ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อยากมีบ้าน ต้องมีเงินเท่าไหร่?

เริ่มโดย ไอซ์ไอซ์, 00:35 น. 20 ม.ค 65

ไอซ์ไอซ์

อยากมีบ้าน ต้องมีเงินเท่าไหร่?
คิดก่อน ผ่อนบ้านหลังแรก

"บ้าน" เป็นปัจจัย 4 เพื่อการดำรงชีวิต ดังนั้น เมื่อมีหน้าที่การงาน รายได้ที่มั่นคงหลายคนก็อยากเติมเต็มความฝันด้วยการมีบ้าน โดยวิธีการซื้อบ้านมักจะขอกู้สินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งลักษณะพิเศษ คือ มีระยะเวลาผ่อนชำระนานกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ สูงสุดไม่เกิน 30 ปี หมายความว่า หากตัดสินใจซื้อบ้านต้องมีภาระผ่อนชำระค่อนชีวิต และเมื่อมีบ้านเราต้องคิดปัญหาต่างๆต่อมา ไม่ว่าจะเป็นอาการบ้านทรุด แม้ว่าจะมีบริษัทซ่อมบ้านทรุดต่างๆแต่ก็ต้องคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายไว้ด้วย
ดังนั้น การตัดสินใจผ่อนบ้านสักหลัง ที่สำคัญหากเป็นบ้านหลังแรกต้องคิดให้รอบคอบ เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดอาจต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหามากกว่าที่คิด
1.สำรวจสถานะทางการเงิน
     "รายได้" และ "ค่าใช้จ่าย" จะเป็นตัวกำหนดความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ ซึ่งตามหลักการวางแผนการเงินควรมีภาระหนี้ทุกประเภทแต่ละเดือนสูงสุดไม่เกิน 40% ของรายได้ เช่น เงินเดือน 45,000 บาท ควรมีหนี้ต้องผ่อนรวมกันไม่เกิน 18,000 บาท ดังนั้น หากมีหนี้อื่นๆ เช่น หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต ที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน อาจทำให้การขอสินเชื่อบ้านได้ในวงเงินลดน้อยลง
2.ซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสม
     เมื่อรู้สถานะทางการเงินและความสามารถในการผ่อนชำระหนี้แต่ละเดือนแล้ว ก็จะรู้ว่าควรซื้อบ้านที่ราคาไหนเพื่อทำให้ไม่เป็นภาระจนเกินไป ซึ่งหลักการเบื้องต้นในการประเมินวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์จะคำนวณจากจำนวนเงินที่ผู้กู้มีความสามารถผ่อนได้ในแต่ละงวดในอัตราส่วน โดยจำนวนเงินผ่อนต่องวด 8,000 บาท ต่อยอดหนี้ 1 ล้านบาท นั่นคือ ถ้าสามารถผ่อนได้ 8,000 บาทต่อเดือน ธนาคารจะให้กู้ 1 ล้านบาท ถ้าผ่อนได้ 16,000 บาทต่อเดือน จะกู้ได้ 2 ล้านบาท เป็นต้น
วงเงินกู้ได้สูงสุด = (1,000,000 x ความสามารถในการผ่อนแต่ละเดือน)
3.วางเงินดาวน์เยอะๆ
     เมื่อวางแผนซื้อบ้านก็ต้องมีเงินสำหรับดาวน์บ้าน ประมาณ 5 - 20% ของราคาบ้าน ส่วนเงินที่เหลือถึงจะไปขอสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งมีหลายคนที่เลือกจ่ายเงินดาวน์ให้น้อยที่สุด ข้อดี คือ ใช้เงินตัวเองไม่เยอะ ข้อเสีย คือ มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสูง ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรเตรียมเงินให้พร้อมสำหรับดาวน์บ้านให้มากที่สุด เช่น 20% หรือ 30% ก็จะช่วยประหยัดดอกเบี้ย
4.เพิ่มเงินผ่อนต่อเดือน
     ช่วงเริ่มวัยทำงาน เงินเดือนยังไม่ได้เยอะก็ควรเลือกระยะเวลาผ่อนบ้านให้นานที่สุด เช่น 25 ปี หรือ 30 ปี เป็นต้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย แต่เมื่อไหร่ที่เงินเดือนเพิ่มสูงขึ้นหรือมีรายได้พิเศษก็ต้องเพิ่มเงินที่ผ่อนแต่ละเดือนให้สูงขึ้น อาจใช้วิธีเพิ่มแบบขั้นบันใด เช่น ปีนี้ผ่อนเดือนละ 6,765 บาท ปีหน้าผ่อนเดือนละ 7,765 บาท ปีถัดมาผ่อนเดือนละ 8,765 บาท เป็นต้น ก็จะทำให้ประหยัดดอกเบี้ยและปลดหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น