ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่! วลีเด็ด...เด็กเกรียน เหน็บถึงนายกฯ ปู

เริ่มโดย ฅนสองเล, 11:03 น. 11 เม.ย 55

ฅนสองเล

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   10 เมษายน 2555 20:00 น.   
[attach=1]


[attach=2]
ภาพนายกฯ กดโทรศัพท์มือถือ ก็เกี่ยวกับครูอังคณาได้

[attach=3]
เด็กนักเรียนห้อง ม.1/9

[attach=4]
หน้าเพจของครูอังคณาตัวปลอม

[attach=5]
เด็กชายบอลออกมาชี้แจงถึงกรณี "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่"


[attach=6]
ครูอังคณา ดังชั่วข้ามคืน


   
ช่วง1-2 วันที่ผ่านมาบรรดาคนใช้อินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะชาว facebook 10 ล้านกว่าคน พอเปิดหน้าแรกคงอดแปลกใจและตั้งคำถามว่า ประโยคนี้มันคืออะไร? เมื่อเจอวลีแปลกๆ "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่!" ซึ่งกลายเป็นวลีฮอตฮิต โด่งดังชั่วข้ามคืนจนถูกส่งต่อ และแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ รวมถึงโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ อย่าง twitter และ youtube
       
       
       สงสัยไหมว่า ทำไมแค่คำพูดไม่กี่ประโยคของเด็กเกรียนคนหนึ่ง ที่ออกมาระบายความคับแค้นใจผ่านสื่อสังคมออนไลน์จึงกลายเป็นประเด็นทางสังคมได้ในชั่วเวลาเพียงแค่ข้ามคืน หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สนุก และให้ความบันเทิง คลิปวิดิโอดังกล่าวจึงส่งต่อๆ กันไป จนกลายเป็นกระแสทางสังคมและเรื่องถูกกล่าวถึงมากที่สุด
       
       เด็กเกรียนอยากระบาย
       เด็กชายในคลิปวิดิโอดัง ซึ่งต่อมาทราบว่าชื่อ "เด็กชายพงศธร" หรือ "โต๊ด" ถูกเพื่อนในกลุ่มไล่ออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม ม.1/9 ในเว็บไซต์ facebook เนื่องจากสมาชิกของกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะโพสปรึกษาหารือเรื่องงาน บางครั้งก็มีอาจารย์เข้ามาโพสเรื่องวิชาที่จะออกสอบ แต่เด็กชายโต๊ดจะโพสเพียงคำว่า จุด...จุด...จุด... เป็นร้อยๆ จุด จนดันให้ข้อความที่เพื่อนๆ โพสบนหน้า wallหายไป อาการเหมือนอยากป่วนเพื่อนๆ จนเพื่อนในกลุ่มลงมติให้ลบชื่อเด็กชายโต๊ดออกจากลุ่ม
       
       หลังจากนั้นเด็กชายโต๊ดจึงเกิดอาหารน้อยใจ ถ่ายคลิปตนเองลงบนเว็บไซต์ youtube จนกลายเป็นกระแสดัง
       
       
       เนื้อความในคลิปวีดีโอชื่อดัง "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" ถูกโพสโดยสมาชิกชื่อ Chintakoza ผ่านเว็บไซต์ youtube เป็นการระบายความแค้นใจออกมาด้วยน้ำเสียง และคำพูดเชิงตัดพ้อเพื่อนว่า "ไอ้บอล...ทำไมต้องไล่กูออกด้วย เพราะเรื่องกะโหลกกะลาแค่นี้เหรอ" ต่อมาเด็กชายใช้วลีเด็ดด้วยสีหน้าขึงขัง และน้ำเสียงจริงจัง ประกาศกร้าวว่า "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่!" เป็นที่มาของวลีฮิตดังกล่าว ซึ่งหลังจากเผยแพร่เพียงแค่ 2 วัน ก็มียอดคนคลิกเข้าไปดูในเว็บไซต์ยูทูบเกือบ 7 แสนวิวแล้ว
       
