ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ทำไมต้อง “ลี การ์เดนส์” บทเรียนวินาศกรรม ชี้ชัดเดินหน้าเจรจา-หยุดค้าสงคราม

เริ่มโดย ฅนสองเล, 10:38 น. 04 เม.ย 55

ฅนสองเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   3 เมษายน 2555 11:26 น.   

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ ... รายงาน
       
[attach=2]

โดยข้อเท็จจริง แผนการก่อวินาศกรรมภายในตัวเมืองหาดใหญ่คือ "ธง" ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนมาทุกยุคทุกสมัย นับตั้งแต่ขบวนการ "พูโล" ยังเป็นแกนนำ ซึ่ง "หะยีสะมะแอ ท่าน้ำ" และ "หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ" ก็เคยสั่งการให้วางระเบิดสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่หลายต่อหลายครั้ง
       
       ต่อมา เมื่อขบวนการ "บีอาร์เอ็นฯ" เป็นแกนนำในการก่อการร้ายเพื่อแบ่งแยกดินแดน ก็มีการวางระเบิดสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ในครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีปีแรก และมี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็น มท.1 และเป็นที่มาของคำว่า "โจรกระจอก"

       จากนั้น "หาดใหญ่" ก็ตกเป็นเป้าระเบิดอีกหลายครั้ง เช่น ระเบิดสนามบินนานาชาติหาดใหญ่เมื่อ 5 ปีก่อน ระเบิดหน้าห้างคาร์ฟูร์ และที่อื่นๆ โดยเฉพาะในย่านถนนเสน่หานุสรณ์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นย่านการค้า และท่องเที่ยวที่มีชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และเป็นย่านถนนคนเดิน
       
       ทั้งนี้ เสียงระเบิดเพิ่งจะห่างหายไปเมื่อครั้งที่ พล.อ.พิเชษฐ วิสัยจร เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ต่อเนื่องด้วย พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ภัพภาคที่ 4 ในขณะนี้ เท่ากับว่าหาดใหญ่ไม่มีระเบิดยาวนานถึง 4 ปีเต็ม
       
       โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาบีอาร์เอ็นฯ เพียรพยายามลำเลียงวัตถุระเบิดเข้ามาในกลางใจเมืองหาดใหญ่หลายครั้ง เช่น นำมาซ่อนไว้ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งน้ำหนักถึง 20 กก. แต่ถูกตรวจพบเสียก่อน และอีกหลายต่อหลายหน ที่ระเบิดทั้งหมดถูกสกัดไว้ได้ที่รอบนอกเมืองหาดใหญ่ หลายครั้งที่ชุดปฏิบัติการวางระเบิดที่มาฝังตัวในเมืองหาดใหญ่ถูกตรวจพบและหลบหนี ทำให้ระเบิดที่บีอาร์เอ็นฯ ต้องการให้เกิดขึ้นที่หาดใหญ่กลายเป็น "ระเบิดด้าน" มาตลอด

       ดังนั้น คาร์บอมบ์ล่าสุดเมื่อ 31 มี.ค.จึงเป็นระเบิดที่บีอาร์เอ็นฯ ปฏิบัติการได้เข้าจุดโฟกัสตามที่ต้องการ เพราะ "ลี การ์เดนส์ พลาซ่า" คือโรงแรม และศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และเป็นแหล่งรวมของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย-สิงคโปร์มากที่สุด
       
       ห้างหรู และโรงแรม 5 ดาว "ลี การ์เดนส์ พลาซ่า" จึงคือสัญลักษณ์ของหาดใหญ่ คาร์บอมบ์ที่เป็นสาเหตุของการตาย และเจ็บหลายร้อยคน จึงเป็นความเจ็บปวดของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ไม่สามารถป้องกัน "จุดยุทธศาสตร์" ทางเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้เอาไว้ได้
       
