รู้จัก “เนื้องอกมดลูก” โรคยอดฮิตของผู้หญิงวัย 30

[haileyb]

   เรื่องปัญหาภายในนับว่าเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวและไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะโรค "เนื้องอกมดลูก" ที่เรียกได้ว่าพบบ่อยมากในผู้หญิงประมาณร้อยละ 25 ซึ่งมักเกิดในผู้หญิงวัย 30-40 ปี ไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน แม้ว่าโรคดังกล่าวจะไม่ใช่โรคร้ายแรงและมีโอกาสน้อยที่จะนำไปสู่การเกิดมะเร็ง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็อาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์หรือคลอดบุตรได้ ดังนั้น การทราบอาการของโรคจะช่วยให้สามารถสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที

อาการของ เนื้องอกมดลูก

โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงบางรายที่มีเนื้องอกเกิดขึ้นที่มดลูกอาจไม่มีอาการของโรคปรากฏ แต่บางรายก็อาจมีอาการเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิด จำนวน และขนาดของเนื้องอก โดยอาการที่พบได้บ่อยมี ดังนี้

ท้องผูกผิดปกติ
- ประจำเดือนมามากกว่าปกติ หรือมานานมากกว่า 1 สัปดาห์
- รู้สึกปวดท้องน้อย ทั้งที่ไม่มีประจำเดือน
- ปัสสาวะบ่อย แต่มีปัสสาวะออกมาไม่มาก
- รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- ท้องน้อยมีขนาดโตขึ้น
- อ่อนเพลีย ปวดหลัง หรือปวดขา

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง หรือมีประจำเดือนมามากกว่าปกติติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรนัดหมายแพทย์เพื่อทำการตรวจโดยละเอียด และควรเข้าพบแพทย์ทันทีหากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด

ชนิดของ เนื้องอกมดลูก

เนื้องอกมดลูกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดด้วยกัน ดังนี้

- เนื้องอกที่ผิวด้านนอกมดลูก (Subserosal Fibroid) คือ เนื้องอกที่มีขนาดโตขึ้นแล้วดันออกมาที่ผิวด้านนอกมดลูก
- เนื้องอกในกล้ามเนื้อ (Intramural Fibroid) คือ ก้อนเนื้อที่เกิดภายในกล้ามเนื้อมดลูกโดยตรง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบได้บ่อยที่สุด
- เนื้องอกที่โพรงมดลูก (Submucosal Fibroid) คือ เนื้องอกที่มีขนาดโตขึ้นแล้วดันเข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งอาจทำให้โพรงมดลูกเบี้ยวไปจากเดิม

สาเหตุของ เนื้องอกมดลูก

ปัจจุบันในทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุแท้จริงที่ส่งผลต่อการเกิดเนื้องอกมดลูกได้ อย่างไรก็ตาม ได้มีการสันนิษฐานว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจนเตอโรนอาจมีความสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ อย่างการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ก็อาจเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้องอกมดลูกได้เช่นกัน

เนื่องจากโรคเนื้องอกมดลูกนั้นยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีสาเหตุเกิดจากอะไร ดังนั้น จึงควรดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงควรเข้ารับการตรวจสุขภาพและตรวจภายในเป็นประจำทุกปี โดยผู้ป่วยที่มีเนื้องอกมดลูกและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยที่ค่อนข้างรุนแรง หรือมีประวัติเคยมีเนื้องอกมดลูกมาก่อน แพทย์อาจประเมินให้ทำการผ่าตัดเพื่อความปลอดภัย