ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บอกลาเชื้อราบนหนังศีรษะ ด้วยวิธีรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง!

เริ่มโดย daisydaily, 10:21 น. 31 ม.ค 65

daisydaily

โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ หรือ กลากบนหนังศีรษะ เป็นโรคที่ทำให้มีอาการคันบนหนังศีรษะ มีลักษณะเป็นขุยแห้ง ทำให้หลายคนสับสนและเข้าใจผิดว่าเป็นแค่รังแค จึงละเลยการดูแลหนังศีรษะ ซึ่งหากปล่อยให้เชื้อราหนังศีรษะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รักษาอาจทำให้ผมร่วง ผมบาง และอาจนำไปสู่แผลลุกลามขนาดใหญ่ได้

ในบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักสาเหตุของเชื้อราบนหนังศีรษะกันให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ทำการรักษากันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่โรคเชื้อราบนหนังศีรษะจะลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่

[attach=1]

เชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis)

โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ หรือ โรคกลากเชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis) เป็นภาวะที่เชื้อรากระจายตัวลึกลงไปยังรูขุมขน ส่งผลให้เกิดอาการคัน มีขุยแผ่นบนหนังศีรษะ และผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ซึ่งนอกจากจะเกิดเชื้อราที่หนังศีรษะได้แล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นที่ผิวหนังส่วนอื่น ๆ หรือเล็บได้เช่นกัน

โดยผู้ที่ได้รับเชื้อราบนหนังศีรษะจะแสดงอาการใน 7-14 วัน และเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้จากคนสู่คนโดยการสัมผัสและการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน หรืออาจติดได้จากสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อรานี้ด้วย โดยมากแล้วจะสามารถพบได้ตั้งแต่วัยเด็กอายุ 4-14 ปี และสามารถเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเบาหวาน, โรคมะเร็ง หรือโรคเอดส์ ฯลฯ

นอกจากนี้เชื้อราบนหัวหรือโรคกลากเชื้อราบนหนังศีรษะอาจพบได้ในผู้ที่มีสุขอนามัยที่ไม่ดี อยู่ในชุมชนแออัด หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อนชื้น

อาการเชื้อราบนหนังศีรษะ

อาการเชื้อราบนหนังศีรษะอาการจะพบได้หลากหลาย โดยส่วนใหญ่มักพบว่าอาการเชื้อราบนหนังศีรษะจะคัน ผิวอักเสบ มีรังแค เป็นขุยหรือตกสะเก็ด เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะผมร่วงเป็นหย่อม ผมหลุดเป็นกระจุก และบริเวณที่เป็นมีการขยายวงกว้างมากขึ้น

[attach=2]

ซึ่งรูปแบบของอาการอาจจะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการติดเชื้อและการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับเชื้อ ซึ่งสามารถแบ่งอาการได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. กลากที่หนังศีรษะประเภทจุดดำ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อที่เส้นผม ส่งผลให้เส้นผมเปราะบางขาดง่าย เห็นเพียงเส้นผมที่มีลักษณะจุดดำบริเวณรูขุมขนหนังศีรษะ ทำให้ผมร่วงตามบริเวณที่มีการติดเชื้อ

2. กลากที่หนังศีรษะประเภทผื่นสีเทา โดยเชื้อราบนหนังศีรษะอาการจะมีจุดแดงเล็กที่เส้นผม จากนั้นจะขยายออกเป็นลักษณะผื่นแดงและมีขุยแห้ง แต่ไม่มีอาการอักเสบ ซึ่งเส้นผมบริเวณที่ติดเชื้อจะมีสีเทา ไม่เป็นเงา เส้นผมขาดง่าย มีอาการคัน และเป็นเชื้อราหนังศีรษะผมร่วงหลาย ๆ พื้นที่บนหนังศีรษะ

3. กลากที่หนังศีรษะที่มีอาการอักเสบ เชื้อราประเภทนี้มักติดได้จากสัตว์หรือดิน โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มหนองเล็ก ๆ ร่วมกับอาการผมหักหลุดร่วง และมีไข้ รู้สึกเจ็บ อักเสบ คัน มีแผลที่หนังศีรษะ และมีอาการของต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งอาการเชื้อราบนหนังศีรษะชนิดนี้จะทำให้ผมร่วงชนิดถาวรได้ และหากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้เป็นเชื้อราบนหนังศีรษะผมร่วงถาวรรุนแรงขึ้น