       อีกประเด็นหนึ่งที่ "ลี การ์เดนส์ พลาซ่า" ตกเป็นเป้าหมายของการก่อวินาศกรรม เนื่องจาก "เสี่ยฮง" หรือ "วันชัย ลีละศิธร" เจ้าสัวใหญ่ผู้เป็นเจ้าของคือหนึ่งในผู้สนับสนุน "โครงการวิทยุเครื่องแดง" ซึ่งเป็นวิทยุแจ้งเหตุภาคประชาชนของ "กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า"

[attach=1]

       ดังนั้น ปฏิบัติการทำลาย "ลี การ์เดนส์ พลาซ่า" จึงเท่ากับเป็นการข่มขวัญกลุ่มทุนหาดใหญ่ที่ให้การสนับสนุนการสร้างความสงบสุขของ "กอ.รมน."
       
       การวินาศกรรม "กล่องดวงใจ" ของเมืองหาดใหญ่ในครั้งนี้ คงจะไม่ต้องไปกล่าวหาหน่วยงานของรัฐว่าหละหลวมในการป้องกัน หรือล้มเหลวในด้านยุทธศาสตร์ และยุทธวิธี เพราะเท่าที่เห็นการทำหน้าที่ของ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ส่วนหน้า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภ.9 และนายกฤษฎา บุญราช ผวจ.สงขลา ซึ่งมีการประชุมประสานงานกันโดยตลอด
       
       รวมทั้งเห็นถึงความเข็มแข็งของเครือข่ายวิทยุเครื่องแดงของ "ศูนย์มณโฑ" ภายใต้การดูแลของ "มณฑลทหารบกที่ 42" ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า เมืองหาดใหญ่น่าจะรอดพ้นจากการก่อวินาศกรรมของบีอาร์เอ็นฯ ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวัง
       
       เหตุผลสำคัญที่ทำให้การควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุร้ายในเมืองหาดใหญ่มีอุปสรรคคือ ณ วันนี้มีผู้คนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้โยกย้ายเข้ามาอาศัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่นับหมื่นคน ซึ่งมีทั้งกลุ่มที่โยกย้ายมาเพราะไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด เพราะได้รับผลกระทบต่อวิถีชีวิตในเรื่องความไม่ปลอดภัย และกลุ่มที่แฝงเข้ามาอยู่เพื่อค้ายาเสพติด ทำผิดกฎหมาย ส่งยุทธภัณฑ์ขายให้แก่ "แนวร่วม" ในพื้นที่ 3 จังหวัด
       
       และกลุ่มสุดท้ายคือ "แนวร่วม" ที่บีอาร์เอ็นฯ ส่งเข้ามาฝังตัวเพื่อประสานงานกับ "แกนนำ" ทั้งทางด้านการคลัง ด้านธุรการ และรอโอกาสในการก่อการร้าย
       
       ยิ่งจำนวนผู้คนจาก 3 จังหวัดหลั่งไหลเข้ามาสู่นครหาดใหญ่มากเท่าไหร่ การป้องกันและการตรวจค้นยิ่งยุ่งยากมากขึ้น การแยกแยะ การระมัดระวังยิ่งทำได้ยาก เพราะสังคมของหาดใหญ่บางส่วน หรือบางพื้นที่กำลังถูก "กลืน" จนกลายเป็นสังคมของผู้คนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้แล้วด้วย
       
       วันนี้จึงไม่ควรจะกล่าวโทษว่าใครผิด ใครถูก ที่ปล่อยให้แนวร่วมบีอาร์เอ็นฯ นำรถยนต์ที่ประกอบเป็นคาร์บอมบ์เข้าไปก่อวินาศกรรมโรงแรม และห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดจนเสียหายอย่างหนัก และที่หนักกว่าคือ เศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวของเมืองหาดใหญ่อาจจะทรุดยาวอีกนับปี
       
       แต่สิ่งที่ฝ่ายกองทัพ ปกครอง ท้องถิ่น ตำรวจ และรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นแก่ประชาชน และกับประเทศเพื่อนบ้านว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความด้อยประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ เป็นองค์ประกอบด้วย และต้องมีแผนการป้องกัน และการเผชิญเหตุที่ชัดเจน เพื่อเรียกความเชื่อมันของทุกภาคส่วนให้คืนมา