       ต่อมาเด็กชายบอลซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง และเป็นคู่กรณีของเด็กชายโต๊ด ออกมาชี้แจงบนเว็บไซต์ facebook ผ่านโทรศัพท์มือถือ มีข้อความว่า "ผมบอลนะครับเรื่องมันมีอยู่ว่าผมเป็นหัวหน้าห้อง 1/9 ในกลุ่มมีอยู่ 28 คน แล้วพงศธรเนี่ยเวลาเขาคุยงานกันก็ไม่ออกความเห็น แต่พอเวลาเขามีงานกันพงศธร ก็จะจุดๆๆ สักทีละร้อยจุดได้ เพื่ออะไรไม่รู้ ก็รู้อยู่ว่าในเฟซตันแค่ 99 ข้อความ แล้วเขาเกินร้อยทีนี้มันก็ค้างสิครับงานก็หายแล้ว คนในกลุ่มเลยรวมความเห็นกัน แล้วบอกให้ผมที่เป็นแอดมิน ไล่ออกจากกลุ่ม ...เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ทุกคนก็ดูกันเองว่าใครถูกใครผิด"
         
       
       ตัวละครหลักๆ ในเรื่องล้วนดังในชั่วข้ามคืนไม่แพ้กัน เริ่มจาก "เด็กชายพงศธร" (โต๊ด) คือเจ้าของวลีเด็ด "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่!" ตัวละครต่อมา "ไอ้บอล" คือหัวหน้าห้อง ม.1/9 ซึ่งเป็นคนที่เด็กชายโต๊ดเข้าใจว่าเป็นคนปลดตนออกจากกลุ่ม และ "ครูอังคณา" ซึ่งเป็นชื่อของครูประจำชั้นห้อง1/9 ก็กลายเป็นบุคคลที่มีคนอยากรู้จักมากที่สุด บ้างก็ตามหาว่าเธอเป็นใคร มีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า แม้กระทั่งชื่อของเธอยังถูกนำไปตั้งเป็นแฟนเพจ และมีคนแต่งเพลง "ครูอังคณา" ตามมาอีกหลายเวอร์ชัน ซึ่งก็เป็นกระแสดังในเว็บไซต์ยูทูบอยู่ในขณะนี้
       
       ฟ้อง "ครูอังคณา" ฮิตกระจายไปทั่วเมือง
       หลายคนอาจจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ บางกลุ่มก็มองว่าเป็นเรื่องขำขัน และนำวลีเด็ดไปใช้เป็นคำพูดเฮฮาในกลุ่มเพื่อนฝูงอย่างสนุกปาก ยกตัวอย่างเช่น
       
       
       "ใครที่ชอบทะเลาะกัน เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่"
       
       "ใครไม่กดlikeเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่"
       
       "สงกรานต์นี้ใครไม่ไป ฟ้องครูอังคณาแน่"
         
       
       ณ ตอนนี้ไม่ว่าอะไรๆ ก็เกี่ยวข้องกับครูอังคณาแทบทั้งนั้น แถมยังแพร่กระจายไปถึงแวดวงการเมือง อย่างกรณีภาพของนายกยิ่งลักษณ์ ที่กำลังกดโทรศัพท์อยู่ในงานพระราชพิธี ซึ่งถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตว่าไม่เหมาะสม ทั้งนี้นายพานทองแท้ ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแจงภาพนายกฯ กดโทรศัพท์ว่าแค่ปิดเครื่องก่อนเริ่มงานพระราชพิธี พร้อมเหน็บว่า '..หรือว่าจะให้เรื่องนี้ถึงครูอังคณาครับ'
         
       
       "เหตุเกิดจากในงานพระราชพิธีเพลิงพระศพเมื่อวานนี้ครับ เป็นภาพท่านนายกที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ในงาน ผมเองเห็นภาพครั้งแรกยังแอบสงสัยเลยโทรไปสอบถามเรื่องราวทันที ได้คำตอบว่าท่านนายกกำลังปิดโทรศัพท์ก่อนเริ่มงานพิธีครับ ตลกดีนะครับ คนเราช่างว่างจับผิดกันจัง แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์คิดได้ เพราะภาพตอนแรกที่ออกมามีแค่ภาพท่านนายกถือโทรศัพท์ ไม่ได้มีภาพในมุมกว้างออกมาด้วย จึงง่ายต่อการเข้าใจผิดกัน หรือว่าจะให้เรื่องนี้ถึงครูอังคณาครับ" ข้อความจากfacebook/Oak Panthongtae Shinawatra
       
