่ละมื้อ จะทำให้เราทานไม่เยอะจนเกินไป และมีพลังานตลอดทั้งวัน

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 3   ส.ก๊ากๆ  กินอาหารในปริมาณเหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป อย่ากินจนอิ่มเกินไป กินให้พอดี เพราะยิ่งกินเยอะ ร่างกายก็จะเสื่อมเยอะ ควรกินปริมาณแคลลอรี่ให้พอดีกับที่เราจะใช้ทำงาน

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 4   ส.ก๊ากๆ  เน้นกินผักและผลไม้หลากหลายสี เช่น สีแดง เขียว ส้ม เหลือง ม่วง แดง เพื่อได้รับสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลาย และไม่มีปัญหาในเรื่องภูมิแพ้อาหารด้วย

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 5   ส.ก๊ากๆ กินอาหารเช้าทุกวัน การกินอาหารเช้าสำคัญต่อการควบคุมความรู้สึกอยากอาหาร การตอบสนองร่างกายต่อฮอร์โมนอินซูลิน และกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยอาหารเช้านั้นจะเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายเพื่อนำไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ และช่วยลดความรู้สึกหิว ทำให้กินอาหารในมื้อถัดไปลดลง ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ

         มีการศึกษาพบว่าผู้ที่กินอาหารเช้าทุกวัน จะมีโอกาสเกิดภาวะอ้วนและโรคเบาหวานน้อยกว่าผู้ที่งดอาหารเช้าถึง 35-50% และยังพบว่าการงดกินอาหารเช้านั้น นอกจากเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอ้วนและโรคเบาหวานแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 6  ส.ก๊ากๆ  กินปลาทะเล เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน เพราะปลาเหล่านี้มี omega 3 ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 7  ส.ก๊ากๆ  หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มน้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ คุณหมอเล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนหมอไม่ค่อยดื่มน้ำ แต่จะดื่มแต่กาแฟ เพื่อให้อัพทั้งวัน ร่างกายก็จะเสื่อมเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ต้องปรับเยอะ จนตอนนี้ก็ไม่ดื่มกาแฟแล้ว มีพลังงานทั้งวัน โดยที่พลังงานไม่ตก ไม่ต้องใช้ตัวกระตุ้นจากกาแฟหรือโค้ก ชาเขียวกินได้ แต่อย่าเยอะ มีสารแอนตี้ ออกซิแดนท์ แต่ก็มีคาเฟอีนด้วย อะไรที่เยอะเกินไปไม่ดี เพราะกาแฟมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ แต่ว่าอย่าดื่มเยอะ อย่าใส่ครีมเทียม เพราะเป็นไขมันแปรรูป กาแฟที่ควรดื่มคือ กาแฟสด หรือ instance coffee"

         คุณหมอเน้นอีกครั้งว่า "ดื่มกาแฟได้นะ แต่อย่าเยอะ และอย่าดื่มเพื่อให้เป็นตัวกระตุ้นร่างกายให้ตื่น บางคนต้องใช้กาแฟเป็นตัวกระตุ้น เช่น ในกลุ่ม chronic fatigue syndrome เหนื่อย นอนไม่พอ ต้องใช้กาแฟกระตุ้น ทำให้ระบบอื่นเสีย ตับ ไต ร่างกายหลั่งคอร์ติซอลมาก ปัญหาก็จะตามมา" คุณหมอกล่าว

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 8   ส.ก๊ากๆ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือการคำนวณน้ำหนักเราเป็นปอนด์ แล้วหารด้วย 2 ก็จะได้ปริมาณน้ำที่เราควรดื่ม

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 9  ส.ก๊ากๆ  กินอาหารธรรมชาติและผ่านแปรรูปน้อยที่สุด พวกธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ถั่วต่างๆ และควรปรุงอาหารด้วยวิธีอบ นึ่ง ตุ๋น หลีกเลี่ยงอาหารฟาส์ตฟู้ดที่มีไขมันและแป้งสูง พูดง่ายๆ คือ กินข้าวกล้องได้ตลอดยิ่งดี และกับข้าวก็แบบที่ทำง่ายๆ ต้ม ผัด ก็พอ

       ส.ก๊ากๆ กฏข้อที่ 10   ส.ก๊ากๆ หลีกเลี่ยงอาหารปรุงแต่งด้วยผงชูรส สารกันบูด สารแต่งกลิ่น สี และรส เป็นไปได้ก็กินข้าวนอกบ้านให้น้อยที่สุด



ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆขอบคุณข้อมูลจากhttp://women.thaiza.com ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ ส.สู้ๆ