ซึ่งหากอาการอยู่ในประเภทที่มีอาการอักเสบจนทำให้ผมร่วงถาวร และเกิดเป็นแผลเป็นที่ทำให้ผมไม่สามารถงอกขึ้นใหม่ได้อีกต่อไป แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Absolute Hair Clinic แนะนำให้ปลูกผมลงบนแผลเป็น อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ปลูกผมลงในแผลเป็น

เชื้อราบนหนังศีรษะเกิดจากอะไร

เชื้อราบนหัวหรือเชื้อราบนหนังศีรษะเกิดจากการติดเชื้อราที่มาจากคน สัตว์ และสิ่งของ โดยสปอร์ของเชื้อราอาจกระจายตัวโดยการสัมผัส หรือในเส้นผมที่หลุดร่วงออกมา รวมไปถึงสิ่งของที่ใช้กับศีรษะที่มีเชื้อราติดอยู่ อาทิ หวี, ผ้าเช็ดตัว หรือเสื้อผ้า

[attach=3]

1. ติดต่อจากคนสู่คน

เกิดจากการสัมผัส การคลุกคลีโดยตรงกับผู้ที่เป็นโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ และสามารถพบได้บ่อยในเด็กเล็กที่ต้องไป  โรงเรียน เกิดจากที่เด็กเล่นกันใกล้ชิดกัน รวมไปถึงเด็กยังมีภูมิคุ้มกันที่น้อยกว่าผู้ใหญ่จึงทำให้ติดเชื้อราบนหนังศีรษะเด็กกันได้ง่าย
   
2. ติดต่อจากสัตว์สู่คน

เกิดจากการคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงที่มีการติดเชื้อ และไม่ได้ล้างมือหลังสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง ก็ทำให้คนสามารถติดเชื้อราจากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ได้

3. ติดต่อสู่คนจากสิ่งของเป็นพาหนะ

เกิดจากการใช้สิ่งของที่ใช้กับหนังศีรษะผู้ที่มีเชื้อราบนหนังศีรษะร่วมกัน เช่น หวี, ผ้าเช็ดตัว, หมวก หรือเสื้อผ้า ส่วนใหญ่มักไม่ได้ระมัดระวังในการใช้สิ่งของเหล่านี้ร่วมกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อราหนังศีรษะ

โดยส่วนใหญ่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้มากเช่นเดียวกันคือ ในร้านเสริมสวย ร้านทำผม ร้านทำเล็บ ที่อาจละเลยเรื่องการทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้บนหนังศีรษะร่วมกันกับลูกค้าคนอื่น ๆ เช่น การใช้หวี ผ้าเช็ดผม หรือกรรไกรตัดเล็บ จึงอาจทำให้เชื้อราอยู่บนสิ่งของเหล่านี้ และทำให้เกิดการติดเชื้อราบนหัว เชื้อราบนผิวหนังบริเวณต่าง ๆ

ถึงแม้ว่าการเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะจะสามารถติดต่อได้หลากหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้กับทุกคนหากไม่มีแผลเปิดที่ผิวหนัง รวมไปถึงหากไม่มีอาการของภูมิคุ้มกันผิดปกติ ซึ่งเชื้อราอาจติดต่อได้ง่ายในกรณีผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และในเด็กเล็กที่มียังภูมิคุ้มกันต่ำอยู่

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ

แม้กว่าการติดต่อของโรคเชื้อราบนหนังศีรษะอาจจะมีโอกาสติดได้น้อยก็จริง แต่ทั้งนี้ก็สามารถติดต่อได้จากปัจจัยอื่น ๆ ได้เช่นกัน และด้วยปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่การเกิดโรคกลากเชื้อราบนหนังศีรษะได้