       สิ่งที่หน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็น กอ.รมน. ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองต้องปรับปรุงอย่างแรกคือ "การข่าว" เพราะงานการข่าวของทุกหน่วยไม่ลึก และกว้างเพียงพอ เช่น กอ.รมน.ทราบข่าวการประกอบคาร์บอมบ์ก่อนก่อเหตุครั้งนี้ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่ทราบว่าเป้าหมายอยู่ที่ไหน ซึ่งถือว่าเป็นการข่าวที่ล้มเหลว
       
       ดังนั้น เฉพาะในเมืองหาดใหญ่ฝ่ายที่รับผิดชอบงานการข่าวต้องมี "สายข่าว" แฝงตัวอยู่ทุกชุมชนที่เป็นเป้าหมาย ต้องปรับปรุงหน่วยงานตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักยานยนต์ไปประกอบคาร์บอมบ์ โดยใช้เจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ และความชำนาญในแต่ละด้าน ไม่ใช่ปล่อยใครก็ได้เข้ามาอยู่ในหน่วย แม้กระทั่งการตั้งด่านตามโรงแรม หรือในสถานที่ต่างๆ ก็ต้องใช้วิธีการพิเศษทั้งสิ้น

[attach=3]
       
       แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความร่วมมือจากภาคประชาชน
       
       เหตุการณ์ "ตึกนรก" 5 ชั่วโมงที่เกิดขึ้นกับโรงแรม และศูนย์การค้าลี การ์เดนส์ พลาซ่า ในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็น "จุดบอด" มากมาย โดยเฉพาะแผนเผชิญเหตุที่ไม่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การดับเพลิงที่กระท่อนกระแท่น อุปกรณ์ไม่ทันสมัย ผู้คน การสั่งงานที่ไม่พร้อม ขาดการประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ของท้องถิ่น ทั้งที่เมืองหาดใหญ่เทียบได้กับมหานครที่มีตึกระฟ้าจำนวนมาก ซึ่งย่อมเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา
       
       ดังนั้น เหตุการณ์ที่ห้าง และโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า จึงเป็นบทเรียนบทหนึ่งที่ "ท้องถิ่น" ต้องปรับกระบวนการทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของสถานการณ์ เพราะสถานการณ์เช่นนี้จะยังเกิดขึ้นกับเมืองหาดใหญ่ได้อีกหลายครั้ง หากภาครัฐบาลยังไม่มีช่องทางยุติการก่อการร้ายเพื่อแบ่งแยกดินแดนลงได้ในเร็ววัน
       
       การที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ของบีอาร์เอ็นฯ เป็นผลจากการเปิดแผนเชิงรุกทางการเมืองของ กอ.รมน. ซึ่งเป็นการรุกทางการเมือง เช่น การเปิดพื้นที่พูดคุยเพื่อสันติภาพที่เริ่มได้ผล แสดงว่าบีอาร์เอ็นฯ กลัวการพูดคุย กลัวทหารไม่ใช้ความรุนแรง
       
       ดังนั้น เมื่อบีอาร์เอ็นฯ กลัววิธีการรุกทางการเมือง สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ การเปิดพื้นที่พูดคุยต่อ และต้องไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ แต่ในขณะเดียวกัน กอ.รมน.ต้องมีแผนทางยุทธวิธีในการป้องกันการก่อเหตุร้ายของบีอาร์เอ็นฯ ที่ได้ผลด้วย
       
       ขอให้ความล้มเหลวในครั้งนี้ก่อให้เกิด "พลัง" จากภาคประชาชน และหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย จะได้หันมาวางแผนป้องกันเหตุ สร้างแผนเผชิญเหตุ และพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับงาน
       