       "ครูอังคณา" ...ไขข้อข้องใจ
       กระแส "เด็กชายโต๊ด" กับวลีเด็ด "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" กลายเป็นกระแสฮิตข้ามคืนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค ถึงขนาดมีคนตั้ง facebook fanpage "เรื่อง นี้ ถึง ครู อังคณา แน่" ซึ่งมียอดคนกด Like กว่า 2 หมื่นแล้ว นอกจากนั้นยังมีเพจของครูอังคณาตัวปลอมออกมาอย่างแพร่หลาย แถมชื่อครูอังคณายังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักแต่งเพลงบนโลกออนไลน์ สามารถแต่งเพลงออกมาได้ภายในชั่วข้ามคืนอย่างคลิปเพลง "ครูอังคณาครับ" ซึ่งใช้เรื่องราวของเด็กชายโต๊ดเล่าเรื่อง ประกอบกับวลีเด็ด "เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่" มาแต่งเป็นเพลงที่มีเนื้อหาและท่วงทำนองน่ารักในจังหวะฟังสบายๆ ความยาว3:42 นาที
         
       
       หลายคนอยากรู้ว่าครูอังคณาเป็นใคร มีตัวตนจริงหรือเปล่า ซึ่งเธอถือว่าเป็นตัวละครสำคัญที่จะมาไขความกระจ่างในประเด็นต่างๆ ที่คนสงสัยได้
       
       
       ครูอังคณากล่าวถึงประเด็นดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า "เรื่องที่เป็นประเด็นนี้เกิดขึ้นประมาณช่วงเดือนมกราคม พอครูทราบเรื่องก็เรียกสมาชิกในห้องมาเคลียร์กันว่าไม่ให้มีปัญหาแบบนี้เวลาเล่นเฟซกัน หลังจากที่เคลียร์กันจบแล้ว ครูก็ให้หัวหน้าห้องลากเด็กชายโต๊ดกลับเข้ามาในกลุ่ม สำหรับคลิปของเด็กชายโต๊ดซึ่งโพสลงเว็บไซต์ยูทูบเมื่อเร็วๆ นี้ ครูก็ยังงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนโพส เพราะว่าเรื่องนี้จบไปนานแล้ว เด็กชายโต๊ดก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเอาไปลง ตอนนี้ทุกคนในห้องก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

        http://youtu.be/oqnDOQ9Pg_o
       

       การใช้เฟซบุ๊คมีทั้งแง่ดีและแง่เสีย ครูก็จะมีการบอกกับเด็กว่าการเล่นที่ถูกต้องเป็นยังไง สามารถใช้อะไรจากเฟซบุ๊คได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพที่ไม่สมควรเอามาลง ครูจะพูดกับเด็กๆ เสมอว่า หนูพิมพ์อะไรลงไปมันเป็นชื่อเสียงของห้องด้วยนะ เวลาจะพิมพ์อะไรสักอย่างหนึ่ง ชื่อหนูก็ขึ้น ชื่อห้องก็ขึ้น และครูอังคณาจะตั้งกฎในกลุ่มนี้ว่า หนึ่งห้ามใช้คำหยาบ สองห้ามโพสในเชิงชู้สาว และใครที่ไม่มี facebook เล่น ถ้ามีเรื่องด่วน เรื่องสำคัญก็ให้ใช้วิธีโทรศัพท์แจ้งกัน
       
       
       สื่อออนไลน์ถ้าจะใช้ในเชิงสร้างสรรค์ก็เป็นเรื่องที่ดี บางครั้งก็มีให้ส่งงานทางเฟซ หรือมีข่าวอะไรก็จะแจ้งทางเฟซ ก็สามารถรู้กันทั่วถึง คือรู้กฎ กติกา มารยาทในการใช้ ครูก็ต้องสอนเขาค่ะ"
       
       
       แม้ว่านานๆ ครั้ง เธอถึงจะเปิดคอมฯ เพื่อเข้าไปเช็คเว็บไซต์เฟซบุ๊ค เพราะที่บ้านไม่ได้ติดอินเทอร์เน็ต แต่พอเข้าไปแล้วเห็นอะไรไม่เหมาะสมครูอังคณาก็โพสตักเตือนเด็กๆ ทันที "บางทีครูเข้าเฟซเห็นอะไรไม่เหมาะสมก็จะตักเตือนบ้างว่า เดี๋ยวนี้เด็กๆ พูดไม่เพราะเลยนะ เขาจะตอบครับ..ค่ะ แต่นานๆ จะเข้าไปทีค่ะ
       
       
       ล่าสุดก็มีเด็กโทร. มาบอกว่าครูรู้ไหมว่าตอนนี้มีคนสร้างเพจปลอมโดยใช้ชื่อครู ครูก็บอกว่าครูยังไม่ทราบเลย ยังไม่เปิดคอมเลย เด็กก็บอกอีกว่ามีทั้งบอลปลอม โต๊ดปลอมเกิดขึ้นมาเยอะเลยค่ะ บางคนก็บอกว่าครูไปด่าบอล แต่พวกที่เป็นข่าวยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
       