  • เชื้อราบนหนังศีรษะเด็กเกิดขึ้นกับเด็กเล็กถึงเด็กโตที่อยู่รวมกันในโรงเรียน มีความใกล้ชิดกันของคนหมู่มาก โดยมีอายุตั้งแต่ 4-14 ปี
  • การอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ใกล้ชิดคลุกคลี มีการสัมผัสกัน
  • การใช้สิ่งของที่ใช้บนหนังศีรษะร่วมกันกับผู้อื่น
  • เลี้ยงสัตว์เลี้ยงใกล้ชิด เลี้ยงในบ้าน หรืออยู่ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์
  • ไม่ล้างทำความสะอาดมือหลังจากจับสัตว์เลี้ยง
  • ผู้ที่มีสุขอนามัยไม่ดี ไม่ค่อยอาบน้ำสระผม
  • ผู้ที่มีหนังศีรษะเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา เช่น การเล่นกีฬา, ไม่เป่าผมให้แห้งหลังสระผม ฯลฯ
  • มีแผลบนหนังศีรษะ เกาศีรษะบ่อย ๆ
  • อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีอากาศร้อนชื้น
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ บกพร่อง เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็ง, โรคเอดส์ หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ฯลฯ

วิธีรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ

หากมีอาการคัน มีขุย สะเก็ด มีรอยแดง หรืออาจมีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงเป็นกระจุก ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราบนหนังศีรษะเกิดอาการลุกลามรุนแรง จนทำให้ผมบริเวณนั้นไม่ขึ้นอีกเลย รวมไปถึงไม่ควรซื้อยาทานหรือยาทานเอง เพราะถ้าหากเป็นหนักขึ้นอาจทำให้ผมร่วงถาวรได้

[attach=4]

โดยการรักษาอาการเชื้อราบนหนังศีรษะที่ไม่ได้มีอาการอักเสบ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้วิธีแก้เชื้อราบนหนังศีรษะออกไปจากร่างกายของคนไข้ ส่วนเชื้อราบนหนังศีรษะใช้ยาอะไร แพทย์อาจพิจารณาวิธีแก้เชื้อราบนหนังศีรษะด้วยยารักษาอาการบนหนังศีรษะ ดังนี้

  • ยาสระผม แชมพูฆ่าเชื้อรา โดยใช้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือใช้วันเว้นวันจนกว่าจะหาย หรือใช้ยาทาเชื้อราบนหนังศีรษะร่วมด้วย
  • ยารักษาเชื้อราบนหนังศีรษะแบบรับประทาน ซึ่งเป็นยาต้านเชื้อรา ซึ่งเป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ควรซื้อทานเอง โดยจะเป็นการรักษาร่วมกับยาทาเชื้อราบนหนังศีรษะ
ซึ่งวิธีรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะนั้น คนไข้ไม่จำเป็นต้องโกนผมออก โดยให้ใช้ยาทาเชื้อราบนหนังศีรษะบริเวณที่เป็นได้เลย ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้คนใกล้ชิด คนในครอบครัว ใช้ยาหรือแชมพูสระผมเพื่อต้านเชื้อราร่วมด้วย เนื่องจากคนใกล้ชิด คนในครอบครัวอาจเป็นพาหะนำโรคได้ เพื่อลดโอกาสในการแพร่กระจายของเชื้อ

ทั้งนี้ แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยาสระผมร่วมกับการรับประทานยา รวมไปถึงยาทาเชื้อราบนหนังศีรษะร่วมด้วย เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดียิ่งขึ้น และต้องกลับมาพบแพทย์เพื่อติดตามการรักษาเป็นระยะ

โดยส่วนใหญ่เชื้อราบนหนังศีรษะรักษาให้หายได้ใน 6-12 สัปดาห์ และเส้นผมจะฟื้นฟูในเวลา 4-6 เดือน ผมที่หลุดร่วงไปจะกลับมางอกเส้นใหม่ได้ตามปกติ

หลังจากรักษาอาการเชื้อราบนหนังศีรษะด้วยยาแก้เชื้อราบนหนังศีรษะหายเป็นปกติแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจแนะนำวิธีกระตุ้นรากผมให้กลับมาขึ้นใหม่ได้อย่างแข็งแรง เส้นผมดกหนา ด้วยวิธีต่าง ๆ อาทิ

  • การทำ PRP ผม
  • Fotona Laser
  • การทำเลเซอร์ LLLT
  • การฉีดสเต็มเซลล์ผม

ในบางกรณีที่หลังจากใช้วิธีกำจัดเชื้อราบนหนังศีรษะจนหายจากโรคเชื้อราบนหนังศีรษะแล้ว แต่ผมร่วงยังไม่ดีขึ้น และเส้นผมไม่งอกเส้นใหม่อีกโดยที่ไม่ได้เกิดแผลเป็นใด ๆ กรณีนี้อาจเกิดจากสาเหตุของอาการผมร่วงจากกรรมพันธุ์ที่เกิดจากฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนผมร่วง ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยยาแก้ผมร่วง