       และที่สำคัญที่สุด ทุกหน่วยงานควรยุติการ "ค้ากำไร" หรือ "ค้าสงคราม" โดยเอาวิกฤตของประเทศชาติ และความทุกข์ยากของประชาชนเป็นโอกาส เพราะหากวันนี้ทุกฝ่ายยังไม่มี "เอกภาพ" ในการบูรณาการร่วมกัน เราคงจะเห็นภาพความสูญเสียอย่างที่เกิดขึ้นที่ห้าง และโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซา อีกนับครั้งไม่ถ้วน

Probass

ก่อนจะจบบทความ มีย่อหน้านึง

เหตุการณ์ "ตึกนรก" 5 ชั่วโมงที่เกิดขึ้นกับโรงแรม และศูนย์การค้าลี การ์เดนส์ พลาซ่า ในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็น "จุดบอด" มากมาย โดยเฉพาะแผนเผชิญเหตุที่ไม่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การดับเพลิงที่กระท่อนกระแท่น อุปกรณ์ไม่ทันสมัย ผู้คน การสั่งงานที่ไม่พร้อม ขาดการประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ของท้องถิ่น ทั้งที่เมืองหาดใหญ่เทียบได้กับมหานครที่มีตึกระฟ้าจำนวนมาก ซึ่งย่อมเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา


ตอนน้ำท่วมก็ไม่มีเรือ เครื่องสูบไม่พอ  ตอนเพลิงไหม้ อะไรๆก็ไม่พร้อม  แล้วจะไปหวังพึ่งอะไรจากหน่วยงานรัฐ 
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

คนคลองเรียน 2

เมื่อคืนนายกเทศมนตรี ดร.ไพร  ออกมาให้ข้อมูลกับช่อง TPBS เเละอีกหลายๆช่อง(เห็นข่าวราวช่วงค่ำๆ)
"ยอมรับว่าศูนย์การค้าในหาดใหญ่  ตึกใหญ่ๆสูงๆ  มีการก่อสร้างที่ไม่เป็นมาตรฐาน" (อ้างจากคำพูดของ ดร.ไพร  ในช่อง TPBS)


เเบบนี้เวลาเราไปเดินเที่ยวห้างก็เเย่ฮะจิ   ขนาดนายกยังยอมรับกับสื่อเลย  ในอนาคตจะมีเเนวทางในการปรับปรุง-ป้องกันยังไงนะ
ส.อืม

เมืองบาป


คนคลองเรียน 2

การก่อสร้างที่ไม่เป็นมาตรฐาน   <  <  ในความเข้าใจของเรานี่คงเป็นประมาณ  เรื่องเวลาไฟไหมเเล้วบันไดหนีไฟมีปัญหา  เเบบในลีก็บันไดทางหนีไฟถูกล็อค  ไรเเบบงี้   ว่าเเต่จะมีเเนวทางป้องกัน  เเก้ไขยังไงในอนาคตนี่   ส.อืม

Probass

อ้างจาก: คนคลองเรียน 2 เมื่อ 10:59 น.  04 เม.ย 55
เมื่อคืนนายกเทศมนตรี ดร.ไพร  ออกมาให้ข้อมูลกับช่อง TPBS เเละอีกหลายๆช่อง(เห็นข่าวราวช่วงค่ำๆ)
"ยอมรับว่าศูนย์การค้าในหาดใหญ่  ตึกใหญ่ๆสูงๆ  มีการก่อสร้างที่ไม่เป็นมาตรฐาน" (อ้างจากคำพูดของ ดร.ไพร  ในช่อง TPBS)


เเบบนี้เวลาเราไปเดินเที่ยวห้างก็เเย่ฮะจิ   ขนาดนายกยังยอมรับกับสื่อเลย  ในอนาคตจะมีเเนวทางในการปรับปรุง-ป้องกันยังไงนะ
ส.อืม

แสดงว่า ไม่ใส่ใจ และ ไม่กวดขัน 

รวมถึงหลายๆเรื่องที่ไม่กวดขัน เพราะกลัวนักท่องเที่ยวจะลดลง

หาดใหญ่ มันเลยวุ่นวาย  เมื่อไหร่ พรบ.ต่างๆที่มีอยู่ เทศบาลจะเอามาบังคับใช้ซะที
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