       
       ทำไมถึงต้องฟ้องครูอังคณา?
       "ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะคะ ครูอังคณาเป็นคนที่ค่อนข้างใจดีมาก ไม่ใช่ครูที่ดุเลยค่ะ ครูคิดว่าที่เขาใช้คำว่าเดี๋ยวฟ้องครูอังคณาแน่ น่าจะหมายถึงว่า เวลามีเรื่องอะไรก็ตามใน 1/9 ครูอังคณาจะบอกเลยว่าในฐานะครูที่ปรึกษา ครูขอรู้จากพวกเรา อย่าให้ครูไปรู้จากคนอื่น ครูจะรู้สึกแย่มากเลยนะ ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องครูแล้วมีคนอื่นมาบอก ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในห้องเด็กๆ เขาก็จะบอกทุกเรื่องน่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นประเด็นนี้ ที่เขาพูดว่าถึงครูอังคณาแน่"
       
       สำหรับเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ทั้งเฟซบุ๊คแฟนเพจ ตัวจริง ตัวปลอม ครูอยากจะบอกว่าเป็นเรื่องสนุกของคนอื่น แต่เป็นเรื่องทุกข์ของคุณครู ทุกข์ของเด็กด้วย เพราะเขายังเด็กกันอยู่ คนที่มีความรู้มีความสามารถด้านนี้ก็อยากจะให้เอาไปใช้ในเชิงสร้างสรรค์มากกว่า" ครูอังคณาเปิดใจบนเว็บไซต์ soundcloud.com/peerapon-anutarasoat
       
       วลีเด็ดมาเร็ว...ไปเร็ว
       อย่างไรก็ตามวลีฮิตเหล่านี้ก็คงเป็นกระแสในช่วงสั้นๆ ดังเช่นที่วลีเด็ดๆ ที่ผ่านมา ซึ่งรูปแบบประโยคจะคล้ายคลึงกัน คือเป็นประโยคลอยๆ ขึ้นมา ฟังดูไร้สาระ แต่จะมีคนตั้งคำถามว่ามันคืออะไร? หลังจากนั้นคนก็จะค้นหาที่มาที่ไป และความหมายเพื่อไขความกระจ่าง จนกระทั่งถูกนำมาดัดแปลงกลายเป็นประโยคฮิต กลายเป็นวลีเด็ดที่ถูกส่งต่อกันอย่างแพร่กระจายภายในระยะเวลาอันรวดเร็วยิ่งกว่าเชื้อไวรัส
       
       
       "จนกระทั่งโดนธนูปักที่เข่า" หนึ่งในวลีที่เคยฮิตถึงขนาดมียอดคนกดLikeกว่า 3 หมื่น ซึ่งวลีประหลาดๆ นี้ เริ่มฮิตมาจากในกลุ่มคนเล่นเกมส์ The Elder Scrolls V:Skyrim ซึ่งมีตัวละครที่เป็นเหล่าทหารยามประจำเมืองต่างๆ ที่มักจะชอบพูดประโยค ที่ว่า "I used to be an adventurer like you, then I took an arrow in the knee" แปลเป็นไทยประมาณว่า "เมื่อก่อนฉันก็เคยเป็นนักผจญภัยอย่างคุณ จนกระทั่งโดนธนูปักที่เข่า เลยต้องมาเป็นยาม"
       
       "อาจจะมีพลังงานหรือวิญญาณอยู่ก็เป็นได้" อันนี้เป็นวลีแนวๆ ล้อเลียนคำพูดของพิธีกรรายการ "คนอวดผี" ซึ่งจะมีพิธีกรที่มีความสามารถพิเศษด้านจิตสัมผัส "ริว จิตสัมผัส" และ "เจน ญาณทิพย์" ซึ่งจะชอบพูดด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เมื่อแขกรับเชิญเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ว่า "อาจจะมีพลังงานหรือวิญญาณอยู่ก็เป็นได้" ก็เลยกลายเป็นประโยคที่เล่นใน Facebook แล้วก็แพร่กระจายมาเรื่อย ๆ ซึ่งเพจ "อาจจะมีพลังงานหรือวิญญาณอยู่ก็เป็นได้" ก็กลายเป็นเพจยอดนิยมติดอันดับ มีคนกด Like พุ่งไปถึง 5 หมื่น

http://youtu.be/cYxx8yuPGSQ

http://youtu.be/cjahvmPrbQo

http://youtu.be/ZOu1X0g0mT4

http://youtu.be/PmuhShyImtc

http://youtu.be/-yR7hh8UN5o


itchy


Predator