โดยในกรณีที่มีอาการอักเสบร่วมด้วยและปล่อยไว้โดยไม่ได้พบแพทย์ อาจทำให้เกิดเป็นแผลขนาดใหญ่บนหนังศีรษะจนทำให้เส้นผมร่วงถาวรได้ ดังนั้น หากเริ่มสังเกตอาการได้แต่ระยะเริ่มต้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาให้หายตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดแผลจากเชื้อราบนหนังศีรษะได้

ในกรณีที่เส้นผมไม่ขึ้นอีกเลยหลังอาการเชื้อราบนหนังศีรษะ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคต่าง ๆ ดังนี้


  • ปลูกผมถาวร
  • ปลูกผม FUE
  • ปลูกผม FUT
  • ปลูกผมลงในแผลเป็น

หากคุณกำลังมีปัญหาเรื่องเชื้อราหนังศีรษะและอาการผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะล้าน สามารถส่งรูปเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะของ Absolute Hair Clinic ได้ที่ Line: @Absolutehairclinic


วิธีป้องกันเชื้อราบนหนังศีรษะ

วิธีป้องกันเชื้อราบนหนังศีรษะเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเชื้อราบนหนังศีรษะและลดโอกาสที่ตัวเอง รวมไปถึงคนในครอบครัว คนใกล้ชิด จะเป็นพาหะนำโรคนี้ได้ ดังนั้น เราจึงต้องป้องกันการเกิดเชื้อราบนหัวดังคำแนะนำ ดังนี้


  • รักษาความสะอาด หลังสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง ให้ล้างมือให้สะอาดทันที
  • รักษาความสะอาดของหนังศีรษะและเส้นผม ด้วยการสระผมบ่อย ๆ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงที่มีเชื้อ รวมไปถึงหมั่นพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ
  • ไม่เกาศีรษะแรง ๆ
  • ไม่ควรใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
  • ผู้ปกครองและคุณครูควรให้ความรู้แก่เด็ก ๆ เกี่ยวกับโรคเชื้อราหนังศีรษะ การป้องกัน และวิธีการสังเกตอาการ

หากต้องอาศัยรวมกันอยู่กับครอบครัวที่มีคนเป็นโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ ควรป้องกันและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำ ดังนี้


  • ทำความสะอาดสิ่งของที่เป็นของใช้ส่วนตัวอยู่เสมอ เช่น แช่หวีลงในผงซักฟอกและน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:10 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง และซักทำความสะอาดผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผมด้วยน้ำร้อน และตากแดดจัดให้แห้ง
  • ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณต่าง ๆ ภายในบ้านเป็นประจำ
  • สมาชิกในบ้านรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงควรเข้ารับการตรวจรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ไม่ใช้สิงของร่วมกันในช่วงเวลาที่เกิดโรคเชื้อราหนังศีรษะ
  • หากเกิดโรคเชื้อราหนังศีรษะ สมาชิกในครอบครัวทุกคนควรใช้แชมพูขจัดเชื้อรา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์

ข้อสรุป

โดยส่วนมากแล้วเชื้อราบนหนังศีรษะเกิดได้กับเด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต ทั้งนี้ก็ยังสามารถเกิดได้ในผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำได้เช่นเดียวกัน จนอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงอย่างอาการคัน เป็นขุย ตกสะเก็ด เป็นรังแค อักเสบเป็นหนอง เกิดแผลบนหนังศีรษะ และเป็นสาเหตุให้ผมขาดหลุดร่วงเป็นหย่อม

แต่หากหมั่นสังเกตอาการของตัวเองเสมอ และเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยลดโอกาสที่โรคเชื้อราหนังศีรษะจะลุกลามจนทำให้เกิดการอักเสบ เป็นแผลขยายวงกว้าง เกิดแผลเป็นได้

หากคุณกำลังสงสัยว่ากำลังเป็นโรคเชื้อราหนังศีรษะอยู่ สามารถปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะของ Absolute Hair Clinic ได้ที่  Line: @Absolutehairclinic