วอร์เตอร์พุ

อ้างจาก: Probass เมื่อ 11:05 น.  04 เม.ย 55
แสดงว่า ไม่ใส่ใจ และ ไม่กวดขัน 

รวมถึงหลายๆเรื่องที่ไม่กวดขัน เพราะกลัวนักท่องเที่ยวจะลดลง

หาดใหญ่ มันเลยวุ่นวาย  เมื่อไหร่ พรบ.ต่างๆที่มีอยู่ เทศบาลจะเอามาบังคับใช้ซะที
[/quo
ทำไม่ได้หรอก ฐานเสียงทั้งนั้นกลัวเขาไม่เลือก ใครจะตายก็ตายไป

ขุนศึก

ส่วนตัวเห็นขัดแย้งกับบทความข่าวนี้อยู่ในบางส่วน

1.ในประเด็นของสาเหตุที่ "ลี การ์เดนส์ พลาซ่า" ตกเป็นเป้าหมายของการก่อวินาศกรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อการต้องการที่จะโจมตีย่านการค้าและเศรษฐกิจของหาดใหญ่นั้น หากมุ่งหวังผลในด้านลบจริงจุดเกิดเหตุไม่น่าจะเป็นชั้นจอดรถ หากพิจารณาเรื่องอานุภาพการทำลายครั้งนี้ ประกอบกับข้อเท็จจริงเรื่องหวังผลในการทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจ จึงมองได้ว่าหากรถยนต์คันก่อเหตุนี้จอดอยู่ริมถนนในย่านการค้า ความสูญเสียต่อชีวิตจะมีมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมากหลายเท่าตัว และถ้ามีความสูญเสียด้านชีวิตมากเท่าไหร่ผลกระทบกับเศรษฐกิจยิ่งมีมากเท่านั้น

2.ด้วยอานุภาพการทำลายของระเบิดที่ ลี การ์เด้นนั้น มีความเชื่อได้ว่าคนร้ายเจาะจงที่จะระเบิดภายในอาคารมาตั้งแต่ต้น ด้วยคนร้ายได้วางแผนมาเป็นอย่างดี มีการบรรจุสารระเบิดมากกว่าปกติเพื่อหวังผลให้แรงระเบิดทะลุขึ้นไปตามชั้นอื่นๆ รวมทั้งจุดที่คนร้ายนำรถไปจอดซึ่งเป็นรถไปจอด ก็มีข้อจำกัดเรื่องรัศมีการทำลายอยู่มาก

3.การจุดระเบิด เนื่องจากสถานที่จอดรถใต้ห้างนั้นเป็นจุดอับ ผู้จุดจะไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ก่อนจุด จึงเชื่อได้ว่าผู้จุดระเบิด จุดระเบิดแค่ตามเวลาหรือตามแผนที่เตรียมมาเท่านั้น จะต่างจากกรณีการจุดระเบิดในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่มุ่งหวังสังหารชีวิต เพราะการจุดระเบิดในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้นผู้จุดจะมีการตรวจสอบเฝ้าดูเป้าหมายให้เข้ามาในรัศมีของระเบิดก่อนถึงจะจุด และในวันเวลาที่เกิดเหตุระเบิดที่ ลี การ์เด้น นั้นคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดภายหลังจากที่เกิดเหตุระเบิดในสามจังหวัดไปไม่นาน จึงเสมือนเป็นการวางระเบิดเชิงสัญลักษณ์มากกว่า

4.การกล่าวว่า ลี การ์เด้น โดนโจมตีเพราะเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนวิทยุเครื่องแดงนั้น หากพิจารณาจากวิธีการและแนวคิดของกลุ่มคนร้ายแล้ว จะเห็นได้ว่าจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในชายแดนใต้นั้น กลุ่มคนร้ายนิยมสังหาร ทำร้าย หรือ ข่มขู่แนวร่วมฝ่ายรัฐเสียมากกว่า และเป็นที่ทราบกันดีว่าพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดสันติสุขและกิมหยงล้วนเป็นเครือข่ายวิทยุเครื่องแดงแทบทั้งสิ้น หากต้องการทำลายขวัญกำลังใจของวิทยุเครื่องแดง เป้าหมายก็น่าจะชี้ไปที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ3 หรือ นิพัทธ์อุทิศ2 มากกว่าที่จะเป็นที่จอดรถลี การ์เด้น

5.หากการโจมตีนี้หวังผลด้านการลงทุนและเศษฐกิจ ก็น่าจะโจมตีที่ห้างยักษ์ใหญ่ต่างถิ่นที่มาลงทุนในหาดใหญ่ ไม่ใช่ห้างท้องถิ่นที่มีความสามารถในการลงทุนที่น้อยกว่า

6.หากมองเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ถ้าจะกล่าวกันจริงๆ ไม่ว่าลี การ์เด้นหรือห้างอื่นๆก็แทบจะไม่แตกต่างกัน เพราะบุคคลากรที่มาตรวจรถหรือคนเข้าออกสถานที่ล้วนไม่ใช่ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง กล่าวคือถึงแม้จะพบเจอระเบิดบุคลากรเหล่านั้นก็คงไม่สามารถแยกออกว่านั่นคือระเบิด ระบบการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ต่างๆจึงเป็นเสมือนการป้องปราม ดังนั้นถ้าจะบอกว่าคนร้ายเจาะจงลี การ์เด้น เพราะระบบรักษาความปลอดภัยอ่อนแอก็ไม่น่าจะจริง

บทความนี้เหมือนจะขาดข้อมูลหลายอย่างในการนำมาประกอบ และ เหมือนบทความนี้เป็นการรีบสรุปเพื่อชิงพื้นที่ของสื่อ บทความนี้จึงดูว่าเป็นความคิดเห็นที่ไม่รอบด้านเท่าที่ควร ส่วนตัวไม่อยากให้ทุกฝ่ายรีบสรุปในเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้รอข้อมูลของทางรัฐมาประกอบเพิ่มมากกว่านี้ก่อนครับ

ในตอนนี้จึงอยากให้ทุกคนมองในภาพรวมว่า ลี การ์เด้น เปรียบเสมือนเป็นแพะ เป็นหนึ่งในผู้ถูกกระทำ เป็นหนึ่งในผู้ต้องมารับผลกรรมของความขัดแย้งเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเค้าเป็นผู้สนับสุนวิทยุเครื่องแดง ไม่ใช่เพราะเค้าเป็นโรงแรม 5 ดาว เค้าจึงโดนระบิดครับ

ขุนศึก

อ้างจาก: Probass เมื่อ 10:47 น.  04 เม.ย 55
ก่อนจะจบบทความ มีย่อหน้านึง

เหตุการณ์ "ตึกนรก" 5 ชั่วโมงที่เกิดขึ้นกับโรงแรม และศูนย์การค้าลี การ์เดนส์ พลาซ่า ในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็น "จุดบอด" มากมาย โดยเฉพาะแผนเผชิญเหตุที่ไม่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การดับเพลิงที่กระท่อนกระแท่น อุปกรณ์ไม่ทันสมัย ผู้คน การสั่งงานที่ไม่พร้อม ขาดการประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ของท้องถิ่น ทั้งที่เมืองหาดใหญ่เทียบได้กับมหานครที่มีตึกระฟ้าจำนวนมาก ซึ่งย่อมเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา


ตอนน้ำท่วมก็ไม่มีเรือ เครื่องสูบไม่พอ  ตอนเพลิงไหม้ อะไรๆก็ไม่พร้อม  แล้วจะไปหวังพึ่งอะไรจากหน่วยงานรัฐ 

ผมสนใจประเด็นข้อสังเกตุของท่าน Probass ด้วยเหมือนกันครับ ทุกวันนี้อาคารสูง คอนโดมิเนียม ในหาดใหญ่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด หากเทศบาลมีรถกระเช้าดับเพลิงในจำนวนจำกัดแค่ 1-2 คัน รวมทั้งมีขอบเขตที่จะรับความสูงได้แค่ 2-5 ชั้น ก็ดูว่าจะไม่พอเพียงหากเกิดเหตุในกรณีนี้หรือกรณีอื่นๆครับ

attapong9

ความคิดเห็นของผม คือ เรื่องการเมือง ครับ ถ้าเรื่องแบ่งแยกแค่เศษส่วน มันต้องลอง บวก ลบ คูณ หาร ดู ครับ ว่าใครเสียประโยชน์ และใครได้ประโยชน์ จากการระเบิดแต่ะละครั้ง  แล้วทำไมต้องทิ้งช่วงนานขนาดนั้นถ้าเป็นเรื่องแบ่งแยก ไม่จำเป็นต้องเป็นลีกาเดนท์หรอก มันก็โดนๆ มาหลายๆ ที่ กว่าจะมาที่ลีกาเดนท์ **เบี่ยงเบนประเด็น

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

เราจะก้าวข้ามภัยการก่อการร้ายไปได้อย่างไร
บทเรียนที่ ลี การ์เด้นส์ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า หาดใหญ่ของเรายังไม่ปลอดภัย
การเพิ่มความรอบคอบ การพ่งอุปกรณ์ เป็นอีกเรื่อง
จริงๆควรจะประสานงานกันหลายๆฝ่าย เน้นเด็ดขาด ใครมีเอี่ยวกับภัยกอการร้ายต้งฟันไม่เลี้ยง กำจัดให้หมด
การดูแลรักษาความปลอดภัยต้องทำต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญ "ต้องก้าวข้ามโจร" เพาะทุกวันนี้ "เดินตามไม่ทันโจร" อันตรายต่างๆจึงเกิดกับประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องตกเป็นเหยื่อ

ล่าสุด ที่ผมสังเกตุ หน้าโรงแรมคิงส์ สาย 1 มีทหารมาช่วยดูแล  แต่เมื่อวาน กับวันนี้ เห็นนั่งคุย นั่งกิน แต่ไม่ได้เดินตรวจตราอะไรกันเลย  ... ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

โอเลี้ยงยกล้อ

นึกถึงเมื่อกลางปีที่แล้ว ที่มีข่าวเทศบาลนครหาดใหญ่ เดินหน้ายกฐานะเป็นมหานคร มีการพูดคุยและ ศึกษา แนวทางร่าง พ.ร.บ.มหานครหาดใหญ่ ยกเป็นเขตการปกครองพิเศษดังเช่น พัทยา มีข้อความจากข่าวตอนนึงว่า

"เช่นปัญหาที่เกิดกับเมืองหาดใหญ่ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เก็บภาษีได้มากพอกับเมืองพัทยา แต่ได้รับการจัดสรรเพียงปีละ 900 ล้านบาท โดยรายได้มาจากการเก็บภาษีเองได้มากราว 450 ล้าน/ปี กลับมีรายจ่ายเป็นค่าเงินเดือนถึงเกือบ 800 ล้านบาท/ปี ขณะที่เงินอุดหนุนกลับต้องแบ่งให้อบจ. 10% ส่วนที่เหลือแบ่งกับ อบต.และเทศบาลอื่นๆ จึงไม่เพียงพอกับการแก้ปัญหา และไม่สามารถบูรณาการพื้นที่แก้ปัญหาในวงกว้าง เช่น ปัญหาน้ำท่วมได้"

ผมคิดเอาเองว่า นี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อุปกรณ์เกี่ยวกับการป้องกันภัยต่างๆของหาดใหญ่จึงไม่ทันสมัย และ ไม่เพียงพอต่อความต้องการดังปัจจุบัน แค่ค่าเงินเดือนก็แจ้งเป็นตัวเลขออกมาตั้งเกือบ800ล้านบาท จะเอาเงินที่ไหนมาพัฒนาเมือง อยากให้ การศึกษา พ.ร.บ.มหานครหาดใหญ่ ดำเนินอย่างต่อเนื่อง และ ทำให้เป็นจริงได้ในเร็ววัน ระบบสาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัยของหาดใหญ่ คงจะดีขึ้นกว่านี้ ไม่ต้องรออนุมัติงบจากส่วนกลางเหมือนเช่นที่ผ่านมา

puiey

ควรจะหยุดการก่อการร้ายได้แล้วนะครับ ประเทศไม่ก้าวไปข้างหน้าเลย แต่ประเทศอื่นเค้ากำลังเดินหน้ากันหมด ขอร้องทุกฝ่ายให้หยุดและหันมาร่วมมือกัน เจรจากันหาข้อยุติให้ได้ เพราะยังไงทุกคนก็คือคนไทย
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

ธรรมในใจ

และที่สำคัญที่สุด ทุกหน่วยงานควรยุติการ "ค้ากำไร" หรือ "ค้าสงคราม" โดยเอาวิกฤตของประเทศชาติ และความทุกข์ยากของประชาชนเป็นโอกาส เพราะหากวันนี้ทุกฝ่ายยังไม่มี "เอกภาพ" ในการบูรณาการร่วมกัน เราคงจะเห็นภาพความสูญเสียอย่างที่เกิดขึ้นที่ห้าง และโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซา อีกนับครั้งไม่ถ้วน


ในเมื่อเราๆ เองก็ทราบดีว่าแต่ละหน่วยงานค้ากำไร  ทำไมเราไม่ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับคนเหล่านั้น  พอเกิดเหตุก็บอกว่าอดีตนักการเมืองบ้าง โน่นนี่บ้าง  เมื่อรู้ก็ดำเนินการเลยซิครับ  ทั้งทางลับทางแจ้ง  ปล่อยให้ชั่วกันอยู่ได้

ธรรมในใจ

ขอต่ออีกนิด  ทำไมคนชั่วๆ ที่มีเงินบ้านเราถึงได้รับการนับหน้าถือตาในสังคมกันมากนักนะ

ฉลาดน้อยลง

การพูดเท็จคือการทำบาปเมื่อทำบาปสิ่งศักสิทธิ์ไม่สามารถปกป้องคุ้มครองรักษา ท่านให้ความโง่กับผู้อื่น ท่านก็ได้ความโง่กลับไป ถ้าอยากฉลาดและสิ่งศักสิทธิ์คุ้มครอง จงพูดความจริง ให้อะไรได้อย่างนั้น

หมาป่า

ก่อนมีเหตุการณ์รุนแรงทางสามจังหวัดชายแดนใต้ มีเพื่อนเป็นทหารมีฐานะตามอัตภาพความเป็นอยู่แบบว่าพื้นๆ เดี๋ยวมีรถยนต์ส่วนงานให้ใช้มีเงินทองก็ยินดีด้วย แต่มันบอกสามจังหวัดสงบเมื่อไร บ้านและรถผ่อนมีปัญหาแน่ สงสัยว่าชาตินี้คงไม่สงบแน่ ส.โขกกำแพง 

OMG

หน่วยงานป้องกันของ รัฐ อุปกรณ์ เครื่องมือ พร้อม ทันสมัย แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ ........... ไม่เหมือน มูลนิธิฯ ที่ อุปกรณ์เค้ามีน้อยนิด แต่ใจ เข้า .......... เต็มร้อย  หันมาสนับสนุน คนเหล่านี้กันดีกว่า ครับ

กลัวค่ะ

ก่อนมีเหตุการณ์รุนแรงทางสามจังหวัดชายแดนใต้ มีเพื่อนเป็นทหารมีฐานะตามอัตภาพความเป็นอยู่แบบว่าพื้นๆ เดี๋ยวมีรถยนต์ส่วนงานให้ใช้มีเงินทองก็ยินดีด้วย แต่มันบอกสามจังหวัดสงบเมื่อไร บ้านและรถผ่อนมีปัญหาแน่ สงสัยว่าชาตินี้คงไม่สงบแน่   


ส.บ่นน่าคิด บางทีคนกันเองนี่เเหละ ปัญหามากเงินก็มากตาม งบก็มา ส.บ่น